3 สมัยได้เรื่อง : เปิดไทม์ไลน์พัฒนาการ กัมพูชา ในมือ เคสึเกะ ฮอนดะ

แม้เส้นทางจะการเข้ารอบน็อคเอาท์จะจบลงไปแล้ว แต่กัมพูชา ของกุนซือ เคสึเกะ ฮอนดะ นั้นได้คำชมมากมาย จากแฟนบอลอาเซียน และเพื่อให้รู้ว่าทีมของเขาพัฒนาขึ้นมาแค่ไหน เราจะเปิดไทม์ไลน์ การคุมทีมกัมพูชาตั้งแต่ปี 2018 ถึงปี 2022 ของ เขาที่นี่

AFF 2018 ชี้ให้นักฟุตบอลเห็นเป้าหมาย

การเล่นแบบได้ใจของเชียร์ชนิดแฟนบอลไทยก็ยังอดชมไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องที่เกิดขึ้นในเกมล่าสุดเท่านั้น แต่พัฒนาการของกัมพูชาชุดนี้ดูเหมือนจะก้าวไปข้างหน้าแบบไม่หยุดยั้ง นับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาจับงานครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งในครั้งนั้น เขาได้ประเดิมทำทีมลงในรายการ AFF ซูซูกิ คัพ 2018 พอดิบพอดี

ณ เวลานั้น ฮอนดะ รับงานแบบไม่เอาเงินเดือน และเลือกคุมทีมจากระยะไกลโดยส่งโค้ชที่ชื่อ เฟลิกซ์ ดัลมาส เป็นคนควบคุมการซ้อมแทน โดยในขวบปีแรก ฮอนดะ เล่าว่าเขาแค่อยากจะให้ กัมพูชา เป็นทีมที่หาคาแร็คเตอร์ตัวเองให้เจอก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเขาเชื่อว่าถ้ามีเป้าหมาย จะสามารถเดินไปถึงมันได้โดยไม่หลงทาง ไม่ว่าจะเร็วหรือช้าก็ตาม

โดยในทีมชุดซูซูกิ คัพ 2018 ฮอนดะ ทดลองนักเตะอายุน้อยทันที โดยทีมชุดนั้นมีค่าเฉลี่ย 25.9 ปี โดยมีนักเตะอายุไม่เกิน 20 ปีถึง 5 คน แต่ผลที่ได้กลับดีเกินกว่าที่ใครคาดเอาไว้พอสมควร กัมพูชา เก็บ 3 แต้มแรกในรายการนี้ได้สำเร็จ ด้วยการชนะลาว 3-1 แม้เกมที่เหลือจะแพ้ แต่ก็แพ้แบบตามหน้าเสื่อ เป็นการแพ้แบบไม่ขาดลอยมากมายเหมือนแต่ก่อน ที่ต้องโดนระดับ 4-5 ลูกให้เห็นบ่อย ๆ

หนนี้ กัมพูชา เก็บได้ 3 แต้ม จาก 4 เกม ประตูได้เสียเหลือเพียง -5 เท่านั้น เทียบกับ AFF 2016 ที่ ไม่สามารถเก็บแต้มได้เลย แพ้รวดทุกเกมทีลงสนาม ... ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ภายใต้นักเตะที่เขาแทบไม่รู้จัก ซึ่งความพ่ายแพ้ในทัวร์นาเม้นต์นี้ นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงใน AFF 2020

AFF 2020 เลือดใหม่เพื่อเป้าระยะยาว

ปี 2018 ว่าเด็กแล้วแต่ 2020 นั้นถือเป็นทีมชุดที่เด็กลงกว่าเดิมอีก จาก 24.9 ปี กลายเป็น 22.1 ปี เท่านั้น โดยนักเตะอายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 16 ปีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพวกเขาใช้นักเตะจากชุดยู 19 เป็นหลักก็คงไม่ผิดนัก

โดย ฮอนดะ เปิดเผยก่อนทัวร์นาเม้นต์นี้เริ่มขึ้นว่า "สำคัญมากที่เราต้องสร้างทิศทางที่ดีขึ้นมา ฟุตบอลมันดีขึ้นไม่ได้ในวันสองวันหรอกครับ มันก็ต้องอดทน" นั่นแสดงให้ชัดเจนว่านี่ยังเป็นการลองนักเตะทุก ๆ คนที่อยู่ในสายตาของเขา ไม่ว่าจะน้อยหรือเยอะ จะได้รับโอกาสเพื่อให้เขามั่นใจว่านักเตะคนไหนที่จะเล่นกับแนวทางฟุตบอลของเขาได้ แนวทางดังกล่าวคือฟุตบอลที่เคลื่อนที่เยอะ มีการเพรสซิ่งอย่างหนัก กล้าครองบอล และกล้าเสี่ยงจะจ่ายบอลเพื่อแก้เพรสซิ่ง

ซึ่งทีมชุดนั้นก็เก็บได้ 3 แต้ม เช่นกัน จากการเอาชนะ ลาว 3-0 ส่วนเกมที่เหลือเป็นการพ่ายแพ้ทั้งหมด โดนยิงไป 11 ลูกจาก 4 เกม หนนี้ ฮอนดะ ถูกวิจารณ์บ้างเล็กน้อยว่าไม่สามารถยกระดับทีมได้ แต่ก็ให้สัมภาษณ์หลังทัวร์นาเม้นต์จบลงด้วยการมี 3 แต้ม ประตูได้เสีย -5 เท่ากับปี 2018 เป๊ะ

แต่เนื้อในรายละเอียดของเกมคือ กัมพูชา เล่นด้วยแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น พวกเขาพยายามจะแกะเพรสซิ่งเวลาเจอกับคู่แข่งที่เหนือกว่า ไม่ใช่การหวดทิ้งไปวัดกันข้างหน้าอย่างเดียว แม้ท้ายที่สุดเเล้ว กัมพูชา จะเสียประตูจากความผิดพลาดในการจ่ายบอลในแดนตัวเองถึง 5 ลูกจาก 11 ประตู

แต่ ฮอนดะ ก็ยักไหล่กับเรื่องนี้และตอบกลับอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ตำหนินักเตะที่เล่นผิดพลาด เพราะการผิดพลาดในทัวร์นาเม้นต์เล็ก ๆ จะกลายเป็นบทเรียนในอนาคตเมื่อเล่นในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่กว่านี้ ความผิดพลาดคือการเสริมความกล้า ทำให้นักเตะมีประสบการณ์และความมั่นใจมากขึ้นในอนาคต และหากมีความกล้าต่อให้เจอกับทีมที่ใหญ่กว่า พวกเขาก็จะสามารถเล่นในเกมของตัวเองได้

และทัวร์นาเม้นต์นี้ถือเป็นการแจ้งเกิดของนักเตะดาวรุ่งหลายคนที่ทำให้ ฮอนดะ สามารถใช้เป็นตัวหลักในทัวร์นาเม้นต์ 2022 ได้ นั่นคือ เสียง จันเทียะ และ ลิม พิโสธ ที่กลายเป็นกำลังสำคัญตั้งแต่อายุยังน้อย

AFF 2022 โมเดิร์น กัมพูชา

หลังจากลองกันมา 2 หน หนนี้ กัมพูชา ของ ฮอนดะ กลายเป็นทีมที่ดีกว่าเดิมแบบชัดเจน เนื่องจากนี่เป็นปีที่ 4 ย่างปีที่ 5 ของเขาเเล้ว โดยนักเตะชุดนี้คือนักเตะที่รวมตัวกันมาอย่างต่อเนื่อง ใช้งานมากันตั้งแต่เล่นรุ่นยู 19

นอกจากนี้ยังจัดเต็มด้วยทีมงานโค้ชที่อิมพอร์ทจากญี่ปุ่นทั้งหมด ตั้งแต่โค้ชผู้รักษาประตู, โค้ชฟิตเนส, โค้ชฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล, และ ผู้อำนวยการเทคนิค ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เด็ก ๆ ของกัมพูชาชุดนี้ ดูมีความคล่องตัว รวดเร็ว และความเข้าใจเกมสูงมาก จังหวะเปลี่ยนรับเป็นรุกกลายเป็นจุดเด่นของทีมชุดนี้เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังได้นักเตะลูกครึ่งที่ค้าแข้งในต่างประเทศ 3 รายได้แก่ บอริส คอค, เธียรี่ บินจันทา และ นิค เทย์เลอร์ ซึ่งก็ช่วงยกระดับนักเตะอายุน้อย ๆ อย่างเห็นได้ชัด

ผลที่ออกมาก็อย่างที่แฟนบอลไทยได้เห็นในเกมที่ กัมพูชา เจอกับ ไทย นั่นคือพวกเขามีวิธีการเล่นแบบโมเดิร์นฟุตบอล แม้คุณภาพจะน้อยกว่ามาก แต่วิธีการนั้นคล้ายกัน ฟุตบอลเพรสซิ่ง ต่อบอลกับเท้า ใช้จังหวะให้น้อย เปลี่ยนจากรับเป็นรุกให้เร็ว ซึ่งมันยืนยันได้ด้วยสถิติ นั่นคือ กัมพูชา เป็นทีมที่สร้างโอกาสจะแจ้งในการทำประตู (หลุดเดี่ยวหรือยิงจ่อๆ)ได้ทั้งหมด 12 ครั้งมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในรายการเวลานี้ น้อยกว่าแค่ 2 ทีมคือ ไทย 4 ครั้ง และ อินโดนีเซีย 3 ครั้ง ทั้งที่โอกาสยิงประตูรวมทั้งหมดเป็นอันดับ 5 (58 ครั้ง) ส่วนเปอร์เซ็นต์ครองบอลนั้นอยู่อันดับ 7 จาก 10 ทีมเลยทีเดียว (เฉลี่ย 47.05 %)

เกมรุกของ กัมพูชา นั้นใช้จังหวะไม่เปลือง พวกเขามีโอกาสยิงจะแจ้งทั้งหมด 12 ครั้ง และพวกเขาเปลี่ยนโอกาสนั้นเป็นประตูได้ถึง 6 ลูก ซึ่งจำนวนการพลาดนั้นน้อยกว่าทีมชาติไทย (9 ครั้ง) และ อินโดนีเซีย (7ครั้ง) และแน่นอนตารางคะแนนไม่ได้โกหกใคร ใน AFF 2022 กัมพูชา เก็บได้ 6 แต้มจากการลงเล่น 4 เกม และหนนี้พวกเขายิงได้ถึง 10 ประตู ประตูได้เสียรวม +2 ... แทบไม่ต้องอธิบายต่อเลยว่า กัมพูชา ในมือของ ฮอนดะ พัฒนามากขึ้นขนาดไหนในช่วง 4-5 ปีนี้

โดยสรุปแล้วความยอดเยี่ยมของกัมพูชาชุดนี้เกิดจากการอดทนสร้างวิธีการเล่นตั้งแต่วันที่นักเตะยังไม่มีความเข้าใจ เริ่มนับ 1 ใหม่ไปพร้อม ๆ กันทั้งนักเตะและโค้ช ปรับและเรียนรู้ จนกระทั่งได้การสนับสนุนเชิงโครงสร้างนั่นคือทีมเยาวชนที่ซึมซับวิธีการเล่นแบบ "ฮอนดะ เวย์" มาจนกระทั่งมาสุกงอมเอาใน AFF2022 ในท้ายที่สุด

แม้สุดท้าย กัมพูชา จะต้องตกรอบไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มได้ แต่อย่าลืมว่าทีมชุดนี้ของพวกเขาคือทีมที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 (24.5 ปี) ของทัวร์นาเม้นต์ การที่เด็ก ๆ ของ ฮอนดะ แสดงผลงานทั้งในสนาม ในแง่สถิติ และอันดับในตารางได้ดีขนาดนี้ เป็นที่แน่ชัดเเล้วว่าในรายการระดับภูมิภาคครั้งต่อ ๆ ไปทีมยักษ์ใหญ่ในอาเซียน ห้ามมองข้ามทีม กัมพูชา เป็นอันขาด

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

โมเดิร์นกัมพูชา : ‘ฮอนดะสไตล์’ การสอนให้นักเตะ วิ่ง บู๊ และกินอยู่แบบมืออาชีพ

กลุ่มไทยเป็นอย่างไร ? : สรุปผลการแข่งขัน, ตารางคะแนน กลุ่ม A

Inverted Wing Back : ตำแหน่งที่ทำให้ ธีราทร เล่นกองกลางได้เนียนตา

แหล่งอ้าอิง

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด