แฮริส วูชคิช : ดาวยิงบุรีรัมย์ที่เคยเล่นพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ 19 และอดีตคู่ซ้อมของ 'กาก้า'

แฮริส วูชคิช : ดาวยิงบุรีรัมย์ที่เคยเล่นพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ 19 และอดีตคู่ซ้อมของ 'กาก้า'
ชยันธร ใจมูล

แฮริส วูชคิช กลายเป็นนักเตะดีกรีพรีเมียร์ลีกคนล่าสุดที่ได้ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกหลังจากซบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และพร้อมลงเล่นในเลกที่ 2

สิ่งที่หลายคนห่วงกับนักเตะดีกรีดี ๆ คือพวกเขาจะหมดไฟ และเต็มร้อย กับการเล่นในไทยลีกหรือไม่ ?

Think Cureve - คิดไซด์โค้ง บังเอิญเจอเรื่องราวของเขาตอนที่เขาเล่นให้กับทีม นิวคาสเซิล, เรนเจอร์ส และ ทเวนเต้  ซึ่งเราพบว่าหลายสิ่งในตัวของดาวเตะคนนี้นั้นน่าสนใจมาก และนี่คือเรื่องราวของเขาที่แฟน ๆ บุรีรัมย์ หรือแม้แต่แฟนบอลไทยลีกไม่ควรพลาด

จากนิสัยของ “โบโน” : เป็นเซียนเซฟจุดโทษต้อง ใจกล้า,จิตแข็ง, และ ปากแจ๋ว | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
พุ่งถูกทางทุกลูก และเซฟลูกยิงของฝั่งสเปนได้ทั้งหมด คือเหตุการณ์ที่ทำให้ ยาสซิน โบโน ประตูของ โมร็อกโก โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน

จุดเริ่มต้นจากสโลวีเนีย

สโลวีเนีย คือประทศที่แยกตัวเป็นเอกราชจาก ยูโกสลาเวีย ในปี 1991 ดังนั้นนักฟุตบอลของประเทศนี้ส่วนใหญ่จึงมีอิทธิพลการเล่นแบบพวกนักเตะยูโกสลาเวียแทบทั้งสิ้น กล่าวคือเป็นนักเตะที่ตัวใหญ่ มีความแข็งแรง มีเทคนิคที่ดี และมีความห้าวสวมหัวใจนักสู้

ส่วนใหญ่นักเตะจากประเทศเหล่านี้ต่างมีทัศนคติที่ทะเยอทะยาน เพราะฟุตบอลคือหนทางที่ให้พวกเขาหลีกหนีจากความยากจนได้ ... แฮริส วูชคิช กองหน้าคนใหม่ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็เช่นกัน

Photo : FB : Domzale

วูชคิช คือนักเตะที่เติบโตกับสโมสร ดอมซาเล ทีมระดับท็อปในประเทศ นักเตะดัง ๆ ที่มาจากสโมสรนี้ได้แก่ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ของ อินเตอร์ มิลาน ในปัจจุบัน และยังมีอีกหลายคนที่กลายเป็นนักเตะทีมชาติ สโลวีเนียชุดใหญ่ทุกวันนี้

ทางรอดของสโมสรในแถบยุโรปตะวันออกคือการสร้างดาวรุ่ง และปล่อยให้กับทีมที่ใหญ่กว่า เพื่อหาเงินเข้าสโมสร หากให้เรียงตามลำดับขั้นเเล้วสโมสรแถบนี้จะเป็นเหมือนต้นน้ำ ที่ให้ทีมจากลีกยุโรปเกรดรอง ๆ อย่าง โปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์ และ เบลเยี่ยม หยิบจับไปปั้นต่อก่อนจะขายให้สโมสรแถวหน้าของยุโรปอีกที ดังนั้นนักเตะตัวท็อป ๆ ของลีกสโลวีเนีย จะออกจากประเทศตั้งแต่อายุยังน้อย เพียง 18-19 ปี ได้เล่นเกมลีกไม่ถึง 10 นัดก็ถูกดึงตัวไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม แฮริส วูชคิช ล้ำยิ่งกว่านั้น เขาเล่นทีมชุดใหญ่ให้ ดอมซาเล ตั้งแต่อายุ 15 ปี และครั้งแรกที่เขาเก็บกระเป๋าย้ายไปค้าแข้งต่างประเทศคือตอนที่เขาเพิ่งพ้นวัยทำบัตรชาชนมาสด ๆ ร้อน ๆ เพียงอายุ 16 ปีเท่านั้น

Photo : AS

เขาก็ถูกทีมดังอย่าง เอซี มิลาน ดึงตัวไปทดสอบฝีเท้า เขาได้ร่วมซ้อมกับทีม มิลาน ชุดใหญ่ และเคยลงซ้อมทีมด้วยการอยู่กับทีมเดียวกันอย่าง ริคาร์โด้ กาก้า ตำนานนักเตะทีมชาติบราซิลอีกด้วย

"ผมเคยไปซ้อมกับ มิลาน อยู่ช่วงหนึ่ง วันนี้โชคหล่นทับ คาร์โล อันเชล็อตติ มาบอกผมว่าพรุ่งนี้ผมจะได้ซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ผมตื่นเต้นสุด ๆ ตอนนั้นผมเป็นแค่เด็กอายุ 16 ปี เท่านั้น"

"และเเล้วการซ้อมก็มาถึง เราเริ่มวอร์มอัพกัน และเริ่มซ้อมส่งบอลกัน บังเอิญว่าคู่ซ้อมของผมคือ กาก้า ... ผมจ่ายบอลให้เขาแล้วผมยังคิดในใจ 'นี่เราเพิ่งส่งบอลให้นักเตะที่เก่งที่สุดในโลกอยู่นะโว้ย" วูชคิช ว่าถึงความทรงจำอันแสนหวานในวัยหนุ่มของเขา

อย่างไรก็ตามการเซ็นสัญญากับ มิลาน ก็ไม่เกิดขึ้น แต่อย่างน้อย ๆ ข้อเสนอจากต่างประเทศก็ยังมาไม่หยุด สุดท้าย ดอมซาเล ก็ตัดสินใจขาย วูชคิช ให้กับ นิวคาสเซิล ที่ติดตามดาวรุ่งรายนี้อย่างใกล้ชิดมาเป็นปี

"นิวคาสเซิล ยื่นข้อเสนอมาที่ดอมซาเล ตอนแรกผมไม่พร้อมที่จะย้ายทีม แต่เมื่อรอจนถึงสิ้นปีประธานสโมสรก็โทรมาหาพ่อของผม เพื่อบอกว่าพวกเขาได้รับข้อเสนอจากนิวคาสเซิลแล้ว ตอนนั้นสโมสรเราไม่มีเงินมากนัก และข้อเสนอที่ นิวคาสเซิล ยื่นมาก็ยากจะปฎิเสธ" วูชคิช กล่าว

Photo : Daily Mail

"เราคุยกันก่อนย้ายทีมว่า แม้จะอยากเก็บผมไว้ แต่มันก็เป็นเรื่องดีถ้าผมย้ายออกไป ประการแรกสัญญาของผมใกล้จะหมดและสโมสรอาจจะไม่ได้ค่าตัวอะไรกลับมาเลย ประการที่สองคือผมเองก็อยากจะลองไปเล่นในต่างประเทศดูเหมือน ยิ่งกับฟุตบอลอังกฤษ ยิ่งเป็นอะไรที่ท้าทายผมมากจริง ๆ"

ณ ตอนนั้น ฌอน แมคคอร์มิค นักเขียนของเว็บไซต์ chroniclelive.co.uk สื่อท้องถิ่นของนิวคาสเซิลอธิบายถึง วูชคิช ว่า "เขาได้รับการขนานนามให้เห็นนักเตะเยาวชนที่มีพรสวรรค์ที่สุดคนหนึ่งของยุโรป สโมสรทั้งหลายอยากได้เขาไปร่วมทีม แต่ นิวคาสเซิล คือทีมที่จริงจังและพร้อมจะมอบอนาคตให้กับเขาที่สุด"

จากนั้นการเดินทางสู่ไทน์ไซด์ที่มอบประสบการณ์ใหม่ให้ วูชคิช ก็เริ่มขึ้น

ผมไม่ใช่คนขี้อาย

เด็กอายุ 16 ปี จากสโลวีเนีย เดินทางมาอังกฤษกับคุณพ่อ 2 คน ด้วยความมั่นใจ แม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ แฮริส วูชคิช เล่าย้อนความว่า จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้รู้สึกกลัวเรื่องการปรับตัวเข้าหาผู้คน ต่อให้สื่อสารด้วยปากไม่ได้ก็ใช้ภาษามือแทน และในบางครั้งที่ไม่เข้าใจอะไร เขาก็พร้อมจะตั้งคำถามทันทีไม่มีเหนียมอาย เพราะเขารู้ว่านี่คือโอกาสสำคัญของชีวิต ทางเดียวที่จะคว้าได้ คือต้องวิ่งเข้าไปหามันเท่านั้น

Photo : sport360

"โดยส่วนตัวเเล้วผมไม่ใช่เด็กขี้อาย แต่มันก็ยากอยู่กับการที่ต้องห่างจากครอบครัวและเพื่อน ๆ ต้องทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง"

"แต่สำหรับนักเตะสโลวีเนีย ถ้าคุณอยากเติบโตในอาชีพทางเดียวคือคุณต้องไปเล่นในต่างประเทศ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วสำหรับพวกเราในยุคนั้น" วูชคิช กล่าว

เขาเดินทางมากับพ่อ 2 คนและพ่อของเขาก็ช่วยจัดการเรื่องหลังบ้านให้ เพื่อให้เขาโฟกัสกับการซ้อมแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น วูชคิช ปรับตัวทุกอย่างทั้งการพยายามพูดภาษาอังกฤษ การจัดการกับรายได้ที่เข้ามากกว่าตอนที่เล่นในสโลวีเนียเยอะ ซึ่งเขาเองก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลยสักครั้ง

"ตอนนั้นผมได้เงินค่อนข้างดีเลย มากกว่าเงินเก็บที่พ่อและแม่ของผมเก็บไว้เสียอีก ตรงนี้มันสำคัญมากเลยนะ ผมถูกสอนเสมอว่าเมื่อมีเงินเข้ามาจงอย่างทำตัวเปลี่ยนไป อย่าเริ่มใช้เงินซื้อข้าวของมากมาย และออกไปเที่ยวข้างนอกจนเกินไปนัก ... พ่อของผมมีส่วนสำคัญมากในเรื่องนี้ พ่อคอยแนะนำให้ผมเดินไปถูกทาง ท่านช่วยผมได้มากจริง ๆ"

วูชคิช ลงเล่นให้กับ นิวคาสเซิล ทีมเยาวชนได้เพียง 4-5 เดือน ก็ได้รับการผลักดันเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ในช่วงพรีซีซั่น นักเตะรุ่น ๆ เดียวกันในตอนนั้นคือ แอนดี้ แคร์โรลล์, ไนล์ เรนเจอร์ส และ เชน เฟอร์กูสัน  รายชื่อทั้งหมดนี้ได้ซ้อมกับทีมชุดใหญ่เป็นประจำ และตัวของ วูชคิช ก็เล่าว่าเขามีช่วงเวลาแห่งความทรงจำ ที่ลงเกมพรีซีซั่น แล้วผู้คนพร้อมใจปรบมือให้เขาพร้อมกันทั้งสนาม

Photo : chroniclelive

"ผมลงสนามไปตอนที่เรานำอยู่ 1-0 จากนั้นผมก็ได้บอลและเห็น ไนล์ วิ่งทำทางขึ้นไปข้างหน้า ผมเลยวางบอลจากระยะสัก 60 เมตรดู ไนล์ จับบอลได้ จากนั้นโดนกองหลังสกัดออกหลังไป ทั้งสนามปรบมือให้ผม และนั่นเป็นความทรงจำที่ดีมาก ๆ"

วูชคิช ไปเล่นอยู่ในนิวคาสเซิลถูกยุค เพราะมีกุนซืออย่าง คริส ฮิวจ์สตัน เป็นโค้ช โดยตัวของ ฮิวจ์สตัน นั้นเป็นคนที่ชอบให้โอกาสดาวรุ่งอยู่เสมอ วูชคิช เองก็ดีวันดีคืน ได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่บ่อยขึ้นเรื่อย แม้กระทั่งตอนที่ทีมเปลี่ยนโค้ชเป็น อลัย พาร์ดิว วูุชคิช ก็ได้รับการยืนยันว่า "คุณคืออนาคตของสโมสร" ซึ่ง พาร์ดิว นี่แหละที่เป็นคนส่ง วูคิช ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกเป็นคนแรก และในซีซั่นต่อจากนั้น วูชคิช ก็ยิงประตูแรกในสีเสื้อนิวคาสเซิล ได้อีกด้วย

Photo : chroniclelive

ช่วงเวลาปี 2011-12 วูชคิช ถูกติดต่อจากทีมอย่าง เอซี มิลาน, เชลซี และ เรอัล มาดริด ติดต่อเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตามฝันยังไม่ทันได้เริ่มจริงจังเลยด้วยซ้ำ หลังจาก 3 ปีที่ทุ่มเทให้กับ นิวคาสเซิล วูชคิช เกิดอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงอย่างหนัก จนต้องพักยาวเกือบปี ซึ่งนั้นเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องเริ่มสู่ช่วงขาลงแล้ว ซึ่งช่วงนี้เองที่เขาต้องเปิดตำรารับมือกับการความฝันที่แตกสลายครั้งนี้

ล้มเเล้วก็ลุกได้

"ผมจำได้ 2 สัปดาห์หลังจากประตูกับ อโตรมิตอส ในยูโรป้า ลีก นั้น พาร์ดิวมาหาผมและพูดว่า 'แฮริส ฤดูกาลนี้คุณจะได้ลงเล่นมากกว่า 20 เกม ขอให้ฟิตเข้าไว้และผมจะไว้ใจคุณแน่นอนไม่ต้องห่วงเลย'" วูชคิช กล่าว นั่นคือสิ่งที่ พาร์ดิว บอกกับเขาก่อนที่เขาจะเจ็บยาว

โอกาสนั้นหายไป… 20 เกมที่คาดไว้ไม่มีจริง วูชคิช พักทั้งซีซั่น และในโลกฟุตบอลไม่มีใครรอใคร คุณเล่นไม่ได้ สโมสรก็จะหาคนอื่นที่เล่นได้มาเเทนที่คุณ... ปัจจัยเหล่านี้ วูชคิช ไม่สามารถควบคุมได้ แต่สิ่งที่เขาสามารถทำได้คือการพยายามกลับมาฟิตให้ได้ก็พอ

"ผมรู้จักคุณสมบัติของตัวเองดี ความสามารถของผมตกลงไปเยอะแน่นอนจากอาการบาดเจ็บ แต่ผมมั่นใจว่าผมเป็นเด็กอายุ 18 ปี ที่ทัศนคติดีกว่าเด็กรุ่น ๆ เดียวกัน ผมมาที่นี่เพื่อทำงานหนัก ไม่ใช่มาเพื่อแค่สนุกเท่านั้น" วูคิช กล่าว

วูชคิช กลับมาฟิตในอีก 1 ปีหลังจากนั้น แต่เขาไม่เหมือนเดิมอย่างที่เขาได้บอกไว้

อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิล ก็พยายามปล่อยเขายืมตัวไปเล่นในลีกที่เล็กกว่ากับทีมอย่าง คาร์ดิฟฟ์, ร็อตเตอร์แฮม, เรนเจอร์ส และ วีแกน ก่อนที่เขาจะย้ายออกจากทีมตอนปี 2017 ตอนนั้นเขาอายุ 25 ปี และเขาก็คิดว่าตัวเองควรไปหาสโมสรที่ได้ลงเล่นสม่ำเสมอ ซึ่งปลายทางคือ ทเวนเต้ ทีมลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์

"ผมรู้ว่าผู้คนที่นิวคาสเซิลยังคงคุยกันถึงเรื่องของผม พวกเขามีคำถามว่า แฮริส จะก้าวขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่หากเขาไม่มีอาการบาดเจ็บ... คำตอบของพวกเขาผมไม่รู้ แต่ถ้าคุณถามผม ผมจะตอบว่าผมทำได้แน่นอน" เขาเชื่อแบบนั้น

Photo : The Suns

อย่างไรก็ตามโลกฟุตบอลไม่มีคำว่าถ้า เรื่องมันมีอยู่ง่าย ๆ คือหากไม่ดีพอที่จะลงเล่นก็ต้องย้ายออกไป วูชคิช เก็บของและย้ายออกจากนิวคาสเซิล เพื่อเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งเส้นทางใหม่ เขาไปเล่นที่ ทเวนเต้ และที่นั่นก็เปลี่ยนให้เขากลับมาเป็นคนสำคัญได้จริง ๆ

จากทเวนเต้ถึงบุรีรัมย์

เมื่อฟิตเต็มที่ลีกเนเธอร์แลนด์ไม่ยากเกินใจ วูชคิช สร้างผลงานยอดเยี่ยมโดยเฉพาะในฤดูกาล 2019-20 เขาเล่นในดัตช์ลีกไปทั้งหมด 25 เกม ยิงได้ถึง 11 ประตูและทำไปอีก 9 แอสซิสต์ อย่างไรก็ตามหลงจบฤดูกาลนั้น สโมสรเกิดประสบปัญหาเรื่องหนี้สะสม ทเวนเต้ ถูกตัดสิทธิ์ในการเล่นฟุตบอลยุโรป 3 ปี การผิดกฎเรื่องการเงิน

football-oranje เว็บไซต์เกี่ยวกับฟุตบอลเนเธอร์แลนด์รายงานว่า "พวกเขาเต็มไปด้วยหนี้สิน ทีมชุดใหญ่โดนปรับห้ามเข้าแข่งขันฟุตบอลยุโรป ส่วนทีมสำรองโดนปลดจากลีกดิวิชั่น 2 ของเนเธอร์แลนด์ หนี้หนนี้เกิดจากการใช้จ่ายอย่างผิดพลาดในช่วงปี 2009-10 แม้ปีนั้น สตีฟ แม็คคลาเรน จะทำทีมได้แชมป์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่ตามมาคือรายจ่ายที่มากกว่ารายรับ จนทำให้พวกเขาค่อย ๆ ถูกกัดกินจนเหลือแต่กระดูกในทุกวันนี้"

Photo : Twente

จังหวะบังเอิญพอดีที่ วูชคิช หมดสัญญา แม้จะเล่นดีแค่ไหนแต่สโมสรก็ไม่มีเงินพอจะต่อสัญญาเขา วูชคิช ย้ายไป ซาราโกซ่า ในลีกรองของ สเปน แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก จากนั้นจึงถูกปล่อยไปยัง ริเยก้า ทีมจากลีกโครเอเชีย ซึ่งในฤดูกาล 2021-22 เขายิงให้ ริเยก้าถึง 11 ประตูจาก 31 เกมที่ลงสนาม ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับทีมอย่างถาวรในฤดูกาล 2022-23 และยิงไปอีก 4 ประตูจาก 12 นัด

โชคไม่ดีนักสำหรับ วูชคิช เป็นอีกครั้งที่ผลงานส่วนตัวไม่แย่ แต่ปัญหาทีมนั้นตรงกันข้าม ริเยก้า นั้นมีปัญหาทางการเงิน และ germanijak.hr รายงานว่าทีมไม่สามารถแบกค่าเหนือยของ วูชคิช ที่อยู่ราว ๆ ปีละ 6 แสนยูโรได้ (ราว 21 ล้านบาท) จึงทำให้ท้ายที่สุดเขาได้ย้ายมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และจะเริ่มต้นพิสูจน์ตัวเองในศึกไทยลีกเลกที่ 2 นี้

Photo : Rijeka

แฮริส วูชคิช อายุ 30 ปี ในเวลานี้ และนั่นไม่ได้มากเกินไปเลยสำหรับฟุตบอลลีกในประเทศไทย

สิ่งที่แฟน ๆ บุรีรัมย์ สามารถเชื่อใจในเขาคนนี้ได้เลยคือเรื่องของการปรับตัวกับวัฒนธรรมและภาษาใหม่ ๆ ซึ่งเป็นของเคย ๆ ที่เขาทำมาตั้งแต่อายุ 16 ปีแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดคือเขาไม่ใช่นักเตะหมดสภาพ เพราะมีเกมลงเล่นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2017 นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ระดับชาติด้วยการติดทีมชาติสโลวีเนีย มาเเล้วถึง 12 นัด

"ผมมักจะพูดเสมอว่าสิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นแล้วมันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้"

"ผมคิดบวกและสิ่งต่างๆ ในตอนนี้กำลังไปได้ด้วยดีสำหรับผม บางครั้งคุณรู้ว่าคุณทำงานหนักแค่ไหนและคุณมีความสามารถมากแค่ไหน แต่คุณก็ต้องการจิ๊กซอว์เพื่อปะติดปะต่อและต้องการบางอย่าง อย่างเช่นโชคชะตาอะไรทำนองนั้น"

"บังเอิญว่ามันไม่เกิดขึ้นกับผมที่นิวคาสเซิ่ล … แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมยังคงทำงานหนัก คิดบวก ยิ้มเข้าไว้ มันไม่ได้มีแค่เรื่องฟุตบอลเท่านั้นในชีวิตนี้ ผมมีครอบครัวที่ดี มีภรรยา มีลูกที่น่ารักอีกสองคน"

“สำหรับผมเมื่อก่อนมันคือฟุตบอล ฟุตบอล ฟุตบอล แต่ตอนนี้ผมเห็นว่าชีวิตมีอะไรมากกว่าฟุตบอล... นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด” วูชคิช กล่าวทิ้งท้าย
Photo : Buriram United 

เขาอาจจะไม่เก่งเหมือนตอนที่เป็น วันเดอร์คิดตัวท็อปของยุโรป ช่วงอายุ 17-18 ปีแล้ว แต่ แฮริช วูชคิช ยังมีความเป็นมืออาชีพและมีเป้าหมายอยู่เสมอ ทัศนคติของเขายังยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยน ไม่เคยสร้างปัญหาให้ต้นสังกัด ที่สำคัญคือเขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมากมาย และจากทัศนคติที่เราได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ เชื่อว่าแฟน ๆ บุรีรัมย์ จะไม่ผิดหวังกับกองหน้าชาวสโลวีเนียรายนี้อย่างแน่นอน

ซ้อมแล้วก็ไม่ช่วย : เหตุใด ฟุตบอลโลก 2022 จึงพลาดจุดโทษกันเพียบ ? | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
ฟุตบอลโลก 2022 มีการพลาดจุดโทษมากกว่าฟุตบอลโลกครั้งก่อน ๆ มาถึงตอนนี้มีนักเตะพลาดจุดโทษไปแล้ว 13 คน อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเหล่านี้ยิงพลาด ร่วมหาคำตอบกับเราได้ที่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง เขียนให้อ่าน

แหล่งอ้างอิง

https://www.chroniclelive.co.uk/sport/football/football-news/haris-vuckic-newcastle-fc-twente-16933466

https://www.chroniclelive.co.uk/sport/football/football-news/haris-vuckic-go-wrong-newcastle-12576963

https://gol.dnevnik.hr/clanak/rubrika/nogomet/haris-vuckic-intervju-za-dnevnik-nove-tv---720104.html

http://www.football-oranje.com/going-fc-twente-huge-club-danger-relegation/

https://www.germanijak.hr/nogomet/vijesti/rijeka-nalazi-zamjenu-za-andrijasevica-u-real-zaragozi/89209

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด

หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ