อันดรีส โนปเพิร์ต : จากคนตกงานเมื่อปีก่อน สู่ประตูมือ 1 เนเธอร์แลนด์

การถูกเรียกติดทีมชาติลุยศึกบอลโลกสำหรับนักเตะคนหนึ่ง ถือว่าเป็นความฝันสูงสุดของใครหลายๆคน และเป็นโมเมนต์ที่ต้องจดจำไปตลอดชีวิต

หลายคนต่างพูดกันว่า หากคุณเก่งพอ มีความสามารถมากพอ หรือมีประสบการณ์มากพอ คุณสมบัติเหล่านี้จะทำให้คุณถูกเรียกติดทีมชาติ “แล้วถ้าหากเพียงแค่ตัวสูงและไม่มีประสบการณ์ล่ะ?”

ในเกมระหว่าง เนเธอร์แลนด์ vs สหรัฐฯ ที่ผ่านมา ผู้คนอาจจะใจจดใจจ่ออยู่กับผลการแข่งขัน ใครเล่นดี หรือใครจะยิงประตู ทว่าหลังจบเกมคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดน่าจะเป็น เทพพิทักษ์หน้าปากประตูปริศนาของ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ที่ไม่เคยติดทีมชาติมาก่อนหน้านี้

เขาคือใคร มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ติดตามเรื่องราวสุดผาดโผนของเขาไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

แสงสว่างเพียง 5 แรงเทียน

“อันดรีส โนปเพิร์ต” วัย 28 ปี เกิดและเติบโตในฮีเรนวีน และเริ่มต้นค้าแข้งกับทีมในท้องถิ่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ทว่าด้วยความที่ฟุตบอลในเนเธอร์แลนด์ มีการแข่งขันที่สูงมาก ทำให้เขาไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งมาได้และต้องอำลาทีมไปในปี 2014

หลังจากนั้น เขาก็กลายเป็นแข้งพเนจรร่อนเร่ย้ายไปเล่นให้กับหลายสโมสร แต่บทบาทส่วนใหญ่เป็นแค่ผู้รักษาประตูสำรอง และลงเล่นไปเพียงแค่ 14 นัดตลอด 5 ปีกับ NAC เบรด้า และ ฟ็อกเจีย ในลีกอิตาลี ในช่วงปี 2014-2019

อย่างไรก็ดี จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต ก็เกิดขึ้นตอนที่เขาเล่นให้ ฟ็อกเจีย เมื่อต้นสังกัดที่เล่นอยู่ในเซเรีย บี ของอิตาลี มีอันต้องร่วงตกชั้น ไปเล่นในเซเรีย ซี ที่ทำให้เขาต้องยุติบทบาทการเป็นนักเตะของสโมสร

เขายอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะความรู้สึกไม่ปลอดภัยกับชีวิตในอิตาลี ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยถึงขั้นต้องจ้างมาเฟียไปทวงเอารถที่ถูกขโมยไปด้วยซ้ำ

“รถของผมถูกขโมยไป แต่ผมก็ยังได้มันคืนจากมาเฟีย” โนปเพิร์ต กล่าวกับ ESPN

เขาเล่าว่าเขายังเคยเห็นแฟนบอลหัวรุนแรงบางกลุ่ม จุดไฟเผารถของ ปิเอโตร เอมเมลโร กองหน้าของทีมหลังทีมพ่ายแพ้ และยังขู่จะระเบิดรถของประธานสโมสรอย่าง ฟรังโก้ ซานเนรา และกลัวว่าวันหนึ่งอาจจะเป็นตัวเขาเองที่โดน

"พวกเขาปล่อยยางรถยนต์ของเรา หรือทิ้งระเบิดในลานบ้านของเรา" โนปเพิร์ต

แต่ปัญหาก็คือ เขาจะทำอะไรต่อ?

เกือบได้เป็นตำรวจ

หลังทิ้งชีวิตที่อิตาลีไว้ข้างหลัง โนปเพิร์ต ก็ได้สโมสรใหม่ในบ้านเกิด ด้วยการเซ็นสัญญากับ เอฟซี ดอร์เดรชท์ ทีมในลีกระดับสองของแดนกังหันลม

แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาไม่เป็นใจ เมื่อ โนปเพิร์ต ดันมาได้รับบาดเจ็บหนัก และแทบไม่ได้ลงเล่นให้กับสโมสร ก่อนจะถูกยกเลิกสัญญาในปี 2020 และกลายเป็นคนตกงานอย่างน่าเศร้า

การไม่มีอาชีพก็หมายความว่าไม่มีเงิน และในเมื่อชีวิตต้องกินต้องใช้ ภรรยาของเขาจึงแนะนำให้เขาล้มเลิกการเป็นนักฟุตบอล และไปสอบเป็นตำรวจซึ่งดูจะเป็นงานที่มั่นคงมากกว่า เพื่อครอบครัว และเพื่อชีวิตที่ดีกว่านี้

แต่เขาก็ไม่ยอมให้ความฝันต้องจบลง และยังคงมุ่งมั่นหาทีมเล่น แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีใครสนใจผู้รักษาประตูไร้ดีกรีอย่างเขา และกลายเป็นคนว่างงานอยู่เกือบหนึ่งปี

จนกระทั่งในปี 2021 ความพยายามของเขาก็มาบรรลุผล เมื่อโก อเฮด อีเกิลส์ ทีมน้องใหม่ของลีกสูงสุดเนเธอร์แลนด์ ตัดสินใจคว้าตัวเขาไปร่วมทัพ ในฐานะผู้รักษาประตูสำรอง

และมันก็คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะแม้ว่า 19 นัดแรก เขาจะใช้ชีวิตอยู่บนม้านั่งสำรอง แต่การบาดเจ็บของ วาเนอร์ ฮาห์น ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม ก็ทำให้ โนปเพิร์ต ได้รับโอกาสในเกมพบกับ เฮราเคส อเมโล ก่อนจะทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และยึดตำแหน่งมือหนึ่งมาครองได้สำเร็จ โดยเสียไปเพียง 20 ประตูจาก 15 นัดที่ลงสนาม

ผลงานดังกล่าวไปเข้าตาแมวมองของ ฮีเรวีน อย่างจัง และทำให้ทีมดึงตัวมาร่วมทัพในฤดูกาล 2022/2023 และกลายเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งผู้รักษาประตูของทีม ก่อนจะโชว์ฟอร์มเซฟ ช่วยให้ฮีเรวีน เสียไปเพียง 13 ประตูจาก 14 นัด และรักษาคลีนชีทได้ถึง 4 นัด

แต่นั่นยังไม่ใช่จุดสูงสุดในชีวิต

กลับสู่วงโคจร

ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมทำให้ โนปเพิร์ต ถูกเรียกติดทีมชาติครั้งแรกในเดือนกันยายน 2022 แต่ก็ยังไม่ได้ลงเล่น ก่อนจะถูกใส่ชื่อเป็นหนึ่งใน 26 ขุนพลุดท้ายชุดลุยบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ภายใต้การนำทีมของหลุยส์ ฟานกัล

ในตอนแรก หลายคนคิดว่าเขาคงถูกเรียกเข้ามาในฐานะผู้รักษาประตูสำรอง เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์เล่นให้ทีมชาติมาก่อน แต่ในเกมนัดเปิดสนามกับ เซเนกัล หลายคนก็ต้องเซอร์ไพร์ส เมื่อนายด่านที่มีส่วนสูง 2.03 เมตร ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง

และเขาก็ไม่ทำให้ ฟานกัล ต้องผิดหวัง เมื่อโชว์ฟอร์มไปถึง 4 เซฟ ช่วยให้เนเธอร์แลนด์ รักษาคลีนชีตเอาไว้ได้ ก่อนที่สุดท้ายทีมของเขาจะประเดิม 3 คะแนนแรก ด้วยชัยชนะ 2-0 เหนือเซเนกัล จากสองประตูในช่วงท้ายเกม

เรียกได้ว่ามันเป็นการเปิดตัวที่ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์ เพราะย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน เขายังเป็นคนที่ไม่มีงานทำ และเกือบจะเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาคือผู้รักษาประตูดีกรีฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

อันที่จริง ชีวิตของเขาก็ดูไม่ต่างจากดาวพลูโต ที่เคยถูกมองว่าเป็นดาวเคราะห์ ซึ่งเกิดจากดาวหางนับพันล้านดวงมารวมกัน แต่ก็ต้องถูกตัดออกจากระบบสุริยะ เนื่องจากไม่มีความโดดเด่น เท่ากับดาวเคราะห์ดวงอื่น

อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น เพราะจะถูกตัดจากระบบสุริยะกี่ครั้ง เขาก็ยังพยายามหาทีมใหม่ และความพยายามนั้นก็รวมตัวทำให้เขาเป็นเขาอย่างในวันนี้

มันอาจจะฟังดูเหลือเชื่อ กับการที่ผู้เล่นที่ไร้สังกัด เมื่อหลายเดือนก่อน ได้ลงเล่นในบอลโลก แต่มันก็สะท้อนให้เห็นว่า ชีวิตของคนเราไม่มีอะไรแน่นอน และอะไรก็เกิดขึ้นได้ ตราบที่เรายังไม่ตัดใจ

แหล่งอ้างอิง

https://www.goal.com/en/news/who-is-andries-noppert-the-towering-dutch-goalkeeper-making-his-debut-with-the-netherlands-at-the-world-cup/bltf4827c39badc0ecb

https://football-italia.net/noppert-netherlands-goalkeeper-had-to-pay-the-mafia-to-get-stolen-car-back-when-in-italy/?fbclid=IwAR0a9OXk3Fqnw29O8UJzyAAcZKbdz-UuSov7tQhi4fDSDhJs_I6hzQmQeY4

https://www.transfermarkt.com/andries-noppert/profil/spieler/276853

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด