ไต้หวัน ทีมอันดับ 156 ของโลก โดยคนใหม่ที่เป็นขวัญใจคนเดิม

ไต้หวัน ทีมอันดับ 156 ของโลก โดยคนใหม่ที่เป็นขวัญใจคนเดิม
ชยันธร ใจมูล

ทีมชาติไทยกำลังจะลงเล่นเกมกระชับมิตร ฟีฟ่า เดย์ กับ ไต้หวัน โดยล่าสุดที่ทั้งสองทีมเจอกันคือการอุ่นเครื่องเมื่อปลายปี 2022 โดยในเกมนั้น ไต้หวัน บุกมาเอาชนะไทยได้ถึงถิ่นด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูของ ChenRui-jie (เฉิน รุ่ย เจี๋ย) ซึ่งครั้งนี้เขาก็ติดทีมชาติด้วยเช่นกัน และนีคือเรื่องราวระหว่างทั้งสองทีมก่อนเจอครั้งในวันศุกร์นี้

รายชื่อทีมชาติไต้หวัน


หลังจากวันที่ชนะไทย ไต้หวัน เป็นอย่างไร

หลังจากวันที่ชนะไทยในวันที่ 14 ธันวาคม ปี 2022 ไต้หวัน ก็ไม่ได้มีเกมอย่างเป็นทางการลงเล่นอีกเลย แตกต่างกับไทยที่ลงเล่นหลังจากนั้นถึง 10 เกม (ส่วนใหญ่เป็น AFF)

อย่างไรก็ตามความเปลี่ยนแปลงของไต้หวัน ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาแทบไม่ปรากฎเลย เพราะตัวนักเตะที่เรียกมานั้นส่วนใหญ่เป็นหน้าเดิม ๆ ทั้งหมด โดยมีตัวหลัก ๆ มาจากสโฒสร ไถหนาน ไต้หวัน สตีล ที่ติดทีมชุดนี้ถึง 9 คน และรองลงมาคือ ไต้หวัน พาวเวอร์ ที่ติดมา 6 คน

Photo : ช้างศึก

แม้ตัวนักเตะจะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักเเต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงกลับเป็นตำแหน่งสำคัญอย่าง "กุนซือ" ของพวกเขา

ตอนที่เจอไทยเมื่อปลายปีที่เเล้ว เหย๋ เซียง ชุง กุนซือชาวไต้หวันเป็นคนคุมทีม แต่มาครั้งนี้พวกเขาได้มีการเปลี่ยนกุนซือใหม่เป็นชาวอังกฤษชื่อว่า แกรี่ ไวท์ โดยกุนซือคนนี้เคยคุมทีมชาติไต้หวันมาก่อนแล้วในช่วงปี 2017-2018 และเขาคนนี้คือหนึ่งในกุนซือฟุตบอลที่แฟนบอลไต้หวันชื่นชมมากที่สุดคนหนึ่ง โดยการคุมทีมหนที่สองนี้เขาเข้ามารับตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

และนี่คือเรื่องราวของเขาที่เป็นสาเหตุให้ชาวไต้หวันชื่นชอบ แกรี่ ไวท์ ยิ่งกว่าโค้ชคนไหน ๆ ในรอบ 20 ปีหลังสุด

แกรี่ ไวท์ คือใคร

แกรี่ ไวท์ เป็นนักเตะในลีกอังกฤษระดับนอกลีก ไม่เคยปรากฎชื่อเขาในลีกอาชีพเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาเล่นฟุตบอลได้เพียงแค่ 6 ปี ก็แขวนสตั๊ดและเอาดีด้านการเป็นโค้ชหลังจากปี 1996 ซึ่งตอนนั้นเขาอายุแค่ 21 ปีเท่านั้น

โดยงานของ ไวท์ ส่วนใหญ่จะเป็นการคุมทีมชาติเล็ก ๆ ระดับอันดับโลกต่ำกว่า 200 จึงไม่มีอะไรปรากฎมากนักในช่วงแรก เขาคุมทีมชาติ หมู่เกาะ บริติช เวอร์จิ้น, บาฮามาส และ กวม ก่อนทีจะกลายเป็นทีรู้จักในการคุมทีมชาติไต้หวัน ในปี 2017 ซึ่งปีเดียวของเขาได้ฝากผลงานสุดยอด ด้วยการเลื่อนจากอันดับ 161 ของ ฟีฟ่า แรงกิ้ง ขยับขึ้นมาถึง 40 อันดับ (121) นอกจากนี้เขายังเป็นโค้คนแรกของ ไต้หวัน สามารถพาทีมคว้าเเชมป์ระดับนานาชาติได้เป็นครั้งแรกในรอบ 55 ปี อีกด้วย

ช่วงที่ ไวท์ ทำงานกับ ไต้หวัน รอบแรกเขาเคยพาทีมเอาชนะ 7 เกมติดต่อกัน เหนือสิ่งอื่นใดคือการเอาชนะทีมอย่าง บาห์เรน ที่เป็นทีมจากตะหวันออกกลางได้ 2-1 ช่วงเวลาดังกล่าวทำให้เขาได้รับการยกย่องจากแฟน ๆ เป็นอย่างมาก

ไม่ใข่แค่ผลลัพธ์เท่านั้น ส่วนหนึ่งคือวิธีการของเขาด้วยมีเรื่องเล่ามากมายเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ ไวท์ ทำให้กับนักเตะไต้หวันชุดนั้น มีแบบทั้งแปลกและไม่แปลก เช่น เมื่อเขารับตำแหน่งเขาบอกให้กับ Pan Wen-Chieh ผู้รักษาประตูของทีมโกนผมทิ้งซะ เพราะเจ้าตัวมีทรงผมที่ประหลาดและดูตลก โดยแนะนำว่าถ้าโกนผมแล้วจะดูน่ากลัวมากกว่า สามารถข่มขวัญฝั่งตรงข้ามได้ นอกจากนี้จะทำให้เขามั่นใจในตัวเองขึ้นด้วย  

Photo : Dream Team

นอกจากนี้ยังมีสิ่งทีเรียกว่า "แบบฝึกนอกรีต" อีกไม่น้อย เพราะด้วยความที่นักเตะของ ไต้หวัน ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมายในระดับนานาชาติ เขาจึงจำเป็นจะต้องพลิกแพลงวิธีการสอนให้กับเด็ก ๆ ของเขา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาให้ได้ดีที่สุด

แกรี่ ไวท์ นำความคิดของผู้ชนะมาสู่นักเตะ เขามักจะเป็นโค้ชที่เข้าหาและพูดคุยเกี่ยวกับฟุตบอลของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เขาเป็นคนที่เชื่อเรื่องของการฝึกซ้อม เช่นเดียวกันกับเรื่องจิตวิทยา นอกจากเรื่องการให้นักเตะเปลี่ยนทรงผม เขายังมีอีกหลากหลายวิธี เช่นการขอให้แฟน ๆ เขียนจดหมายมาถึงนักเตะและเปิดอ่านให้นักเตะฟังพร้อม ๆ กัน การให้เด็ก ๆ  เข้ามาพูดคุยกับนักเตะเพื่อบอกว่าการที่นักเตะเหล่านั้นได้ติดทีมชาติมันมีความหมายขนาดไหน

นั่นคือวิธีการทำงานของเขา 1 ปีกับ ไต้หวัน ผลงานชัดเจนดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่แล้วเขาก็ย้ายออกและไปคุมทีมชาติ ฮ่องกง ในเดือนกันยายนปี 2018 เนื่องจากมีการเสนองานและโปรเจ็คต์ที่ใหญ่กว่า

ไวท์ เดินทางไปยังอีกหลายที่เช่นคุมสโมสร โตเกียว วาร์ดี้ และ  คุมสโมสรต่าง ๆ ในลีกฟุตบอลจีน และมีอยู่ช่วงหนึ่งเขาเคยถูกเรียกสัมภาษณ์เข้าเป็นกุนซือทีมชาติอังกฤษชุดยู 21 และผ่านเข้ารอบ 25 คนสุดท้ายอีกด้วย ก่อนที่จะกลับมาคุม ไต้หวัน อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 ดังที่ได้กล่าวมาไว้ข้างต้น

"4 คำที่บอกถึงการทำงานของผมคือ 1.ผุ้เล่นต้องเสียสละ 2.พวกเขาต้องสู้เหมือนกับเป็นตัวแทนของประเทศ 3. พวกเขาต้องสามัคคีกันทั้งทีม และ 4. ทำให้ดีที่สุดเพื่อทิ้งมรดกชิ้นงามเอาไว้" ไวท์ พูดถึงปรัชญาการทำงานของเขา และหลักสูตรที่เขาฝากไว้กับ ไต้หวัน ในปี 2018 ก็ถูกกระจายลงสู่สโมสรในประเทศต่าง ๆ เเละนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมคนที่นี่จึงยกย่องเขานัก

ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 7 มิ.ย.66 ทัพนักเตะไต้หวัน ลงฝึกซ้อมเป็นวันแรกที่สนามฟุตบอลเกาสง

เฮดโค้ชวัย 48 ปี กล่าวกับสื่อสมาคมกีฬาฟุตบอลของไต้หวันว่า "ดีใจมากที่ได้กลับมาฝึกซ้อมอีกครั้ง ต้องขอบคุณสมาคมที่ช่วยเอื้อเฟื้อสถานที่การฝึกซ้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแข่งขันกับทีมชาติไทย จะได้ผลลัพธ์ที่ดี และการได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลของเรา เราต้องการเก็บชัยชนะให้ได้ด้วย"

"เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เล่นของเราทุกคนจะแสดงให้เห็นทักษะการเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม และมีความดุดันในตัว โดยเฉพาะครั้งนี้ที่นักเตะหลายคนมีอายุยังน้อย เราหวังจะเห็นผู้เล่นใช้โอกาสในการแข่งขันครั้งนี้พัฒนาฟอร์มการเล่นของตัวเองและทีม และอีกประการเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ยินเสียงเชียร์จากพวกคุณเข้ามาเชียร์กันเต็มสนามในเกมวันที่ 16 นี้ด้วย"

นักเตะที่น่าจับตามอง

แน่นอนว่าด้วยความที่นี่เป็นการลองทีมอย่างเป็นทางการ ไวท์ จึงเรียกนักเตะตัวสำคัญ ๆ มาค่อนข้างครบ โดยนักเตะชุดที่ชนะไทยนัดก่อน และคนยิงอย่าง เฉิน รุ่ย เจี๋ย ก็ติดทีมชุดนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในแนวรุกยังมี Wu Junqing และ Yao Ko-chi โดยทั้ง 3 คนน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดตามระบบการเล่น 4-3-3

โดยแนวรุก 3 คนนี้ ก็ลงเป็นตัวจริงทั้งหมดในเกมเจอกับไทยล่าสุด ซึ่งในเกมนั้นทั้ง 3 คนก็เล่นร่วมกันได้ดี แต่อย่างไรเสียก็ต้องไม่ลืมว่า 11 ตัวจริงทีมชาติไทยชุดที่เจอกันเมื่อปีที่เเล้ว แทบจะเป็นตัวสำรองแบบยกชุด โดย 11 ตัวจริงวันนั้นตามระบบ 4-2-1-2 ได้แก่ กัมพล - เจริญศักดิ์, เฉลิมศักดิ์, จักพัน, ฉัตรมงคล - วีรเทพ, พีรดนย์, สุมัญญา - สรรวัชญ และคู่หน้าเป็น ธีรเทพ กับ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย

ก็ต้องมาคอยดูกันว่าทีมชาติไทยที่เปลี่ยน 11 ตัวจริงน่าจะยกชุด กับ ไต้หวัน ที่เปลี่ยนกุนซือใหม่ผู้เข้าใจวัฒนธรรมและเคยสร้างผลงานยอดเยี่ยมในอดีต ใครจะเป็นผู้ชนะในเกมอุ่นเครื่องครั้งนี้

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ