อัซซิดดีน อูนาฮีย์ : ตัวละครลับจากโมร็อกโก ที่ได้ทุนจากกษัตริย์มาเล่นฟุตบอล

โมร็อกโก ร้อนแรงเหลือหลายในฟุตบอลโลก 2022 นักเตะหลายคนเล่นดีสุด ๆ ซึ่งแต่ละคนก็ชื่อคุ้น ๆ ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น อชราฟ ฮาคิมี่, โซฟียาน บูฟาล, โซฟียาน อัมราบัต หรือ ฮาคิม ซิเย็ค

แต่ที่แน่ ๆ มีหนึ่งคนที่เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะคุ้นชื่อไม่รู้ว่าเขาคือใคร มิดฟิลด์ร่างผอมบาง แต่วิ่งไม่มีหมด ไล่บู๊เหล่าสตาร์แบบถูกใจแม่ยก ..

ชื่อของเขาคือ อัซซิดดีน อูนาฮีย์ ... เล่นดีขนาดนี้เป็นใครมาจากไหนติดตามที่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ผู้ถูกเลือกจากพระมหากษัตริย์

ในขณะที่ทีมชาติ โมร็อกโก กลายเป็นม้ามืดของฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้มีข้อมูลเผยว่าทีมชุดนี้เต็มไปด้วยคนหนุ่มที่ไมได้เกิดในประเทศ โมร็อกโก พวกเขาอาจจะมีเชื้อสาย แต่เกิด และโต ในชาติต่าง ๆ อาทิ ฮาคิม ซิเย็ค ทีเกิดในเนเธอร์แลนด์ส, อชราฟ ฮาคิมี่ ทีเกิดใน สเปน และ ยาสซีน โบโน่ เกิดในแคนาดา เป็นต้น

วาริด เรกรากี กุนซือของ โมร็อกโก บอกว่าเขาจำเป็นจะต้องใช้นักเตะที่เกิดและโตที่อื่นมาเล่นทีมชาติชุดนี้เพราะนักเตะเหล่านี้คุณภาพดี มีประสบการณ์ แม้จะต้องขัดใจแฟนบอลบ้างในตอนแรกก็ตาม

อย่างไรเสีย ก็ใช่ว่านักเตะที่เกิด โต และเล่นฟุตบอลในโมร็อกโก จะไม่ได้มีคุณภาพ และเราก็เชื่อว่าทั้งโลกได้เห็นแล้วผ่านวิธีการเล่นของกองกลางหมายเลข 8 ที่ชื่อว่า อัซซิดดีน อูนาฮีย์

อัซซิดดีน อูนาฮีย์ เกิดและโตที่เมือง คาซาบลังก้า โดยตัวของเขานั้นถือเป็นเด็กฝีเท้าดีจากอคาเดมี่ของสโมสร ราจา คาซาบลังก้า

จนกระทั่งวันหนึ่งรัฐบาลประเทศโมร็อกโกได้สร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติที่ชื่อว่า Mohammed VI Football Academy โดยได้รับงบประมาณจากพระมหากษัตริย์ โมฮัมเหม็ดที่ 6 เพื่อยกระดับพัฒนาการด้านฟุตบอลของเยาวชนในประเทศ

ณ จุดนี้ทางอคาเดมี่จึงได้เดินทางไปเลือกเด็ก ๆ ที่มีแววจากทั่วประเทศ และ อูนาฮีย์ ก็ถูกเลือกเข้าไปเป็นหนึ่งในโครงการนี้ ตอนที่เขาอายุ 15 ปี โดยเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ถูกเรียกมาติดทีมชาติ โมร็อกโก ชุดนี้หลายคนก็เติบโตมาจาก อคาเดมี่ ดังกล่าวด้วยเช่น ยูสเซฟ เอ็น-เนสซีรี กองหน้าที่โหม่งประตูชัยใส่ โปรตุเกส ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นต้น

หลักการของอคาเดมี่แห่งนี้คือเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับนักเตะที่เข้ามาร่วมฝึกซ้อม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก เทคโนโลยีในการฝึกซ้อม และพวกเขายังเลี้ยงดูทุก ๆ คนเป็นอย่างดี ได้กินอิ่มนอนหลับ นอกจากนี้ยังได้ทุนการศึกษาอีกด้วย

จากนั้นเมื่อเด็ก ๆ โตขึ้นและเริ่มมีพัฒนาการที่ชัดเจน อคาเดมี่เเห่งนี้ก็จะใช้คอนเน็คชั่นที่มีติดต่อกับเอเย่นต์หรือทีมต่าง ๆ ในยุโรปเพื่อให้เด็กเหล่านี้ได้เติบโตขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน กล่าวคือเมื่อเรียนรู้หลักฟุตบอลที่ถูกต้องจากอคาเดมี่นี้จนหมดสิ้นเเล้ว พวกเขาจะได้ก้าวไปยังบันไดขั้นต่อไป นั่นคือฟุตบอลยุโรปที่เข้มข้น และมีคุณภาพกว่านั่นเอง

อัซซิดดีน อูนาฮีย์ ถือเป็นตัวท็อปของรุ่น เมื่อเขาอายุครบ 18 ปีก็ถึงคิวที่ต้องเดินทางไปยังสเต็ปต่อไป นั่นคือไปเล่นในยุโรป และสโมสรทีติดต่อเขามาคือ สตาร์สบูร์ก ทีมที่อยู่ในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส

ได้ยินแบบนี้เรื่องมันควรจะต้องเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทว่าการไปฝรั่งเศสรอบนี้ อูนาฮีย์ กลับพบว่าแท้จริงแล้ว เขาไม่ได้ย้ายมาเพื่อลงเล่นในลีกเอิงแบบที่ตัวเองคิด … มันหนักกว่านั้นเยอะเลยทีเดียว

กว่าจะได้เล่นเกมอาชีพ

อูนาฮีย์ เซ็นสัญญญากับ สตาร์สบูร์ก ก่อนเริ่มฤดูกาล 2018-19 ในตอนแรกเขาคิดว่าการย้ายทีมครั้งนี้จะทำให้เขาได้เป็นนักเตะของทีมชุดใหญ่และมีส่วนร่วมในเกมลีกบ้าง ทว่าเมื่อย้ายไปจริง ๆ เขากลับได้ลงเล่นแค่เกมระดับทีมสำรองเท่านั้นตลอด 2 ปีที่อยู่กับสโมสรแห่งนี้

อูนาฮีย์ นั้นออกมาจาก โมร็อกโก ด้วยความมั่นใจ เขาคิดว่าในบทบาทกองกลาง เขาสามารถสอดแทรกทีมชุดใหญ่ได้ เขาเฝ้ารอโอกาสที่จะถูกเรียกทุกวัน แต่เเล้วโอกาสนั้นก็ไม่เคยมาถึงเขาเลยสักครั้งเดียว... ไม่ว่าเหตุผลเรื่องของฝีเท้าหรืออะไรก็ช่าง อูนาฮีย์ ไม่ค่อยเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาได้รับนี้ เพียงแต่เขาจำเป็นต้องยอมรับในสิ่งทีเ่กิดขึ้น

"ผมเซ็นสัญญากับทีมเพราะผมเข้าใจว่าแรกๆ ผมอาจจะได้เล่นทีมสำรองแต่เมื่อเวลาผ่านไปผมจะได้สัญญาอาชีพฉบับแรก ... ช่วงที่โควิด-19 สโมสรก็มีผลกระทบทางการเงิน ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ แต่จนเเล้วจนรอด ยกเลิกล็อคดาวน์ก็เเล้วผมก็พบว่าผมนั้นคิดผิดไป" อูนาฮีย์ สัมภาษณ์กับ FIFA

"หากมันเป็นเรื่องของฟุตบอลผมว่าผมพยายามยอมรับมันได้ แต่จริง ๆ แล้วผมคิดเสมออย่างน้อย ๆ ผมยังสามารถเล่นในลีกเอิง หรือลีก เดอซ์(ดิวิชั่น 2 ของฝรั่งเศส) ได้" เขาว่าเช่นนั้น

อูนาฮีย์ หมดสัญญากับ สตาร์สบูร์ก โดยไม่ได้ลงเล่นเกมชุดใหญ่ ไม่ได้รับสัญญาอาชีพดังที่กล่าวไป ทำให้ในปี 2020 เขาต้องหาสโมสรใหม่เล่น และด้วยความที่ไม่มีผลงานเด่นชัด ทำให้ไม่มีทีมจากลีกสูงสุดหรือลีกรองสนใจในตัวเขา อูนาฮีย์ จึงต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ด้วยตัวเอง ด้วยการเซ็นสัญญากับ Avranches ทีมในระดับดิวิชั่น 3 ของประเทศฝรั่งเศสเเทน

แม้จะเล่นในระดับที่ต่ำ แต่ฝีเท้าของเขาได้บอกราคาของตัวเอง เขาลงเล่นซีซั่นแรก 28 นัดทำไป 5 ประตู 1 ปีกับ Avranches เขาสร้างผลงานให้กับคนในสโมสรประทับใจแบบสุด ๆ เฟเริก เรคูโล กุนซือของทีมบอกว่า

“ผมรู้ว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีมาก ๆ แต่ถ้าจะถามผมว่าตอนนั้นผมคิดไหมว่าเขาจะไปถึงระดับเป็นดาวเด่นในฟุตบอลโลก ผมคงต้องบอกว่ามันยากที่จะเชื่อ”

“แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เขาสมควรจะได้รับมันอย่างเต็มที่ และผมดีใจมากที่ได้เห็นเขาเล่นในแบบที่เขาเป็นในตอนนี้ ทั้งในลีกเอิงและในฟุตบอลโลก” เรคูโล กล่าวหลังเห็นอดีตลูกทีมที่เมื่อ 18 เดือนก่อนยังเล่นในดิวิชั่น 3 กลายเป็นนักเตะที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลกในเวลานี้

ปีนั้นปีเดียว อูนาฮีย์ ถูกแมวมองของ อองเช่ร์ ทีมในลีกเอิงตามส่องฟอร์มและสุดท้ายพวกเขาก็ยื่นซื้อตัว อูนาฮีย์ ไปร่วมทีม ... เขาได้เล่นในลีกเอิงสมใจ

แต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้... เรื่องมหัศจรรย์ในอาชีพของเขาเพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้นเอง

18 เดือนจากดิวิชั่น 3 ถึง ฟุตบอลโลก

อูนาฮีย์ เล่นกับ อองเช่ร์ ในฤดูกาล 2021-22 หนนี้ไม่ต้องไปทีมสำรองหรือใด ๆ ทั้งสิ้นเขายึดตัวหลักของทีมได้ทันที แม้ในลีกอาจจะยังไม่มีใครเห็นความสามารถของเขามากนัก

แต่ในช่วงเวลานั้น วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช กุนซือของ โมร็อกโก (ก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่ม) ได้ส่งแมวมองมาดูฟอร์มของ อูนาฮีย์ และประทับใจเป็นอย่างมาก วาฮิด จัดการเรียกตัว อูนาฮีย์ ติดทีมชุด แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2021 โดยที่ อูนาฮีย์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้ง 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม

แค่นั้นก็พอแล้ว วิธีการเล่นแบบทีทุกคนได้เห็นกันในฟุตบอลโลกได้ฉายออกมา อูนาฮีย์ โดดเด่นที่ความคล่องตัว ไหวพริบดี และวิ่งได้ไม่มีหมด เขาได้รับคำชมจากรุ่นพี่ในทีมหลายคน

นาเยฟ อาการ์ด พูดถึง อูนาฮีย์ ในช่วงติดทีมชาติแรก ๆ ว่า "เขาคือผู้เล่นที่มีความเป็นมืออาชีพสูงมากจริง ๆ เป็นนักเตะที่เก่งด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นใน แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2021 และฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แสดงให้เห็นว่าเขาคือส่วนสำคัญของทีม อูนาฮีย์ คือนักเตะที่มีเทคนิคโดดเด่นมากที่สุดในทีมของเรา ... แน่นอนเราแฮปปี้กับผลงานของเขามาก"

อูนาฮีย์ ยิงไป 3 ลูกกับทำไปอีก 2 แอสซิสต์ในช่วงฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แม้ โมร็อกโก จะมีการเปลี่ยนกุนซือ แต่ความโดดเด่นนี้ก็ยังเข้าตากุนซือใหม่อย่าง วาริด เรกรากี จนเขาได้มาเล่นฟุตบอลโลก

18 เดือนจากดิวิชั่น 3 ในฝรั่งเศส สู่เวทีที่ใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลก อูนาฮีย์ แสดงผลงานในแบบที่พูดได้เต็มปากว่า "เด่นทุกเกม" รอบแบ่งกลุ่มชื่อของเขายังไม่ค่อยโดนจดจำเท่าไร่นัก เขาอธิบายถึงช่วงนี้ว่า

“ใน 2 เกมแรก ผมพยายามเล่นให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้บอลเสียมากเกินไป พอมาถึงในเกมกับแคนาดา ผมต้องการแสดงให้เห็นว่าฉันสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้ดูผ่อนคลายมากขึ้น ผมได้บอลมากขึ้นเพื่อแสดงฝีมือมากขึ้น และปรับเข้ากับจังหวะของเกมให้ได้มากขึ้น" อูนาฮีย์ กล่าว

แต่เเล้วเมื่อถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับ สเปน ที่ต้องบอกว่าเป็นเกมแจ้งเกิดของเขาจริง ๆ อูนาฮีย์ พา โมร็อกโก คว่ำ สเปน ได้ในการดวลจุดโทษ โดยหลังจากเกมนั้นจบลง หลุยส์ เอ็นริเก้ ถึงกับพูดออกสื่อว่า "นักเตะคนนี้มาจากไหน ?"

"พระเจ้า ไอหนุ่มคนนี้เขามาจากไหนกัน ... นักเตะ โมร็อกโก ที่ผมประทับใจที่สุด ผมคิดว่าเป็นนักเตะหมายเลข 8 ผมจำชื่อเขาไม่ได้ ผมขอโทษจริง ๆ แต่เขาคนนี้เหลือเชื่อมาก ๆ ไม่ว่าบอลจะไปทางไหน เขาไปอยู่ตรงนั้นทุกที่ ผมกล้าเดิมพันเลยว่าหลังเกมเขาต้องวิ่งจนลิ้นห้อยแน่ ๆ" เอ็นริเก้ หล่นคำชม

ผลงานของ อูนาฮีย์ ยังคงร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ โมร็อกโก เชือด โปรตุเกส ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์แอฟริกาที่สามารถผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ และตอนนี้ชื่อของ อูนาฮีย์ กลายเป็นชื่อที่ใคร ๆ ก็จำได้ไปเสียเเล้ว ... เรื่องทั้งหมดนี้เขาใช้เวลาเพียง 18 เดือนเท่านั้น นี่คือช่วงเวลาที่เหมือนกับฝันไปของเขาอย่างแท้จริง

"สิ่งทีเกิดขึ้นมันเหลือเชื่อมาก ๆ แทบไม่คิดว่ามันจะเป็นจริง หนึ่งปีก่อนผมเริ่มติดทีมชาติครั้งแรก และผมไม่เคยคิดถึงฟุตบอลโลกเลย ... ผมพยายามทำให้ตัวเองก้าวหน้า ผมทำงานหนักเสมอ ผลงานของผมกับ อองเช่ร์ ทำให้ผมได้กลายเป็นตัวเลือกในท้ายที่สุด" เขาบอกแบบนั้น

ถึงตอนนี้คำชมของทั้งโลกถูกส่งมาที่เขา แต่หน้าที่ของ อูนาฮีย์ ในทัวร์นาเม้นต์นี้ยังไม่จบ เด็กหนุ่มวัย 22 ปี กำลังโลดเเล่นอยู่บนเส้นทางที่เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้เขากำลังล่าแชมป์โลก และไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องกลัวอีกเเล้วเมื่อมาถึงตรงนี้

สำหรับชีวิตคนเราบางครั้งก็ต้องการความเชื่อมั่นในตัวเอง ในวันที่ไม่มีใครเห็นความสามารถ หากเรายังเชื่อว่าตัวเองทำได้ ก้มหน้าทำงานต่อไป ไม่ช้าก็เร็วความพยายามนั้นจะตอบเเทนเราไม่มากก็น้อย... แต่ในกรณีของ อูนาฮีย์ นั้น ความพยายามตอบแทนเขาอย่างสาสมใจ แบบหาที่ไหนมาเปรียบไม่ได้อย่างแท้จริง

https://www.fifa.com/fifaplus/en/articles/world-cup-qatar-2022-morocco-azzedine-ounahi-remarkable-rise-youngest-player

https://en.wikipedia.org/wiki/Azzedine_Ounahi

https://www.tf1info.fr/sport/video-football-coupe-du-monde-2022-au-qatar-maroc-espagne-mais-d-ou-sort-ce-gars-azzedine-ounahi-la-promesse-marocaine-qui-a-epate-luis-enrique-2241073.html

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด