อัล-นาสเซอร์ โดนแบนห้ามซื้อนักเตะ เหตุค้างเงิน เลสเตอร์ ซิตี้
ถือเป็นยุคเฟื่องฟูของวงการฟุตบอลซาอุดิอาระเบียอย่างแท้จริง หลังสโมสรต่าง ๆ ทุ่มเงินกว้านซื้อสตาร์เข้ามาอย่างคับคั่ง อาทิ คริสเตียโน โรนัลโด้, คาริม เบนเซมา และ เอ็นโกโล ก็องเต้ เป็นต้น หวังยกระดับลีกขึ้นไปอยู่แถวหน้าของโลกให้ได้
แต่ล่าสุดกลับกลายเป็นว่า อัล-นาสเซอร์ ต้นสังกัดของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ถูกสหพันธ์ลูกหนังนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษห้ามเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาติดค้างเงินที่ต้องจ่าย เลสเตอร์ ซิตี้
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า อัล-นาสเซอร์ คว้า อาเหม็ด มูซ่า มาจาก เลสเตอร์ เมื่อปี 2018 ด้วยค่าตัว 14 ล้านปอนด์ (630 ล้านบาท) โดยมีเงื่อนไขต้องจ่ายเงินโบนัสพิเศษให้กับอีกฝ่าย 390,000 ปอนด์ (17.5 ล้านบาท) กรณีนักเตะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกซาอุดิอาระเบียได้
ปรากฎว่า มูซ่า ช่วย อัล-นาสเซอร์ คว้าแชมป์ลีกได้จริง ๆ ในปี 2019 ก่อนที่เขาจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมในปี 2020 แต่ อัล-นาสเซอร์ ยังไม่ยอมจ่ายเงินพิเศษให้กับ เลสเตอร์ แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปหลายปีแล้ว
เลสเตอร์ จึงต้องส่งคำร้องเรียนไปถึง ฟีฟ่า จนล่าสุดมีคำสั่งห้าม อัล-นาสเซอร์ คว้านักเตะใหม่ หลังเคยเตือนไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงเลือกที่จะเมินเฉย ซึ่งโทษแบนดังกล่าวอาจมีผลถึงรอบ 3 ตลาดต่อจากนี้
อย่างไรก็ดี PIF กลุ่มทุนใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย ที่เพิ่งเข้ามาเทคโอเวอร์ อัล-นาสเซอร์ แจ้งต่อฟีฟ่า ไปแล้วว่า พวกเขาพร้อมชำระเงินก้อนดังกล่าวให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ แทนที่เจ้าของทีมคนเก่า ซึ่งโทษแบนของ ฟีฟ่า จะมีผลจนกว่าจะมีการชำระเงินเกิดขึ้น
เหตุผลที่เจ้าของทีมใหม่ของ อัล-นาสเซอร์ ตกลงจ่ายเงินก้อนนี้ ก็เพราะกลัวว่าจะตามหลังสโมสรคู่แข่งร่วมลีกไม่ทัน อีกอย่างพวกเขาก็จะไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ที่คว้ามาอย่าง มาร์เซโล โบรโซวิช ได้ด้วย