AFC ให้กำลังใจ ‘มาดามแป้ง’ นั่งเก้าอี้นายกบอลไทย
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ให้สัมภาษณ์ผ่านไลฟ์ วันที่ 4 ตุลาคม 2567 โดยเปิดเผยว่าครอบครัวมีความต้องการให้ลาออกจากตำแหน่งจริง แต่ยังพร้อมสู้ต่อจนครบวาระ 4 ปี ถึงปี 2571 พร้อมเผยมีผู้บริหารระดับสูงจาก เอเอฟซี ฝากกำลังใจมาให้เช่นกัน
“มาดามแป้ง” ชนะเลือกตั้ง ด้วยเสียงโหวตสูงถึง 68 จาก 73 เสียง หรือ คิดเป็น 93% สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในฐานะผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย ตั้งแต่ก่อตั้งมา 109 ปีแล้ว ยังเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของทวีปเอเชียด้วย
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ การกีฬาแห่งประเทศไทย รับรองอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2567 “มาดามแป้ง” ต้องเจอกับการทำงานในสมาคมฯ ที่ยากลำบากทันที ทั้งภาษีหนี้กรมสรรพากรที่ค้างมาจากชุดเก่า จำนวนมหาศาล , คดีความกับ สยามสปอร์ต จากชุดเก่า และ ไม่มีผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ก่อนเข้ามา ก่อนเจรจา จนจบที่ ทรูวิชั่นส์ ในฤดูกาล 20242/25
เมื่อถูกพิธีกรถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “มาดามแป้ง” ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “จริง ๆ เรื่องลาออก หลายคนพูดกับ แป้ง อย่าง พ่อ แม่ ก็บอกว่าลาออกเถอะ อยู่ไปทำไม อยู่ไปก็เปลืองตัว แต่ แป้ง ไปที่ไหน เจอแฟนบอลไทยที่ไหน ก็ได้รับกำลังใจจากแฟนบอลอยู่เสมอ แล้วก็ข่าวนี้ คงดังไปถึงต่างประเทศ เพราะมีผู้ใหญ่มาก ๆ ของเอเอฟซี”
“ฝากถามตรง ๆ ว่าจะตัดสินใจแบบนี้เหรอ คุณเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลหญิงคนแรกของทวีปเอเชีย พวกเราภูมิใจในตัวคุณมาก และ คุณถูกเลือกตั้งมาด้วยเสียงโหวตถล่มทลาย ดังนั้น แป้ง จึงคิดว่าถ้าแฟนบอลเปิดโอกาส สภากรรมการทุกท่านที่ถูกเลือกเข้ามา เราจับมือกัน รวมถึงสโมสรสมาชิกของไทยลีก 1-3 แป้ง เชื่อว่าการตัดสินใจของ แป้ง หรือ คำตอบ อาจจะไม่ถูกใจ พ่อ แม่ แต่ก็ยืนยันว่าจะต้องทำต่อไป”
“บางที เราอาจจะทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้ อย่างที่เคยบอก วันที่ 11 มิถุนายน เราตกรอบคัดบอลโลก เป็นวันที่ แป้ง เสียใจมากที่สุด และ ทุกคนก็เสียใจ แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เวลาเดินไปที่ไหน ทุกคนก็ยังขอถ่ายรูป เรียกชื่อ มาดามแป้ง และ เป็นกำลังใจให้ แป้ง เสมอ ขอบคุณทุกคนจากใจ” มาดามแป้ง ปิดท้าย
ทั้งนี้ แม้ว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะยังมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน แต่ปัจจุบันในยุคของ “มาดามแป้ง” ยังมีการเพิ่มเงินสนับสนุนให้สโมสรสมาชิกในทุกลีก เริ่มจากไทยลีก 1 จากเดิม 7 ล้าน เป็น 10 ล้านบาท , ไทยลีก 2 จากเดิม 1.5 ล้าน เป็น 3 ล้านบาท และ ไทยลีก 3 จากเดิม 5 แสน เป็น 1 ล้านบาท โดยในส่วนของไทยลีก 1-2 จ่ายงวดแรก 25% ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2024/25