ไร้ชัยแต่ไม่ไร้ทรง : วิเคราะห์ชลบุรี ยุคใหม่ของ เทกุ หลังเจ๊าขอนแก่น 0-0
ชลบุรี เอฟซี ภายใต้การคุมทัพของ มาโกโตะ เทกุระโมริ อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ที่เคยมารับงานกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แต่ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อซีซั่นก่อน ถูกจับตามองอย่างมากว่าจะไปได้ไกลมากแค่ไหน หลังดูภาพฉากหน้าเหมือนว่า ‘ดีเอ็นเอ’ ของทั้งโค้ชและผู้บริหารเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ก่อนทัพ ฉลามชล กลับทำได้แค่บุกไปไล่ตามตีเสมอ ตราด เอฟซี ในเกมเปิดหัวไทยลีก ที่เป็นเหมือนดาร์บี้แมตช์ภาคตะวันออกแบบหืดจับ 2-2 แถมโดนเจ้าบ้านยิงไปก่อนถึงสองลูก เก็บคะแนนกลับบ้านมาได้แค่แต้มเดียว จนแฟนบอลเริ่มออกอาการเป็นห่วงว่าผลงานจะออกมาเหมือนเคยๆ
ความหวังการคว้าชัยเกมแรกในฤดูกาล เลยมาตกอยู่ในเกมนัดแรกในรังเหย้า ชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม โดยมีบททดสอบเป็นทีมจอมเหนียวอย่าง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่เปิดซีซั่นได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการยันเสมอแชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในรัง 0-0
ผลปรากฎว่า ฉลามชล ที่มีโอกาสทำประตูนับไม่ถ้วน ต้องมาเจอฟอร์มระดับสุดยอดของ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ ประตูของ จงอางผยอง ที่โชว์เซฟแบบเหนียวหนึบหลายต่อหลายครั้ง เล่นเอาแฟนบอลและโค้ชของ ฉลามชล ต่างท้อไปตามๆ กัน แล้วก็ดับฝันการเก็บชัยนัดแรกของเจ้าถิ่น ด้วยการยันเสมอได้สำเร็จ 0-0
ลูกทีมของ เทกุ ยังต้องปรับเปลี่ยนจุดไหน? ถึงจะพาทีมคว้าชัยเกมแรกได้ตามที่ต้องการสักที รูปแบบการเล่นของพวกเขาในซีซั่นนี้ดูดีมีทรงจริงหรือไม่? คุณภาพผู้เล่นที่มีอยู่ในมือตั้งเป้าตอนจบฤดูกาลได้แค่ไหน? ร่วมวิเคราะห์หาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
สร้างจังหวะได้แต่จบไม่ลง
แน่นอนว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนของ ชลบุรี เอฟซี ในการคุมทีมของ เทกุ คือ แท็คติกการเล่นของทีม โดยเฉพาะเรื่องของเกมบุก ที่มีความวูบวาบเร้าใจ จังหวะการต่อบอลออกบอลเนียนตา มีการทำชิ่งสวยๆ ให้เห็นกันอยู่หลายช็อต ตามที่ทาง เทกุ เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ก่อนฤดูกาลเริ่มว่า
“ด้วยจุดแข็งของทีทชลบุรี คือ การเน้นการพัฒนาเยาวชนของทีมอยู่แล้ว ผมก็เลยอยากใช้จุดแข็งตรงนี้ สร้างสไตล์เกมรุกในแบบที่รุกทุกคนรับทุกคน”
อย่างไรก็ตามพอเข้าไปถึงพื้นที่สุดท้าย ปรากฎว่า ตัวรุกที่จัดลงไปเต็มพิกัด แล้วล้วนแต่มีทักษะเฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยมในการเอาตัดรอด หรือการเลี้ยงกินตัว 1 ต่อ 1 กลับทำได้แค่วูบวาบ สร้างจังหวะเพื่อหาโอกาสในการจบสกอร์ได้ แต่ไม่สามารถทำให้มันเป็นประตูได้ตามต้องการ
ไม่ว่าจะเป็น วิลเลี่ยน ลิร่า, เบน เดวิส, อมาดู อ็อตตาร่า และ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ที่สลับกันง้างเท้ายิงจนเหนื่อยใจ แต่ไม่ไปติดเซฟผู้รักษาประตู ก็จะลงเอยด้วยการเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ไม่มีตัวที่ไว้ใจได้แบบโป้งปิดบัญชีจบ
เมื่อมาถึงตอนนี้แฟนบอล ฉลามชล น่าจะเข้าใจในบทสัมภาษณ์ของ เทกุ มากขึ้นถึงเป้าหมายของทีมที่เคยพูดไว้แบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า
“เป้าหมายในลีกเนี่ยยังบอกไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับว่าเราทำได้ดีในการเก็บตัวแค่ไหน เพราะอย่างที่บอกไปตอนต้น ผลการแข่งขันในลีก กับช่วงปรีซีซั่น มันจะสัมพันธ์กัน”
“ในเมื่อเราได้รับความคาดหวังจากแฟนบอลมาก เราก็ต้องตอบรับความคาดหวังเหล่านั้นจากแฟนบอลให้ได้ครับ รวมถึงคนที่ไม่ได้คาดหวังด้วย ก็อยากทำให้มาคาดหวังอีกครั้ง”
แม้ว่าผลงานการอุ่นเครื่องกับทีมต่างๆ จะออกมาดีเก็บชัยชนะได้หลายเกม แต่ปัญหาบางอย่างที่ซ่อนอยู่อย่างเรื่องของการจบสกอร์ ก็มีให้เห็นกันมาแล้วในนัดที่เบียดเอาชนะ ทิฟฟี่ อาร์มี่ เอฟซี สโมสรจากลีกกัมพูชาที่พวกเขาทำได้แค่เฉือน 1-0
ขาดตัวเปลี่ยนเกมที่มีคุณภาพ
แน่นอนว่าเมื่อทัพ 11 ตัวจริงของ ฉลามชล ไม่สามารถเจาะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด แล้วสามารถทำประตูขึ้นนำได้เสียที เฮดโค้ชอย่าง เทกุ ย่อมต้องทำการแก้เกมด้วยการเปลี่ยนตัวสำรอง ลงไปสร้างมิติเกมรุกให้เกิดความแตกต่าง ซึ่งมันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทีมที่มีทรัพยากรในมือ ‘พร้อม’ เท่านั้น ไม่ใช่กับ ชลบุรี ยุคนี้
ตัวสำรองที่ทยอยถูกส่งลงไป อาทิ จักรพงษ์ แสนมะฮุง, ภานุพงศ์ พลซา, บุคฆอรี เหล็มดี และ ยศกร บูรพา ต้องยอมรับว่า คุณภาพของฝีเท้านั้นยังไม่ได้ดีถึงขั้นจะช่วยทีมเก็บสามแต้มได้ เพราะยังมีจังหวะการเล่นที่ขาดๆ เกินๆ อยู่ตามศักยภาพ
ซึ่งเรื่องนี้ทาง เทกุ เคยเปรยๆ ไว้ตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นเอาไว้ว่า
“เราอยากเพิ่มประสิทธิภาพของนักบอลแต่ละคน ถ้าแต่ละคนมีพัฒนาการขึ้น พอรวมเป็นทีมก็จะมีคุณภาพมากขึ้น”
ข้อความนี้อาจจะไม่ได้บ่งบอกแฟนบอลตรงๆ ว่า คุณภาพของนักเตะในทีมยังไม่ดีพอ แต่จำเป็นต้องใช้ระบบการเล่นมาเพิ่มศักยภาพให้แต่ละคนเก่งขึ้น ซึ่งเป็นการสื่อโดยนัยว่า เมื่อไม่ได้มีผู้เล่นที่เก่งกาจ ก็ต้องพยายามสร้างขึ้นมาให้ได้ด้วยวิธีการอื่น
ดังนั้นหากความคาดหวังของแฟนบอลชลบุรี คือ ต้องการเห็น เทกุ มาคุมทีมแล้วเสกแชมป์สักถ้วยในปีนี้ คงต้องยอมรับกันตามตรงว่าเป็นเรื่องยาก แต่ถ้ามองในเรื่องของการวางระบบเพื่ออนาคต สร้างขุมกำลังที่แข็งแกร่งฟูมฟักเอาไว้จนทุกอย่างลงตัวสัก 2-3 ฤดูกาล
ทรงบอลแบบที่เห็นในวันนี้ดูแล้วไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อม เพียงแต่บอร์ดบริหารอาจต้องเติมอาวุธหนักให้โค้ชรายนี้สักหน่อย ไม่เช่นนั้นก็จะเจอปัญหาเดิมๆ หลอกหลอนไปแบบไม่จบไม่สิ้น
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=aV1cpFNb5eE
การชมเกมถ่ายทอดสด
ข่าวและบทความล่าสุด