แชมป์เคลีกคือของหวาน : เจาะเคล็ดลับ ยะโฮร์ โค่น อุลซาน 3 จาก 4 เกมหลังสุด
ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม พลิกสถานการณ์กลับมามีโอกาสเข้ารอบน็อคเอาท์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง หลังเปิดบ้านรวมพลังเอาชนะ อุลซาน ฮุนได แชมป์เคลีก 2 สมัยติด ไปแบบสะใจกองเชียร์ 2-1 ทำให้พวกเขา มี 6 คะแนน จาก 4 เกม เท่ากับ อุลซาน ได้ลุ้นต่อในโปรแกรม 2 เกมสุดท้าย
คนส่วนใหญ่ที่เห็นผลการแข่งขันคู่นี้ คงคิดว่านี่คือการพลิกล็อคครั้งใหญ่ ด้วยระดับฟุตบอลที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ระหว่าง ลีกเกาหลีใต้ กับ ลีกมาเลเซีย แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะ ยะโฮร์ ทำได้ดีกว่า อุลซาน อย่างชัดเจน เมื่อโคจรมาพบกันในช่วงหลัง
ฤดูกาลที่แล้ว ยะโฮร์ กับ อุลซาน ก็อยู่ในสายเดียวกันในถ้วย ACL ปรากฏว่า ทีมเสือร้ายแห่งมาเลเซีย ปราบ แชมป์เคลีก ได้ทั้งเกมเหย้าเกมเยือน ด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งสองนัด และเป็นฝ่ายตีตั๋วเข้าสู่รอบน็อคเอาท์
จากสถิติ 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เท่ากับว่า ยะโฮร์ เอาชนะ อุลซาน ได้ถึง 3 เกม จาก 4 ครั้งหลังสุด (แพ้ไป 1 เกม) ในถ้วยสโมสรชิงแชมป์เอเชีย มันบ่งบอกชัดเจนว่า ชัยชนะครั้งล่าสุดไม่ใช่เรื่องฟลุคแต่อย่างใด
เรื่องนี้ต้องให้เครดิต ตุนกู อิสมาอิล สุลต่าน อิบราฮิม มกุฎราชกุมารแห่งรัฐยะโฮร์ ผู้รักเกมฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ที่เข้ามายกระดับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม จากการทุ่มเงินดึงผู้เล่นฝีเท้าดี ๆ ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศเข้ามาเสริมแกร่ง จนกลายเป็นสโมสรเบอร์หนึ่งของประเทศไปแล้ว และยังสามารถก้าวขึ้นไปต่อกรกับสโมสรแถวหน้าของเอเชียได้อย่างสูสี
นับตั้งแต่ได้ เจ้าชายตุนกู เข้ามาดูแลทีม ยะโฮร์ คว้าแชมป์ลีกมาเลเซีย 10 สมัยติดต่อกันแล้ว นั่นทำให้นักเตะของทีมชุดนี้มีจิตวิญญาณความเป็นผู้ชนะ (Winning Mentality) แบบเต็มเปี่ยม ต่อให้ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากแค่ไหน พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันและคว้าชัยชนะมาให้กับทีมได้
เหมือนกับเกมเมื่อวานนี้ (7 พฤศจิกายน) ยะโฮร์ ถูก อุลซาน ตามตีเสมอ 1-1 ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย แต่พวกเขายังรวมใจกันสู้จนกลับมายิงประตูแซงชนะได้ในนาทีที่ 87 ซึ่ง เอสเตบัน โซลารี่ กุนซือของทีม กล่าวว่า แคแรคเตอร์เหล่านี้ของนักเตะคือกุญแจที่ช่วยทีมเอาชนะแชมป์เคลีกได้
"เราเกือบปิดเกมได้ตั้งแต่ครึ่งแรกหลังจากเป็นฝ่ายครองเกมได้ดีกว่า แต่เราโชคร้ายที่ลูกยิงของ ฟอเรสติเยรี่, เบิร์กสัน และ เฮแบร์ตี้ ไปชนเสาและคานทั้งหมด" โซลารี่ กล่าว
"เกมนี้แตกต่างจากเกมนัดก่อน เราเล่นเกมรับได้แน่นขึ้น นักเตะช่วยกันวิ่งมากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แคแรคเตอร์ที่ไม่มีทางยอมแพ้ของพวกเขา"
"ต่อให้จะโดนคู่แข่งยิงประตูตีเสมอ แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ ตรงกันข้ามเรายังพยายามเล่นเกมรุกโจมตีฐานที่มั่นของคู่แข่งต่อไป นี่คือเหตุผลที่ผมเชื่อว่าเราจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ ผมจึงส่ง อัคห์ยาร์ ราชิด (คนยิงประตูชัย) ลงไป และมันก็ได้ผลจริง ๆ"
"ผมมีความสุขที่เราเอาชนะทีมแชมป์ลีกเกาหลีใต้และเพิ่มโอกาสผ่านเข้ารอบ ความสำเร็จนี้มาจากการทำงานหนักของนักเตะที่ไม่เคยสูญเสียความหวัง"
สำหรับเกมต่อไป ยะโฮร์ จะออกไปเยือน คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ที่การันตีเข้ารอบแล้ว ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ก่อนจะกลับมาเล่นในบ้านปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในวันที่ 12 ธันวาคม
อ้างอิง : https://www.hmetro.com.my/arena/bola-sepak/2023/11/1028213/solari-tabik-aksi-luar-biasa-jdt