5 ลูกครึ่ง-ลูกเสี้ยว ‘อินโดนีเซีย’ ที่ทัพช้างศึก อาจต้องดวลแข้งในศึกชิงแชมป์อาเซียน
หลังจาก ทีมชาติอินโดนีเซีย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ภายใต้การคุมทัพของ ชิน แท-ยง ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจบนเวทีชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 ด้วยการผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ คว้าโควต้าไปลุ้น เพลย์ ออฟ กับ ทีมชาติกินี ยู-23 เพื่อหาชาติไปเล่นบนเวที โอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
แน่นอนว่าในปีนี้ย่านอาเซียน จะมีโปรแกรมสำคัญในวงการฟุตบอลแข่งขันกันถึงสองรายการ คือ ซีเกมส์ 2024 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2024 ที่จะเตะกันช่วงปลายปี แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนเกี่ยวกับโปรแกรมการแข่งขันที่ถูกวางไว้คร่าวๆ ซึ่งทับซ้อนกับศึกชิงแชมป์สโมสรเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก
ทั้งสองทัวร์นาเมนต์เป็นรายการที่ ทีมชาติไทย ต้องส่งทีมลงแข่งขันแบบเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ตรงกับปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ แต่ด้วยคำว่า ‘เจ้าอาเซียน’ ทำให้เราเอาจริงเอาจังกับการแข่งขันย่านนี้เสมอ ถึงแม้จะไม่ได้ตัวหลักมาเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องหาชุดที่ดีที่สุดไปต่อกรกับชาติอื่นๆ มาโดยตลอด
ถึงแม้ไม่รู้ว่า แท-ยง เฮดโค้ชคนเก่งของพวกเขาจะรับงานคุมทีมต่อไปหรือไม่? แต่ผลผลิตที่โค้ชชาวเกาหลีใต้ทิ้งเอาไว้ มีสิทธิ์จะกลายมาเป็น ‘หนามยอกอก’ ทีมชาติไทย ของเราในอนาคตอันใกล้ ซึ่งอาจได้ดวลกันเร็วกกว่าที่คิดในปีนี้เลย โดยเฉพาะเหล่าลูกครึ่ง-ลูกเสี้ยว ของทัพ ‘อิเหนา’ ที่กระจายค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรป ที่นับกันจริงๆ แล้วมีจำนวนมากกว่า ไทย เสียอีก
5 ดาวเตะเชื้อสายอินโดผสมยุโรปที่น่าจับตามองจะมีใครกันบ้าง? ทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้คัดเลือกตัวเด่นที่มามัดรวมเอาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว
นาธาน โจ-อา-โอน (Nathan Tjoe-A-On)
แนวรับสาระพัดประโยชน์วัยแค่ 22 ปี ที่เกิดที่เมือง ร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ สามารถเล่นได้ทั้ง แบ็คซ้าย, ปราการหลังตัวกลาง และ กองกลางเชิงรับ เป็นเยาวชนที่ถูกปลุกปั้นมาจากอคาเดมี่ของสโมสร เอ็กเซลซิเออร์ สโมสรในศึก เอเรดิวิซี่ ลีก ไต่เต้าตามระดับอายุมาจนถึงทีมชุดใหญ่ ฤดูกาล 2022/23 ได้ลงเล่นบนลีกสูงสุดแดนกังหันลมไปถึง 29 นัด ทำไป 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ฟอร์มดีจนไปเตะตา สวอนซี ซิตี้ ทีมในลีกรองประเทศอังกฤษ คว้าตัวไปร่วมทีมแบบไม่เปิดเผยค่าตัว แต่ยังไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งในทีมได้ จึงถูกปล่อยมาเล่นให้กับ ฮีเรนวีน อยู่ในขณะนี้ โดยในซีซั่นนี้เขาได้ลงสนามไปแล้ว 4 เกม ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งกำลังหลักของ ทีมชาติอินโดนีเซีย ยู-23 ที่ผ่านไปถึงรอบรองชนะเลิศชิงแชมป์เอเชีย
จัสติน ฮุบเนอร์ (Justin Hubner)
อีกหนึ่งสมาชิกตัวหลักของ ทีมชาติอินโดนีเซีย ยู-23 ชุดล่าสุด เป็นแนวรับเชื้อสายเนเธอร์แลนด์ ที่เกิดที่เมือง เดน บอสช์ เริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับอคาเดมี่ของ บราบันท์ ยูไนเต็ด ก่อนจะผ่านเข้าไปสู่ทีมเยาวชนของ เดน บอสช์ ไต่เต้าไปถึงชุด ยู-17 ก่อนจะถูกขายไปให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ในปี 2020 ใช้เวลาฝึกฝนจนเชี่ยวกรำมาจ่อรอขึ้นชุดใหญ่ หลังกลายเป็นสมาชิกของ หมาป่า ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ฮุบเนอร์ เซนเตอร์แบ็ควัย 20 ปี ปัจจุบันเขามีส่วนสูงถึง 187 เซนติเมตร ย้ายมาเล่นแบบยืมตัวให้กับ เซเรโซ โอซาก้า จ่าฝูงของ เจ ลีก ประะทศญี่ปุ่น อยู่ในตอนนี้ ซึ่งเขาได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดชั่วคราวไปแล้ว 2 นัด จากอายุอานามและผลงานอันโดดเด่นกับทีมชาติ ดูท่าว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะแห่งอนาคตที่จะอยู่รับใช้ทัพ การูด้า ไปแบบยาวๆ เลยทีเดียว
เจย์ อิดเซส (Jay Idzes)
ปราการหลังลูกเสี้ยวอินโดนีเซีย ที่เชื้อสายของเขามาจากทางฝั่งคุณแม่ เกิดและเติบโตที่เมือง เมียร์โล่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นผลผลิตของสโมสร พีเอสวี ไอน์ดโฮเฟ่น ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ วีวีวี เวนโล่ ชุดเยาวชน ยู-17 หลังจากนั้นก็ถูกดึงตัวไปอยู่กับ เอฟซี ไอนด์โฮเฟ่น ทีมในลีกรองแดนกังหันลม ไต่เต้าจนถูกดันขึ้นไปเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2021/22 เป็นแกนหลักที่ได้ลงสนามทุกรายการไปถึง 28 นัด ทำไป 1 ประตู 1 แอสซิสต์ ก่อนถูกทาง โก อเฮด อีเกิ้ล ทีมในลีกสูงสุดดึงตัวไปร่วมทีมแบบไม่เปิดเผยค่าตัวในปีต่อมา แล้วด้วยผลงานอันแข็งแกร่งก็ยังคงได้เป็นตัวหลักเช่นเดิม ลงสนามรวมทุกถ้วยไปถึง 35 นัด ยิงได้ 2 ประตู หลังจากนั้นก็ถูกทาง เวเนเซีย ทีมในศึก กัลโช่ เซเรีย บี อิตาลี ต้นสังกัดปัจจุบันคว้าตัวไปร่วมทีม ฤดูกาลนี้เขาลงเล่นทุกรายการไปแล้ว 23 นัด น่าเสียดายที่ลงทะเบียนในศึกชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 ไม่ทันเวลา แต่อย่างน้อย อิดเซส ก็ลงประเดิมสนามให้กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ชุดใหญ่ไปแล้ว 2 เกม แถมเบิกสกอร์แรกให้กับทีมได้แล้วด้วย ซึ่งในวัยเพียงแค่ 23 ปี รับรองได้เลยว่า เขาจะเป็นตัวหลักให้กับทีมไปได้อีกยาวๆ
อิวาร์ เจนเนอร์ (Ivar Jenner)
กองกลางเชิงรับเชื้อสายดัตช์วัย 20 ปี ซึ่งเชื้อสายอินโดนีเซียของเขามาจากฝั่งคุณย่าหรือย้อนกลับไประดับบรรพบุรุษเลยทีเดียว พ่อของเขาเป็นลูกครึ่งอิเหนาที่เกิดที่เกาะชวา ดังนั้นทาง เจนเนอร์ จึงนับว่าเป็นลูกเสี้ยว สามารถลงเล่นให้กับทัพ การูด้า ได้แบบไร้ข้อกังขา เขาเป็นผลผลิตในอคาเดมี่ของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม หนึ่งในอคาเดมี่ที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล ก่อนจะย้ายมาอยู่กับอคาเดมี่ของ อูเทร็คช์ สโมสรในเมืองที่เขาเกิด ไต่เต้ามาจนถึงระดับรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี ส่วนสูงของเขานั้นมากถึง 188 เซนติเมตร รับบทเป็นจอมทัพให้กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ยู-23 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย ทั้งตัดเกมและลำเลียงบอลจากแดนหลังไปแดนหน้า จากผลงานอันโดดเด่นเกินวัยเชื่อว่าวันหนึ่ง เจนเนอร์ จะได้ลงโชว์ฝีเท้าบนลีกสูงสุดแดนกังหันลมในระยะเวลาอันใกล้
ราฟาเอล สตรูอิค (Rafael Struick)
แนวรุกสาระพัดประโยชน์วัย 21 ปี จากสโมสร เอดีโอ เดน ฮาก ในลีกรองแดนกังหันลม เชื้อสายอินโดนีเซียของเขามาจากบรรพบุรุษที่เป็นชาวชวา อพยพไปอยู่ที่ ซูรินาม ก่อนจะเข้าไปอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ในฐานะผู้ลี้ภัย สตรูอิค เกิดที่เมือง เลียดเชนดัม เข้าฝึกฟุตบอลกับอคาเดมี่ของ อาร์เคเอวีวี ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เอดีโอ เดน ฮาก ในปี 2020 ปัจจุบันเขาลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 6 นัด แม้ว่าจะยังทำประตูไม่ได้ แต่ก็ดูมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ซึ่งผลงานอันเอกอุของเขาในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมปฺ์เอเชีย ยู-23 คือ การเป็นฮีโร่เหมาคนเดียวสองประตู พาทีมยันเสมอกับ เกาหลีใต้ 2-2 ก่อนไปชนะในการดวลจุดโทษ 11-10 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ แล้วการันตีอย่างน้อยว่าจะได้ไปเล่นรอบ เพลย์ ออฟ ดวลกับ ทีมชาติกินี ยู-23 เพื่อชิงตั๋วไป ปารีส โอลิมปิกส์ 2024
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :