แผนวิกตอรีและแผนไวกิ้ง : ไอเดียการต่อสู้แบบฟุตบอลสมัยใหม่ของทีมชาติสวีเดนจากกัปตันซึบาสะ

แผนวิกตอรีและแผนไวกิ้ง : ไอเดียการต่อสู้แบบฟุตบอลสมัยใหม่ของทีมชาติสวีเดนจากกัปตันซึบาสะ
admin

เมื่อไอเดียจากการ์ตูนฟุตบอลชื่อดังอย่างกัปตันซึบาสะ กลายเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของทีมชาติที่ไม่ได้มีศักยภาพระดับท็อป

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามที่นี่

แผนวิกตอรีและแผนไวกิ้งของทีมชาติสวีเดน

แผนวิกตอรีและแผนไวกิ้งของทีมชาติสวีเดน ปรากฎในการ์ตูนกัปตันซึบาสะ ภาคเยาวชนโลก ซึ่งทีมชาติสวีเดน หนึ่งในคู่แข่งตัวฉกาจของซึบาสะและทีมชาติญี่ปุ่นภาคนี้ใช้เป็นแนวทางเพื่อให้พวกเขาไปถึงเป้าหมายคือคว้าแชมป์มาครองให้ได้

แผนวิกตอรี คือการใช้วิทยาศาสตร์กีฬา เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักเตะให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบกับการหาข้อมูล ศึกษากลยุทธ์ ทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของคู่แข่ง เพื่อนำมาวางแผนไปสู่ชัยชนะในแต่ละนัด

ขณะเดียวกัน แผนไวกิ้ง คือการส่งนักเตะในประเทศของตัวเอง ไปค้าแข้งยังลีกระดับท็อปของยุโรป เพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะของนักเตะให้โดดเด่นยิ่งขึ้น จนกลายเป็นกำลังสำคัญของทีม ที่เรียกว่า 4 อัศวินแห่งดินแดนอาทิตย์เที่ยงคืน ประกอบด้วย เลวีน ที่เล่นในบุนเดสลีกา, โบรลิน เล่นในพรีเมียร์ลีก, เฟรดริกซ์ เล่นในฝรั่งเศส และลาร์สัน เล่นในสเปน

แผนการของทีมชาติสวีเดนในกัปตันซึบาสะกับฟุตบอลสมัยใหม่

แม้ทีมชาติสวีเดนในการ์ตูนกัปตันซึบาสะ จะแพ้ทีมชาติญี่ปุ่นซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องไปตามระเบียบ ทำให้แผนการของพวกเขาไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ตัดภาพมายังฟุตบอลในยุคปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าไอเดียนี้ของอาจารย์โยอิจิ ทากาฮาชิ สอดคล้องกับแผนการทำทีมของชาติที่ไม่ได้เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการฟุตบอลเป็นอย่างดี

ด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาที่พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด และเทคโนโลยีทางด้านข้อมูลที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทีมเล็กๆ มีโอกาสศึกษาข้อมูลของยักษ์ใหญ่ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์สำคัญๆ อยู่บ่อยครั้ง

จากที่เคยเป็นลูกไล่ไม้ประดับในรายการใหญ่ๆ ในอดีต ปัจจุบัน เราจึงได้เห็นปรากฏการณ์ล้มยักษ์เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง จนแทบจะกลายเป็นเรื่องชินตา โดยเฉพาะเมื่อทีมใหญ่ๆ เหล่านั้นอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่พร้อม หรือขาดการเตรียมตัวที่ดีพอ

ขณะเดียวกัน นอกจากการใช้วิทยาศาสตร์กีฬาและการศึกษาข้อมูลคู่แข่งอย่างละเอียด บรรดาชาติเล็กๆ ทั้งหลายที่มีผลงานดีขึ้นอย่างชัดเจนในระยะหลัง ต่างก็มีการส่งออกนักเตะไปเล่นในลีกที่แข็งแกร่งกว่า เพื่อนำข้อดีของแต่ละประเทศมาปรับใช้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

ยกตัวอย่างเช่นทีมชาติญี่ปุ่น ประเทศบ้านเกิดของอาจารย์โยอิจิ ที่เต็มไปด้วยนักเตะซึ่งค้าแข้งอยู่ในยุโรป ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก, ลาลีกา หรือบุนเดสลีกา ที่ล้วนแต่เป็นแกนหลักในขุนพลซามูไรทั้งนั้น อาทิ  ทาเคฟุสะ คุโบะ กับเรอัล โซเซียดาด, วาตารุ เอนโด กับลิเวอร์พูล รวมถึงคาโอรุ มิโตมะ ปีกจอมเลื้อยของไบรท์ตัน

นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดว่าแผนวิกตอรีและแผนไวกิ้ง จากการ์ตูนเรื่องกัปตันซึบาสะ สะท้อนกับสภาพความเป็นจริงของฟุตบอลสมัยใหม่ได้อย่างถูกต้องแม่นยำขนาดไหน

รากฐานคือสิ่งสำคัญที่สุด

อย่างไรก็ดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแผนการทั้งสองจากการ์ตูนเรื่องนี้จะสำเร็จได้ จำเป็นต้องอาศัยนักเตะที่มีคุณภาพมากพอจะทำตามแผนและสามารถไปแข่งขันในลีกต่างประเทศได้ ซึ่งการจะทำแบบนั้น แต่ละประเทศจำเป็นต้องมีตัวเลือกในมือมากพอจะคัดกรองเอาคนที่เก่งที่สุดไปใช้งาน

หนึ่งในแหล่งบ่มเพาะนักเตะฝีเท้าเยี่ยมที่ทั่วโลกให้การยอมรับ นอกเหนือจากระบบอคาเดมีของสโมสร คือสนามฟุตบอลสาธารณะในท้องถิ่น ที่บรรดานักเตะแถวหน้าทั้งอดีตและปัจจุบันหลายคน ต่างก็เคยเริ่มต้นเล่นฟุตบอลครั้งแรกที่นี่ด้วยกันทั้งนั้น

Think Curve - คิดไซด์โค้ง และ ผู้สนับสนุนโครงการอย่าง SC Asset พร้อมด้วย Big One Group, สโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, สีทาบ้าน TOA , แบรนด์เสื้อผ้ากีฬา Volt และบริษัท ธานนอส จำกัด เล็งเห็นถึงความสำคัญตรงจุดนี้ จึงได้มีการสานต่อโครงการ 'Dream Stadium…สนามแห่งฝัน' ขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จอย่างล้มหลามในปี พ.ศ. 2566 โดยในคราวนี้ได้มีการขยายโครงการไปยังพื้นที่อื่นมากขึ้น รวมถึงสนามเอื้ออาทรเศรษฐกิจ 3 จังหวัดสมุทรสาคร ที่ภาพของกัปตันซึบาสะและทีมชาติสวีเดนภาพนี้ไปปรากฏอยู่ด้วย

เราหวังว่าในอนาคต ทีมชาติไทยเราจะพัฒนาขึ้น ด้วยแผนวิกตอรีและแผนไวกิ้ง โดยได้นักเตะฝีเท้าดีในอนาคต ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดของ อาจารย์โยอิจิ ทากาฮาชิ บนสนามที่เราคัดเลือกมาแห่งนี้!

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ