จอร์เจียน่ากลัวแค่ไหน มีอะไรที่ทีมชาติไทยต้องเตรียมรับมือ?
จอร์เจียน่ากลัวแค่ไหน มีอะไรที่ทีมชาติไทยต้องเตรียมรับมือ?
เหลืออีกไม่กี่วัน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ก็จะได้ลงเล่นในยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปี หลังบินลัดฟ้าไปถึงเมืองทบิลิซี เพื่ออุ่นเครื่องกับ จอร์เจีย ในยุโรป
และก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น Think Curve - คิดไซด์โค้ง ขออาสาพาไปรู้จักกับ ทีมชาติจากยุโรปตะวันออกชาตินี้ พวกเขาเป็นทีมแบบไหน มีอะไรที่ต้องระวัง
ติดตามได้ที่นี่
ใต้ร่มเงาสหภาพโซเวียต
จอร์เจีย อาจจะเป็นชาติที่แฟนบอลชาวไทยรู้จักกับนักเตะก่อนทีมชาติ ทั้งผ่าน คาคา คาลัดเซ อดีตแนวรับ เอซี มิลาน หรือ จอจี คินคลัดเซ อดีตเพลย์เมกเกอร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากผลงานในระดับนานาชาติของพวกเขาอยู่ในระดับกลางๆ ของยุโรป
พวกเขาไม่เคยผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก แม้แต่ครั้งเดียว เช่นกันกับฟุตบอลยูโร รอบสุดท้าย ที่ใกล้เคียงที่สุดคือเมื่อปี 2020 หลังเข้าไปถึงรอบเพลย์ออฟ ชิงตั๋ว แต่ก็ต้องพ่ายให้กับ นอร์ท มาเซโดเนีย อย่างน่าเสียดาย
อันที่จริงฟุตบอลของ จอร์เจีย ก็เพิ่งมาสยายปีกในช่วงทศวรรษที่ 1990s เมื่อก่อนหน้านั้น ชาติของพวกเขาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต และเพิ่งจะได้รับเอกราช เมื่อปี 1991
นอกจากนี้ จอร์เจีย ยังมีปัญหาภายใน ทั้งขาดเงินสนับสนุน จำนวนผู้เข้าชมที่น้อยมาก ไปจนถึงการล็อคผลการแข่งขัน ที่ทำให้มีมุกตลกที่แฟนบอลจอร์เจีย แซวกันว่า ‘ฟุตบอลเกิดที่อังกฤษ โตที่บราซิล และตายที่จอร์เจีย’
“พูดตามตรง ฟุตบอลของจอร์เจีย ถูกมองว่าเลวร้ายมาก” ฟรานเซสโก บารันกา เลขาธิการทั่วไปขององค์กร FederBet กล่าวกับ iFact.ge
“จากตัวเลข ผมพูดได้เลยว่าจอร์เจียอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุดเรื่องความปลอดภัยในการพนัน มันหมายความว่ามีโอกาสมากที่จะเกิดการล็อคผลการแข่งขัน”
ทำให้ฟุตบอลของ จอร์เจีย พัฒนาไปได้ไม่สุด และการจะเติบโตได้ก็ต้องออกไปเล่นในต่างประเทศเท่านั้น ที่ทำให้ 23 นักเตะที่จะลงอุ่นเครื่องกับไทย มีผู้เล่นจากลีกจอร์เจีย เพียงแค่ 4 ราย
ขณะเดียวกัน ทีมชาติของพวกเขาก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะแม้ว่าปี 2022 จอร์เจีย จะมีผลงานที่ยอดเยี่ยม หลังพ่ายแค่เกมเดียวในปีดังกล่าว แต่นับตั้งแต่ปี 2023 พวกเขาคว้าชัยได้เพียง 2 เกม จาก 5 นัด แถม 3 นัดหลังสุดยังเสียรวมกันถึง 10 ประตู
ถ้าอย่างนั้น พวกเขายังคงเป็นบททดสอบชั้นดีสำหรับ ”ช้างศึก” อยู่หรือไม่?
แข้งลีกใหญ่ยุโรปครบครัน
แม้ว่า จอร์เจีย จะเป็นเพียงทีมระดับกลางของยุโรป แต่คุณภาพโดยรวมของพวกเขาเหนือกว่าไทยทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอันดับโลก ที่อยู่ในอันดับ 79 ของโลก (ไทย 112) หรือการที่ผู้เล่นหลายคนเล่นอยู่ในลีกใหญ่ของยุโรป
พวกเขาคือทีมที่เป็นส่วนผสมระหว่างตัวเก๋า และแข้งรุ่นใหม่ นำทีมโดยควิชา ควารัตสเคเลีย ปีกของ นาโปลี แชมป์กัลโช เซเรีย อา ของอิตาลี ฤดูกาลล่าสุด ที่มีทั้งความเร็ว ทักษะในการเลี้ยงบอล รวมไปถึงการสอดมาทำประตู ที่ทำให้เขายิงให้จอร์เจียไปแล้ว 10 ประตู 23 นัดในนามทีมชาติ
ขณะเดียวกัน จอร์เจีย ยังมี ซูริโก ดาวิตาชวิลี เพื่อนร่วมรุ่นของ ควิชา ที่เพิ่งย้ายไปเล่นกับ บอร์กโดซ์ ในลีกเดอซ์ ของฝรั่งเศส เมื่อปี 2022 รวมถึง โอตาร์ คิเตชวิลี เพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 ของทีม
นอกจากนี้ ในส่วนของแนวรับ ก็แข็งปึกไม่แพ้กัน ด้วยผู้เล่นมากประสบการณ์ ทั้ง กูราม คาเชียร์ เจ้าของสถิตินักเตะจอร์เจียที่ติดทีมชาติมากที่สุด (106 เกม), ลูกา โลโชชวิลี แนวรับร่างโย่งของ เครมอนเนเซ ในเซเรีย บี รวมไปถึง จอร์จี มามาดาชวิลี ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของบาเลนเซีย ในลาลีกาสเปนฤดูกาลนี้
ยิ่งไปกว่านั้น เฮดโค้ชของพวกเขา น่าจะเป็นคนที่แฟนบอลชาวไทยคุ้นเคย นั่นก็คือ วิลลี ซาญอล อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ของบาเยิร์น มิวนิค ที่เข้ามาทำทีมตั้งแต่ปี 2021
เขามักจะใช้ระบบ 3-4-1-2 เป็นหลัก โดยมี คาเชีย เป็นหัวใจในแนวรับระบบหลัง 3 ส่วนแนวรุก ใช้ คิเตชวิลี เป็นตัวทำเกม และดัน ควิชา ขึ้นไปเล่นเป็นหน้าคู่กับ จอร์เจส มิเคาทัดเซ ดาวยิงของทีม
อย่างไรก็ดี ผลงานของ ซาญอล นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีม ก็ยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ด้วยการคว้าชัยไป 12 นัด แต่ก็แพ้ไปถึง 11 นัด และเสมอไป 4 นัด ยิงได้ 38 เสีย 40 และมีอัตราชนะอยู่ที่ 44.44 เปอร์เซ็นต์ (มาโน่ โพลกิง อัตราชนะอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์)
เช่นกันกับสถิติของทีมชาติจอร์เจียในการพบกับทีมจากเอเชีย ที่คว้าชัยไปได้ 4 นัด แต่ก็แพ้ไปถึง 5 นัด และเสมออีก 1 นัด โดยชาติล่าสุดที่ได้ดวลกับพวกเขาคือ มองโกเลีย ที่บุกมาพ่าย 6-1 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ทีมชาติไทย จะเป็นชาติแรกในประวัติศาสตร์ของอาเซียน ที่ได้ดวลกับพวกเขา ก็ต้องมาดูกันว่า “ช้างศึก” จะทำได้ดีแค่ไหน เพราะ จอร์เจีย เองก็อยากกู้หน้า เรียกความมั่นใจ หลังจากพ่ายมา 3 นัดร่วม รวมถึงการพ่ายต่อสเปน คาบ้าน 1-7 เมื่อช่วงต้นเดือนที่แล้ว
ไทย และ จอร์เจีย จะพบกันที่ มิเคอิล เมชี สเตเดียม สนามความจุ 27,223 ที่นั่ง ในกรุงทบิลิซี เมืองหลวงของจอร์เจีย ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ ร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทยในศึกเยือนยุโรปพร้อมกันได้ที่ Thairath TV ตั้งแต่เวลา 23:00 น. เป็นต้นไป
แหล่งอ้างอิง
https://iset-pi.ge/en/blog/156-will-georgia-ever-get-to-the-world-cup
https://www.occrp.org/en/investigations/6349-match-fixing-plagues-georgian-football