ไกด์บุ๊คฉบับสมบูรณ์ : AFF มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022 แต่ละชาติเน้นกันเบอร์ไหน ?
เมื่อมีการถ่ายทอดสดก็ได้เวลาที่แฟนบอลไทยจะได้สนุกสานกับรายการ เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ อีกครั้ง
และนี่คือไกด์บุ๊คฉบับสมบูรณ์ ที่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้รวบรวมมาถึง 10 ทีมที่ลงเเข่งขันในหนนี้ว่าพวกเขามีความพร้อมแค่ไหน ตัวหลักเป็นใคร ขาดใครบ้าง และตั้งเป้าสำหรับการแข่งขันครั้งนี้อย่างไร ? ติดตามที่นี่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : กรณีศึกษาจากต่างประเทศ : ไทยควรจัดการกับแฟนบอลจุดพลุแฟร์ในสนามอย่างไร ?
1. ทีมชาติไทย
เริ่มกันด้วยทีมชาติไทยของเรากันก่อนเลย การถกและเถียงกันเรื่อง "เน้น ไม่เน้น" มานานหลายปี บางเสียงบอกว่าเราควรมองข้ามด้วยการส่งทีมเยาวชนไปเล่น ส่วนบางมุมก็มองว่าเราควรส่งนักเตะที่ดีที่สุดไป ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมาไทยเราก็จัดเต็มในรายการนี้มาโดยตลอด จนกระทั่ง AFF หนนี้ที่หลายสิ่งเริ่มเปลี่ยนไป
ประการแรกการที่รายการนี้ไม่ได้อยู่ในปฎิทินฟีฟ่า เดย์ ทำให้สโมสรสามารถปฎิเสธการส่งนักเตะไปรับใช้ชาติได้ ซึ่งหนนี้หลายสโมสรจริงจังมากขึ้น ไม่มีการปล่อยตัวหลัก ๆ ให้มาร่วมการแข่งขัน หรือต่อให้ปล่อยก็มาแค่บางคน ไม่ได้จัดเต็มอย่างทุกครั้ง สังเกตได้จาก 23 รายชื่อนักเตะที่ใช้ใน AFF ครั้งนี้ มีนักเตะถึง 11 คนที่ไม่เคยผ่านรายการนี้มาก่อน ส่วนนักเตะฟอร์มดีที่ติดทีมชาติเป็นประจำอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด, ศุกณัฎฐ์ เหมือนตา, พิธิวัฒน์ สุขจิตธรรมกุล, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และอีกหลาย ๆ ไม่ได้ติดทีมชุดนี้มาด้วย
การเปลี่ยนแปลงจากจุดนี้น่าสนใจว่าทิศทางและมุมมองต่อฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนเริ่มเปลี่ยนไป แม้ด้วยศักดิ์ศรีอย่างไรเสียจะชุดเล็กชุดใหญ่อย่างไรทีมชาติไทยก็ต้องหวังแชมป์ แต่ที่สุดแล้วการลุ้นแชมป์นั้นสามารถทำไปพร้อม ๆ กับพัฒนาการได้ ด้วยการลองคนใหม่ ๆ ดูบ้าง ให้โอกาสนักเตะให้หลากหลายขึ้น เพราะที่สุดแล้วนักเตะเหล่านี้แหละที่จะกลายเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยในรายการต่าง ๆ
จากนี้เราอาจจะได้เห็นทีมชาติไทยใช้นักเตะหน้าใหม่มากขึ้นในราย AFF ครั้งต่อ ๆ ไปเพื่อพัฒนาการในระยะยาว และไม่เป็นการใช้นักเตะหนักจนเกินไป แต่ที่สุดเเล้วถามว่าไทยเน้นหรือไม่ คำถามนี้แทบไม่ต้องหาคำตอบให้เสียเวลา เพราะสำหรับทีมชาติไทยการเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนนั้นไม่มีข้อแม้ จะจัดหนักหรือจัดเบาก็สุดแท้แต่สถานการณ์ แต่ปลายทางแชมป์ยังคงเป็นเป้าหมายของทัพช้างศึกเสมอ
2. ฟิลิปปินส์
ฟิลิปปินส์ ถือเป็นชาติที่ทำผลงานได้ดีมาตลอดในการแข่งขัน AFF นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาด้วยเหตุผลของการเลือกใช้นักเตะลูกครึ่งมากขึ้นทำให้ยกระดับทีมได้ในทันที จากทีมที่เคยกลายเป็นสมันน้อย พวกเขาเเข็งแกร่ง เหนียวแน่น และเป็นทีมที่ไม่ได้ชนะง่าย ๆ อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามใน AFF 2022 นั้นหลายสิ่งเปลี่ยนไป ฟิลิปปินส์ จัดทีมมาแบบไม่เต็มสูบด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ อาทิสโมสรไม่ปล่อยตัว(ไมใช่โปรเเกรมฟีฟ่าเดย์) และเหตุผลเรื่องการทำทีมแบบฉุกละหุก เพราะพวกเขาเพิ่งเปลี่ยนโค้ชใหม่มาเป็น เจเซป เฟร์เร กุนซือชาวสเปนก่อนทัวร์นาเม้นต์เริ่มเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : ขุนพลเลือดผสม : ฟิลิปปินส์กับการปลุกกระแส ‘ลูกครี่ง’ จนสะท้านอาเซียน
ซึ่ง เฟร์เร ก็ยืนยันว่าด้วยระยะเวลาเตรียมทีมที่น้อย และนักเตะหลายคนไม่สามารถมาร่วมทีมได้ ทำให้เขาตัดสินใจเลือกนักเตะหน้าใหม่เข้ามาติดทีมหลายคน เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ คือในเกม AFF2020 ที่ ฟิลิปินส์ แพ้ ไทย 1-2 โดยไทยกว่าจะชนะได้ก็ต้องรอจุดโทษจากธีรศิลป์ แดงดา ในช่วงท้ายเกม นักเตะของทัพ ปินอย ในทีมชุดนั้นแทบไม่ติดทีมชุด AFF2022 เลย มีเพียง สเตฟาน ชร็อค และ อมานี อกีนัลโด้ 2 คนเท่านั้น ที่ได้ออกสตาร์ทตัวจริงจากเกมเมื่อปีก่อน
นักเตะดัง ๆ ของ ฟิลิปปินส์ ที่ไม่ได้มาในรายการนี้มีมากมายที่พูดชื่อไปก็คุ้นหูแฟนบอลไทยเป็นอย่างดีทั้ง 2 พี่น้อง ไมค์ และ มานูเอล อ็อต, นีล เอเธอร์ริดจ์, ไดสุเกะ ซาโตะ, แพทริค ไรเชลท์ และ เควิน อินเกรโซ เป็นต้น ... จากตัวหลักที่ขาดไปเยอะ และลองตัวใหม่แบบหลายคน มันค่อนข้างบ่งชี้ไปว่า AFF2022 หนนี้ ฟิลิปปินส์ ไม่ได้ตั้งเป้าถึงแชมป์อย่างแน่นอน เพียงแค่ทำผลงานให้ดีที่สุดที่เหลือเป็นโบนัสก็พอแล้ว
3. อินโดนีเซีย
รองแชมป์เก่ามาด้วยสภาพทีมที่จัดเต็มอย่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขายังคงให้โอกาส ชิน แต ยัง กุนซือชาวเกาหลีใต้ทำงานต่อไป หลังมีพัฒนาการอย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ส่วนเรื่องการส่งชื่อนักเตะนั้นจะขาดก็เพียง อีวาน ดิมาส กองกลางตัวเก่งที่ดวลกับทีมชาติไทยจนแฟนบอลไทยคุ้นหน้าคุ้นต้าเป็นอย่างดีเท่านั้น
ในแนวรับพวกเขามี จอร์ดี้ อามัต(Jordi Amat) อดีตนักเตะของทีม สวอนซี ชุดทีเล่นในพรีเมียร์ลีกติดทีมมาด้วย นอกจากนี้ยังมี ปราทามา อาร์ฮาน(Pratama Arhan) กองหลังจากโตเกียว เวอร์ดี้ ในเจลีก 2 ขณะที่เเดนกลางนำทัพมาโดย ริคกี้ คัมบัวยา (Ricky Kambuaya) ที่โดดเด่นมาตั้งแต่ AFF 2020 และจะประสางานกับ มาร์ค คล็อค (Marc Klok) ที่เพิ่งได้สัญชาติอินโดนีเซียมาไม่นาน พร้อมด้วยนักเตะอย่าง มาร์เซลินโญ เฟอร์ดินาน(Marselino Ferdinan) หนึ่งในดาวรุ่ที่เด่นมาตั้งแต่การแข่งครั้งที่เเล้ว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : เอกี้ เมาลาน่า : วันเดอร์คิดอินโดฯที่ล้มลุกคลุกคลานในยุโรปแต่ยังไม่หนีกลับบ้าน
ด้านตัวชูโรงหนีไม่พ้น 2 นักเตะที่มีประสบการณ์เล่นในยุโรปตั้งแต่อยู่ในวัยทีนเอจทั้ง วิธัน สุไลมาน ที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสร เทรนซิน ในสโลวาเกีย และ เอกี้ เมาลาน่า ตัวรุกวัย 22 ปีที่เล่น โปแลนด์ และ สโลวาเกีย มาแล้ว 4 ปี (เป็นนักเตะไร้สังกัดในเวลานี้) โดยที่กองหน้าตัวเป้าเป็นหน้าที่ของ อิลิยา สปาโซเยวิช กองหน้าวัย 34 ปีที่โอนสัญชาติมาจาก มอนเตเนโกร
จากรายชื่อที่แบมา อินโดนีเซีย ต่อยอดด้วยการใช้ดาวรุ่งฟอร์มดีจาก AFF2020 หลายตำแหน่ง และยังเรียกตัวใหม่ ๆ สด ๆ เข้ามาเสริมอีกเล็กน้อย ดังนั้น อินโดนีเซีย จึงเป็นชาติที่ดูแล้วอันตรายกับทีมชาติไทยที่สุดแล้วในรอบแบ่งกลุ่ม และจากฟอร์มที่ร้อนแรงใน 2 เกมแรกของ อินโดนีเซีย มันชัดมาก ๆ ว่าหนนี้พวกเขาหวังไปที่แชมป์อย่างไม่ต้องสงสัย
4. บรูไน
บรูไน ทีมอันดับ 190 ของโลกเล่นรายการนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเพราะทาง AFF เปิดโอกาสให้ทุกทีมลงเเข่งขัน ทว่าหลังจากมีการจัดทีม 2 อันดับสุดท้ายมาเพลย์ออฟกันเพื่อหาผู้ชนะเพียง 1 เดียวนั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาผ่านรอบคัดเลือกมาได้ ด้วยการเอาชนะ ติมอร์ เลสเต ในรอบคัดเลือกด้วยสกอร์ 6-3 และพวกเขาอยู่ในกลุ่ม A โดยมีไทยแชมป์เก่า, รองแชมป์เก่าอย่าง อินโดนีเซีย, กัมพูชา และฟิลิปปินส์
โดย บรูไน เป็นเพียงชาติเดียวในรายการนี้ที่จะไม่ได้เล่นในสนามเหย้าในประเทศของตัวเองเพราะ มีการตรวจสอบจาก AFF ว่าพื้นที่ของศูนย์กีฬา ฮัสซัน โบลเกียห์ เก่าเกินไปและเสื่อมโทรมอย่างมากจึงโดนตัดสิทธิ์การเล่นในบ้านไปโดยปริยาย และ บรูไน ต้องไปเช่าสนามของสโมสร กัวลาลัมเปอร์ ซิตี้ ทีมในลีกประเทศ มาเลเซีย เพื่อเป็นสังเวียนเหย้าในรอบแบ่งกลุ่มของพวกเขา
สิ่งที่น่าสนใจคือ บรูไน ชุดนี้ไม่มี ฟาอิค โบลเกียห์ จาก ชลบุรี เอฟซี ที่ต้นสังกัดไม่ได้ปล่อยตัวมาเล่นในรายการนี้เนื่องจากไม่อยู่ในปฎิทินฟีฟ่า เดย์ ดังนั้นหากจะอ้างอิงตามการแข่งขันในรอบคัดเลือกที่ชนะ ติมอร์ เลสเต มา บรูไน ภายใต้การทำทัพของกุนซือชาวสเปนอย่าง มาริโอ ริเวร่า
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : ไร้เจ้าชายฟาอิค : การเข้ารอบ AFF ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ “บรูไน”
บรูไน ชุด AFF 2022 นี้ ถือเป็นชุดเลือดใหม่ใช้นักเตะดาวรุ่งอายุ 20 ต้น ๆ เป็นส่วนใหญ่ โดยนักเตะชุดเก่า ๆ ที่อายุเกิน 35 ปี นั้นไม่ถูกเรียกมาติดทีมชุดนี้ถึง 5 คน โดยกุนซือชาวสเปนอย่าง ริเวร่า ให้สัมภาษณ์ว่าทีมของเขาชุดนี้จะไม่ตั้งรับแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเขาเชื่อว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกของฟุตบอล และเขาจะไม่ยอมแพ้ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้ลงเเข่ง อย่างไรก็ตามนักเตะดาวรุ่งของพวกเขาก็ยังต้องเสริมอีกมากในการเจอกับทีมหัวแถวในอาเซียน 3 เกมในทัวร์นาเม้นต์นี้ บรูไน แพ้รวดโดนยิงไปถึง 17 ประตู แม้พวกเขาจะตั้งเป้าไว้ที่การพยายามเข้ารอบน็อคเอาต์ให้ได้ แต่ความจริงการแข่งขันครั้งแรก น่าจะเป็นการเก็บประสบการณ์ของเหล่าดาวรุ่งนี้มากกว่า
5. กัมพูชา
กัมพูชา เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้มาแล้ว 8 ครั้ง และในการแข่งขัน AFF 2020 ที่ผ่านมาพวกเขาได้รับคำชมมาก ๆ ว่าเป็นชาติที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเล่นเกมรับแล้วสวนกลับที่เป็นระบบ นักเตะวิ่งไม่มีหมด ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องให้ เครดิต กุนซือ เคซึเกะ ฮอนดะ ที่เข้ามาและกล้าใช้นักเตะอายุน้อย ๆ ในทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าว ขณะที่ใน AFF2022 หนนี้ ฮอนดะ ยังขนทีมชุดที่ดีที่สุดและต่อยอดจากการแข่งขันครั้งที่แล้วมาทั้งหมด
ซอย วิซอล กองหลังจอมบู๊เป็นกัปตันทีมและกำลังสำคัญในแนวรับ ขณะที่กองหน้าดาวรุ่งอย่าง เซียง จันเธีย ได้รับการจับตามองว่าจะระเบิดฟอร์มในการแข่งขันปีนี้ นอกจากนี้ยังมีกองกลางจาก ออร์ลันโด้ ซิตี้ สโมสรในเมเจอร์ลีกอเมริกาอย่าง นิค เทย์เลอร์ เข้ามาเสริมเเกร่งในเเดนกลางอีกด้วย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : โมเดิร์นกัมพูชา : ‘ฮอนดะสไตล์’ การสอนให้นักเตะ วิ่ง บู๊ และกินอยู่แบบมืออาชีพ
กัมพูชา ชุดนี้ถือเป็นชาติที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่เป็นอันดับ 2 ค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 24.4 แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์ในเกมระดับภูมิภาคและอายุุ นักเตะเหล่านี้คงต้องเก็บประสบการณ์กันไปอีกสักพัก และพวกเขาน่าจะตั้งเป้าหมายด้วยการทำให้ดีที่สุดเอาไว้ก่อน แค่การเข้ารอบน็อคเอาต์ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ๆ แล้ว เพราะพวกเขายังไม่เคยทำได้มาก่อนเลยตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันมา
6. สปป.ลาว
สปป.ลาว เป็นอีกหนึ่งทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้อย่าสม่ำเสมอ โดยจากการแข่งขันที่ผ่านมา 13 ครั้ง พวกเขามีส่วนร่วมมาแล้วถึง 12 ครั้ง
มิชาเอล ไวส์ กุนซือของลาว ตั้งเป้าขอพาทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ให้ได้ในครั้งนี้ โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ในช่วงอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย U23 ว่า ทีมชุดนี้มีเวลาเก็บตัวนานกว่าทุกครั้ง และทีมตั้งความหวังไว้กับตัวเก๋าอย่าง สุกอาพอน วงเชียงคำ และ พิทัก กองมาทิลาด ที่เล่นในไทยลีก 2 กับตราด เอฟซี และ นครปฐม ยูไนเต็ด ตามลำดับ นอกจากยังมีนี้ บิลลี่ เกตุแก้วพรหมพร กองหน้าที่เคยค้าแข้งในฝรั่งเศส อีกด้วย
อย่างไรก็ตามทีมชุดนี้ยังคงเต็มไปด้วยดาวรุ่งหน้าใหม่ บางคนยังไม่เคยติดทีมชาติเลยด้วยซ้ำ ซึ่ง ลาว เป็นชาติที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ ที่มี อายุเฉลี่ยเพียง 22.1 ปี เท่านั้น ดังนั้นคงเป็นเรื่องของการหาประสบการณ์เพื่อต่อยอดไปยังอนาคตมากกว่า
7. สิงคโปร์
สิงคโปร์ คือทีมที่ประสบความสำเร็จในรายการนี้มากสุดเป็นอันดับสอง ด้วยการคว้าแชมป์มาแล้ว 4 สมัย ในปี 1998, 2004, 2007 และ 2012
ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือของทีมชาติสิงคโปร์ เรียกนักเตะชุดที่ดีที่สุดมาร่วมทีชุดนี้อย่างพร้อมจะ จะขาดก็เพียงแค่ อิกซาน ฟานดี้ กองหน้าจาก บีจี ปทุม ที่เจ็บก่อนทัวร์นาเม้นต์เริ่มเท่านั้น ที่เหลือยังนำโดย อิลฮาน ฟานกี้ กองหน้าจากสโมสร ไดน์เซ่ ในเบลเยี่ยม และ อิร์ฟาน ฟานดี้ กองหลังจากแกร่งจาก บีจี ปทุม นอกจากนี้ยังมีตัวเก๋าที่เล่นในรายการนี้มาหลายสมัยอย่าง ฮาริส ฮารูน และกองกลางจอมขยันอย่าง ซง อุย-ยัง ที่โอนสัญชาติมาช่วยทีมในครั้งนี้ด้วย
เรียกง่าย ๆ ว่านี่คือทีมชุดที่ดีที่สุดของพวกเขา ณ เวลานี้แล้ว และด้วยดีกรีแชมป์ 4 สมัย ชัดเจนว่า สิงคโปร์ ที่จัดเต็มนักเตะมาขนาดนี้ คงตั้งเป้าไว้ที่แชมป์สมัยที่ 5 อย่างแน่นอน แม้จะต้องอยู่ร่วมสายกับทีมแกร่งอย่าง เวียดนาม และ มาเลเซีย ก็ตาม
8. มาเลเซีย
มาเลเซีย เข้าร่วมศึก AFF ครบทุกครั้ง แต่คว้าแชมป์ได้เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2010 และเป็นทีมแพ้ในนัดชิงชนะเลิศถึงสามครั้งในปี 1996, 2014 และ 2018.
คิม พัน กอน กุนซือชาวเกาหลีใต้ เข้ามารับช่วงทำทีมต่อจาก ตัน เชง โฮ และเริ่มแสดงให้เห็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ทั้งนี้ มาเลเซีย ยังสามารถเอาชนะ ไทย ได้ในรายการ คิงส์ คัพ ครั้งที่ผ่านมาอีกด้วย แม้จะเป็นการดวลจุดโทษก็ตาม
สิ่งที่น่าสนใจคือ มาเลเซีย ชุดนี้เป็นนักเตะที่เล่นด้วยกันมาตลอด โดย คิม พัน กอน ยืนยันว่าเขาประคบประหงมทีมชุดนี้มานานกว่า 1 ปี แล้ว จึงทำให้ทีมมีความเข้าใจเกมและเเท็คติกสูง นอกจากนี้ยังมีการเสริมนักเตะโอนสัญชาติอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ และ ลี ทัก บวกกับตัวจี๊ดเดิม ๆ อย่าง ซาฟาวี ราซิด, แบรนดอน กัน และ โดมินิค ตัน ยิ่งทำให้ มาเลเซีย ดูน่ากลัวกว่าการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา ๆ เสียอีก
เรียกได้ว่า มาเลเซีย ชุดนี้น่าจะเป็นทีมที่สมบูรณ์ที่สุดในภายในบรรดา 10 ทีมที่ร่วมเข้าแข่งขัน ดังนั้นไม่มีเหตุผลอื่นด้วยระยะเวลาการรวมทีม และความพร้อมขนาดนี้ พวกเขาหวังเเชมป์อย่างไม่ต้องสงสัย
9. เมียนมา
เมียนมา ของกุนซือ อองตวน เฮย์ โค้ชชาวเยอรมัน ถือว่าขาดตัวหลักแค่ 1 คนคือ อ่อง ธู ที่เพิ่งย้ายไปเล่นให้กับ ลำพูน วอริเออร์ส เท่านั้น ส่วนที่เหลือพวกเขาใช้นักเตะที่มีประสบการณ์ในรายการนี้มาตั้งแต่อายุน้อย ๆ ทั้งสิ้น โดยอายุเฉล่ยของทีมชุดนี้อยู่ที่ 25 ปี และนักเตะส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการติดทีมชาติมาเเล้วทั้งนั้น
การขาดหายไปของ อ่อง ธู ทำให้ เมียนมา เปลี่ยนตัวความหวังมาเป็น หม่อง หม่อง ลวิน จาก ลำพูน วอริเออร์ส ขึ้นมาเป็นตัวรุกหมายเลข 1 แทน นอกจากนี้ยังมีนักเตะที่เล่นในไทยอีก 3 รายคือ อ่อง กอง มันน์ กองหน้าตัวเก่งของ (อุดรธานี เอฟซี), ลวิน มอ อ่อง (ระยอง เอฟซี) และ ไฮน์ เพียว วิน กองหลังจาก (ราชบุรี เอฟซี )
ส่วนเรื่องเป้าหมายนั้น กุนซือ อองตวน เฮย์ ให้สัมภาษณ์ด้วยตัวเองว่าเป้าหมายแรกของ เมียนมา ชุดนี้ตั้งเป้าไว้ที่การผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปให้ได้ ส่วนที่เหลือถือเป็นโบนัสสำหรับทีมชุดนี้
10. เวียดนาม
เวียดนาม คือทีมที่ร้อนแรงที่สุดในอาเซียนในช่วงเวลา 4-5 ปีหลังสุด พวกเขาผลงานดีต่อเนื่องหลังจากคว้าแชมป์ AFF Suzuki Cup 2018 ยังสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบสามของศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ในปีนี้ร่วมกับทีมชาติไทยเหมือนเช่นเคย
พัค ฮัง ซอ ได้รับการยกย่องอย่างมากในการพลิกโฉมทัพดาวทองให้กลายเป็นทีมเบอร์หนึ่งของอาเซียน โดยอดีตผู้ช่วยของ กุส ฮิดดิ้งค์ ตั้งเป้าป้องกันแชมป์ในปีนี้ให้ได้เพื่อต่อยอดความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
ส่วนเรื่องขุมกำลังนักเตะนั้นไม่ต้องพูดถึง เวียดนาม ยังคงจัดเต็มเตรียมพร้อมสำหรับการคว้าเเชมป์รายการนี้โดยเฉพาะ นำโดย เหงียน ควง ไฮ่ จาก โป แอฟเซ ในลีกรองของฝรั่งเศส ขณะที่ส่วนอื่น ๆ เจ้าประจำอยู่กันพร้อมหน้า ทั้ง ดวน วาน เฮา กองหลังที่เคยไปค้าแข้งกับ ฮีเรนวีน ในเนเธอร์แลนด์, เหงียน วาน เกวี๊ยต และ เหงียน เทียน ลินห์ ที่แฟนบอลไทยคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี
เป็นอีกครั้งทีเวียดนามยังคงใส่สุดกับทีมชุด AFF แน่นอนว่าด้วยดีกรีทีมที่ฮอตที่สุดในอาเซียนช่วงหลัง พวกเขายังคงตั้งเป้าไว้ที่แชมป์เหมือนเช่นเคย และพวกเขายังคงเป็นไฮไลต์สำคัญร่วมกับไทย ในการแข่งขัน AFF 2022 ครั้งนี้