Blue Lock : มังงะที่เอาจุดอ่อนของกองหน้าทีมชาติญี่ปุ่นมาขยี้แบบสุดมัน

Photo : Kodansha

“กองหน้าที่ติด ๆ ขัด ๆ หน้าปากประตู ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นกองหน้า” โชเฮอิ บาโร หนึ่งตัวละครจาก Blue Lock เคยกล่าวเอาไว้

ทาคูมะ อาซาโนะ สร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งโลก หลังควบบอลหนี นิโก ชล็อทเทอร์เบ็ค ที่สูงกว่าเขาเกือบ 20 เซนติเมตร เข้าไปยิงประตูแสกหน้า มานูเอล นอยเออร์ นายด่านร่างยักษ์ เป็นประตูชัยให้ทีมชาติญี่ปุ่นเอาชนะเยอรมันแบบพลิกล็อค 2-1 ในบอลโลก 2022

อย่างไรก็ดี โมเมนต์แห่งความทรงจำนี้ อาจจะไม่ได้เกิดขึ้น หาก อาซาโนะ ตัดสินใจหักกลับหลัง หรือจ่ายบอลขวางสนามไปทางเสาสอง แต่เขาตัดสินใจซัดเต็มแรงแบบไม่สนใคร เหมือนกองหน้า Blue Lock มังฟุตบอลยอดนิยมของญี่ปุ่นในขณะนี้

มันคือมังงะอะไร และมีความสำคัญแค่ไหนต่อทีมชาติญี่ปุ่น ร่วมไขคำตอบไปกับ “T้hink Curve - คิดไซด์โค้ง เขียนให้อ่าน”

แรงบันดาลใจจากความพ่ายแพ้

ญี่ปุ่นอาจจะเป็นหนึ่งในชาติที่ยกระดับความสามารถในเชิงฟุตบอลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ทุกครั้งใน 7 ครั้งหลังสุด ทว่าจุดอ่อนแก้ไม่หายคือความเฉียบคมในการจบสกอร์

และมันก็มาตอกย้ำในฟุตบอลโลก 2018 ที่ซามูไรบลู มีโอกาสผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังออกนำ เบลเยียม 2-0 หลังผ่านชั่วโมงแรกของเกม และมีโอกาสยิงเพิ่มอีกหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายมาโดนทีเด็ดของทีมจากยุโรปยิง 3 ประตูรวด และพ่ายไปอย่างเจ็บปวด 2-3

และความพ่ายแพ้ดังกล่าว ก็ทำให้ มูเนยูกิ คาเนชิโร และยูซูเกะ โนมูระ ตัดสินใจสร้างมังงะ ที่หวังจะเป็นแรงบันดาลใจให้กองหน้าญี่ปุ่น ก้าวไปถึงระดับโลก หลังจาก กัปตันสึบาสะ สร้างกองกลางให้พวกเขามาก่อน

พวกเขาเชื่อว่าสิ่งที่ทีมชาติญี่ปุ่นต้องการ คือกองหน้าที่กระหายประตู และมีความเห็นแก่ตัว ซึ่งขัดกับแนวคิดแบบเก่าของชาวญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญกับทีมเวิร์ค จนพลาดโอกาสทำประตูมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้มังงะที่ชื่อว่า Blue Lock หรือ “ขังดวลแข้ง” ในภาษาไทยได้ถือกำเนิดขึ้นมา

สร้างกองหน้า “เห็นแก่ตัว”

Blue Lock คือมังงะที่ว่าด้วยเรื่องราวของ โยอิจิ อิซางิ นักฟุตบอลระดับมัธยมปลายตัวแทนของโรงเรียน ที่ครั้งหนึ่งเคยทำพลาด จ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมในนาทีสุดท้าย แทนที่จะยิงเอง จนสุดท้ายทีมต้องพ่ายไป

ตัวเขาเอง รู้สึกผิดหวังอย่างมากกับสิ่งนั้น แต่เมื่อถึงบ้าน เขาก็ได้รับจดหมายจาก สมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่น ที่เชิญเขาไปร่วมโครงการ Blue Lock โปรเจ็คต์ที่เอากองหน้า 300 คนจากทั่วประเทศ มาขังอยู่ในคุกและแข่งขันกัน เพื่อเฟ้นหากองหน้าที่เก่งที่สุดไปเล่นทีมชาติ และคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก

“ในปี 2018 ทีมชาติญี่ปุ่น จบในอันดับ 16 ในฟุตบอลโลก ด้วยเหตุนี้ สมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นจึงได้จ้างโค้ชฟุตบอลลึกลับนามว่า เอโกะ จินปาจิ เป้าหมายหลักของเขา คือการนำญี่ปุ่นไปสู่การเป็นทีมที่มีชื่อเสียงผ่าน Blue Lock สูตรการฝึกซ้อมที่ออกแบบมาเพื่อสร้างกองหน้าที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก” เรื่องย่อระบุ

“สำหรับคนที่ล้มเหลวใน บลูล็อค จะไม่ได้รับอนุญาตให้ติดทีมชาติญี่ปุ่นได้อีก โยอิจิ อินางิ นักฟุตบอลมัธยมปลายที่ไม่มีใครรู้จัก ซึ่งมีความขัดแย้งกับวิธีการเล่นของเขา ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก”

ผู้นำในโครงการนี้คือ จินปาจิ เอโกะ (มาจากคำว่า Ego ที่แปลว่าอัตตาหรือความเห็นแก่ตัวในภาษาอังกฤษ) โดยเขาต่างใช้วิธีที่หลากหลายเพื่อขัดเกลาผู้เข้าร่วมให้เป็นดาวยิงที่ไม่คิดถึงคนอื่นให้มากที่สุด

“งานของผมคือการทำให้ญี่ปุ่นเป็นทีมที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ผมพูดง่ายๆ ญี่ปุ่นต้องการเพียงแค่สิ่งเดียวเพื่อเป็นมหาอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกฟุตบอล และนั่นคือการสร้างวิธีปฏิวัติกองหน้า” เอโกะกล่าว

“จาก 300 คนที่มารวมตัวกันในวันนี้ ผมจะหล่อหลอมกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกผ่านโครงการที่เลี่ยงไม่ได้ พวกแกจะเป็นกองหน้าที่ปฏิวัติวงการ ความเห็นแก่ตัวที่ไม่ธรรมดาของพวกแกคือสิ่งหนึ่งที่ฟุตบอลญี่ปุ่นขาดหาย แกจะไม่มีวันเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดของโลก หากไม่มีความเห็นแก่ตัว เป้าหมายของผมที่นี่คือสร้างผู้เล่นแบบนี้ในญี่ปุ่น”

อย่างไรก็ดี เป้าหมายของมังงะเรื่องนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายแค่สร้างยอดกองหน้าเท่านั้น

กำแพงที่เรียกว่าเยอรมัน

ญี่ปุ่นกับเยอรมัน ถือเป็นสองชาติที่มีความสัมพันธ์เชิงฟุตบอลมายาวนาน เนื่องจากชนชาติดอยช์เป็นทั้งผู้ที่เข้ามาวางรากฐานให้ฟุตบอลญี่ปุ่น รวมถึงเป็นลีกแรกในยุโรปที่ต้อนรับแข้งเลือดซามูไรในระดับฟุตบอลอาชีพ

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชาวเยอรมัน ได้รับการยกย่องและพูดถึงอยู่หลายครั้งในมังงะฟุตบอล ไม่ว่าจะในเรื่อง “กัปตันสึบาสะ” ที่ดินแดนแห่งไส้กรอกเป็นทั้งชาติที่ เก็นโซ วาคาบายาชิ เดินทางไปฝึกฝนตั้งแต่เด็ก, สถานที่เข้าค่ายเก็บตัวก่อนศึกจูเนียร์ ยูธ หรือคู่แข่งของพวกเขาในนัดชิงชนะเลิศรายการข้างต้น ไปจนถึงคู่แข่งสำคัญในภาคต่อมา

หรือในเรื่อง “เอ้า… ชู๊ต” เยอรมัน ก็เป็นสถานที่ที่ โยชิฮารุ คุโบะ ผู้ก่อตั้งชมรมฟุตบอลคาเคงาวะ โรงเรียนของตัวเอกอาศัยอยู่ และได้เล่นฟุตบอลที่นั่น ก่อนจะเดินทางกลับมาญี่ปุ่น

แน่นอนว่าเช่นกันสำหรับ Blue Lock ที่พวกเขาให้ทีมที่ อิซางิ ตัวเอกเลือกเข้าไปฝึกเพื่อร่วมศึก Neo Egoist League ก็คือ บาสตาร์ด มึนเช่น ทีมจากเยอรมัน ซึ่งรวมยอดแข้งดาวรุ่งเลือดดอยช์เอาไว้

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเคารพของคนญี่ปุ่น ที่มีต่อฟุตบอลเยอรมัน ที่เห็นได้จากการให้ โนเอล โนอา เจ้าของฉายา "นักเตะที่เก่งที่สุดในโลก" เล่นอยู่ในลีกเยอรมัน หรือการให้ อิซางิ ไปเรียนรู้แนวทางการฝึกจากชาวดอยช์ และเล่นร่วมกับพวกเขา ซึ่งคล้ายกับในโลกจริงที่ปัจจุบัน นักเตะญี่ปุ่นจำนวนมากไปฝังตัวอยู่ในบุนเดสลีกา เพื่อเรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังจากหนึ่งในลีกที่ดีที่สุดในโลก

ทั้งนี้ ขณะเดียวกันมันก็แสดงให้เห็นความทะเยอทะยานของญี่ปุ่นในเรื่อง ในการก้าวข้ามสิ่งที่พวกเขายกย่อง เพราะเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการคว้าแชมป์โลก และการจะได้มันมา ก็ต้องชนะทุกทีมไม่เว้นแม้แต่ที่พวกเขานับถือ

ก่อนที่มันจะมาสัมฤทธิ์ผล ในปี 2022

จากมังงะสู่โลกจริง

ก่อนลงสนามนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ญี่ปุ่นมีสถิติที่น่าผิดหวังในการพบกับทีมชาติเยอรมัน เมื่อพวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้เลย ต่อ 4 นัดที่พบกัน และใกล้เคียงที่สุดคือการออกนำไปก่อน 2-0 แต่มาโดนตีเสมอ 2-2 ในช่วงท้ายเกมเมื่อ 2006

แต่ “ซามูไรบลู” ก็มาถอนแค้นได้เร็จ เพราะแม้จะโดนยิงไปก่อนในครึ่งแรก แต่พวกเขาก็มารวมใจกันยิง 2 ประตูในครึ่งหลัง พลิกแซงเอาชนะไปได้ 2-1 ในท้ายที่สุด เป็นการเอาชนะเยอรมัน ชาติที่พวกเขาให้ความเคารพได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ทว่า นอกเนื่องจากชัยชนะอันชื่นมื่นแล้ว สิ่งที่ถูกพูดถึงคือประตูชัยของ ทาคุมะ อาซาโนะ ที่หลายคนบอกว่ามันคือการทำประตูในสไตล์ Blue Lock

มันเริ่มจากจังหวะที่ โค อิทาคุระ เปิดบอลจากแนวหลังให้ อาซาโนะ ใช้ความเร็วเบียดหนี นิโก ชล็อทเทอร์เบ็ค ที่เข้ามากดดัน จนเหลือมุมแค่นิดเดียวที่จะยิงประตู

ถ้าในอดีต อาซาโนะ อาจจะไม่ฝืนแล้วจ่ายบอลคืนหลังมาก่อน หรือจ่ายบอลไปที่เสาไกลให้เพื่อน ซึ่งอาจจบลงด้วยความผิดหวัง แต่ครั้งนี้ เขากลับทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด พาบอลตะลุยเข้าไป ก่อนจะอัดแสกหน้า มานูเอล นอยเออร์ เข้าไปตุงตาข่าย

“กองหน้าที่ติด ๆ ขัด ๆ หน้าปากประตู ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นกองหน้า” โชเฮอิ บาโร หนึ่งตัวละครจาก Blue Lock เคยกล่าวเอาไว้

นอกจากนี้ หลังชัยชนะของซามูไรบลู ทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของมังงะเรื่องนี้ (ซึ่งก่อนหน้านี้มีส่วนในการโปรโมตชุดแข่งของทีมชาติญี่ปุ่น) ยังได้ร่วมแสดงความยินดีด้วยการทวีตข้อความที่อิงถึงแก่นสำคัญของเรื่องนี้อีกด้วย

“ว้าวววววววว!!!! สุดยอดดดด !!!! นี่แหละความทะนงตัว” ทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของ Blue Lock ระบุ

แม้จะไม่สามารถยืนยันได้ว่า อาซาโนะ เคยอ่านมังงะ Blue Lock หรือไม่ หรือเขาได้รับอิทธิพลมาจากมันแค่ไหน แต่อย่างน้อย กองหน้าในแบบที่ทีมชาติญี่ปุ่นต้องการ ก็เริ่มมีให้เห็นแล้ว

และถ้าหากพวกเขาทำสำเร็จ สามารถสร้างกองหน้าอย่างที่มีคุณสมบัติที่ต้องการเหมือนใน Blue Lock บางทีแชมป์โลก อาจจะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป…

สุดท้ายหากคุณอยากจะหาดู Blue Lock คุณสามารถรับชมได้ที่ Netflix มีพากย์ไทยให้ติดตามครบทุกตอนอีกด้วย