ไข้หวัดอูฐ : ภัยเงียบที่อาจพรากแชมป์โลก ไปจากทีมชาติฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เป็นชาติแรกในรอบ 60 ปี ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยติดต่อกัน หลังพิชิตโมร็อคโค 2-0 ในรอบรองชนะเลิศ ผ่านเข้ารอบชิงไปดวลกับโคตรทีมจากอเมริกาใต้อย่าง อาร์เจนตินา ซึ่งจะมีขึ้นที่สนามลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม
ทั้งสองทีมล้วนมีศักดิ์ศรีเป็นแชมป์โลก 2 สมัย และต่างฝ่ายต่างมียอดนักเตะแห่งยุคอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ เป็นตัวชูโรง เรียกได้ว่านี่จะเป็นแมทช์ที่สูสีมาก ๆ และยากที่จะคาดเดาผลการแข่งขัน
อย่างไรก็ดี แคมป์ทีมชาติฝรั่งเศสกลับโดนภัยเงียบคุกคาม และอาจส่งผลต่อการเตรียมทีมลงเล่นในนัดชิงบอลโลก เพราะอยู่ ๆ นักเตะในทีมก็พากันป่วย มีไข้ เจ็บคอ และอิดโรย ซึ่งลักษณะอาการคล้ายกับไข้หวัดอูฐ หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อ โรคเมอร์ส (Middle-Eastern Respiratory Syndrome)
อาเดรียง ราบิโอต์ กับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน คือนักเตะสองคนแรกที่โดนเล่นงาน พวกเขาเริ่มมีอาการหลังจบเกมชนะทีมชาติอังกฤษ 2-1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้ทั้งคู่พลาดลงสนามในเกมกับโมร็อคโค ขณะที่สตาฟฟ์ทีมชาติฝรั่งเศสเชื่อว่า ทั้งคู่อาจติดมาจากนักเตะอังกฤษ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์เรื่องนี้
เมอร์ส (MERS) คือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โคโรน่า ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อปี 2012 ก่อนจะแพร่ระบาดไปยังกลุ่มประเทศข้างเคียงในตะวันออกกลาง แม้แต่ประเทศไทยก็เคยตรวจพบชาวต่างชาติติดเชื้อไวรัสตัวนี้เดินทางเข้ามาเช่นกัน
เมอร์สเป็นเชื้อไวรัสที่แพร่ระหว่างสัตว์สู่คน โดยเฉพาะ “อูฐ” ที่ถือเป็นแหล่งรวมเชื้อไวรัสตัวนี้ จนถูกเรียกอีกชื่อว่า “ไข้หวัดอูฐ” หากคุณเข้าไปสัมผัสกับอูฐ หรือแม้แต่บริโภคนมอูฐ คุณก็สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อเมอร์ส รวมถึงยังสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ หากคุณเข้าไปสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง
ผู้ป่วยโรคเมอร์สจะมีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว จนกระทั่งหอบเหนื่อย บางเคสปอดอักเสบรุนแรงจนเสียชีวิต ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสตัวนี้จากทั่วโลกเกือบ 1,000 คน นับตั้งแต่พบการแพร่ระบาดเมื่อ 10 ปีก่อน
หากเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อกับผู้เสียชีวิตจากโรคเมอร์ส จะพบว่าผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ใน 3 เสียชีวิต ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก เมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เสียชีวิตไม่ถึง 4% ผู้เสียชีวิตจากเชื้อเมอร์สส่วนใหญ่จะมีอายุมากกว่า 40 ปี และมีโรคประจำตัวเรื้อรังอยู่
นั่นคือเหตุผลที่สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) ได้ออกประกาศเตือนแฟนบอลที่เดินทางมาชมฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ให้ระมัดระวังตัวเอาไว้ ถ้าให้ดีก็อย่าไปเข้าใกล้กับสัตว์ที่แหล่งแพร่เชื้ออย่างอูฐ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่
ตัดกลับมาที่แคมป์ทีมชาติฝรั่งเศส หลังจากที่ ราบิโอต์ กับ อูปาเมกาโน มีอาการป่วย พวกเขาก็จับทั้งคู่แยกจากเพื่อนร่วมทีมทันที โดยเฉพาะในรายของ ราบิโอต์ ที่อาการค่อนข้างชัด ขนาดเพื่อนเดินทางกลับมาถึงที่พัก หลังจากผ่านรอบรองชนะเลิศได้ เขายังทำได้แค่ฉลองกับเพื่อน ๆ อยู่ห่าง ๆ จากหน้าห้องพักชั้นบนของตัวเอง
แต่ดูเหมือนสถานการณ์ของฝรั่งเศสจะไม่ดีขึ้น เมื่อล่าสุด คิงส์ลีย์ โคมาน ปีกตัวจี๊ดของทีม เป็นอีกรายที่ป่วยเป็นไข้และมีอาการคล้ายกับสองคนก่อนหน้านี้ ทำเอา ดิดิเยร์ เดชองส์ ถึงกับเครียดเลยทีเดียว เพราะเกมนัดชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในอีก 2 วันนี้แล้ว
“เราพยายามระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ นักเตะได้พยายามอย่างหนักในสนาม แน่นอนว่าภูมิต้านทานของพวกเขาก็ลดลงไปด้วย” เดชองส์ กล่าว
“ดาโยต์ อูปาเมกาโน ป่วยทันทีหลังจบเกมกับอังกฤษ มันเกิดขึ้นได้เมื่อคุณทุ่มพลังที่มีมากเกินไป ร่างกายของคุณก็จะอ่อนแอลง เราจึงต้องระมัดระวังกับพวกเขา เราจึงแยกเขาและอาเดรียงออกจากเพื่อนร่วมทีม”
ตอนนี้ทีมชาติฝรั่งศสคงต้องภาวนาให้ไม่มีนักเตะในทีมป่วยเพิ่มอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นการเตรียมทีมเพื่อทำศึกสำคัญกับ ทีมชาติอาร์เจนตินา จะได้รับผลกระทบไปด้วย และอาจจะดับฝันคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ของพวกเขาลงก็เป็นได้
แหล่งที่มา : https://en.as.com/soccer/what-is-camel-flu-virus-affecting-france-squad-ahead-of-world-cup-final-n/
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1176
https://www.mirror.co.uk/news/uk-news/doctors-warned-over-deadly-camel-28708342
https://talksport.com/football/1278383/kingsley-coman-ill-france-world-cup-final-argentina/