"จอร์เเดน เวย์" หนทางสู่นัดชิง เอเชี่ยน คัพ ที่ทีมชาติไทย "ไม่ห่างอย่างที่คิด"

"จอร์เเดน เวย์" หนทางสู่นัดชิง เอเชี่ยน คัพ ที่ทีมชาติไทย "ไม่ห่างอย่างที่คิด"
ชยันธร ใจมูล

จอร์เเดน ไปถึงรอบชิงด้วย "จอร์เเดน เวย์" นั่นคือสิ่งที่แฟนบอลไทยเราเเซวกัน เพื่อเปรียบเทียบกับวิธีการเล่นของชาติต่าง ๆ ในเอเชีย

แต่เรื่องของ "จอร์เเดน เวย์" ที่ดูเหมือนเป็นคำหยอกนั้น กลับมีความหมายที่ตรงไปตรงมา ผ่านการเล่นตลอด 6 เกมของทีมชาติ จอร์เเดน ในทัวร์นาเม้นต์นี้

และถ้าหาก จอร์เเดน ยังเข้าชิงด้วย "จอร์เเดน เวย์" ได้ .... ประเทศไทยของเราก็มีสิทธิ์ทำได้เหมือนกัน พูดจริง ๆ ไม่ได้แดกดัน ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ลองไปถอดบทเรียนจากจอมเซอร์ไพรส์ประจำ เอเชี่ยน คัพ 2023 อย่าง จอร์เเดน พร้อมกันที่นี่

โค้ชไม่ต้องดัง แค่รู้จักทีมตัวเอง

จอร์เเดน ใช้กุนซือชื่อว่า ฮุสเซ็น อัมมูต้า ที่เป็นอดีตนักเตะทีมชาติโมร็อคโค ตัวของกุนซือพวกเขาไม่ใช่กุนซือดัง หรือเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงมากเลย

แต่สิ่งหนึ่งที่ ฮุสเซ็น ทำได้ดีคือเขาเป็นกุนซือที่รู้จักทีมตัวเองอย่างดีที่สุด รู้ว่าจะต้องพูดอะไร ใช้จิตวิทยาแบบไหนในการกระตุ้นลูกทีมที่แน่นอนว่าในแทบจะทุกเกมของทัวร์นาเมนต์ จอร์แดน คือชาติที่เป็นบอลรองทุกเกม ดังนั้นเรื่องของกา "รู้จักตัวเอง" และ "สร้างพลังใจ" ก่อนลงเเข่งขันถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับพวกเขา

Arabnews ระบุว่า ฮุสเซ็น ไม่ใช่แค่พยายามรู้จักจุดอ่อนและจุดแข็งของนักเตะทุกคนในทีมของเขาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในเเต่ละเกมที่พวกเขาลงเล่นในเอเชี่ยนคัพ เขาศึกษาวีดีโอเทปของคู่แข่งเยอะมาก จนขนาดที่นักเตะในทีมออกมาให้สัมภาษณ์ว่าก่อนเกมกับ เกาหลีใต้ ในรอบรองชนะเลิศ พวกเขาเปิดเทปศึกษาการเจอกันนัดล่าสุดของทั้งสองทีมที่เจอกันในรอบแบ่งกลุ่ม (เสมอกัน 2-2) เพื่อลบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ฮุสเซ็น ก็มาเฉลยเอาหลังเกมว่ามันคือการ "เล่นเกมรับ" ให้ดุกว่านัดแรกที่เจอกัน และปิดการเล่นสวนกลับของ เกาหลีใต้ ให้ได้ เพราะพวกเขาเสียประตูจากลูกลักษณะนี้ในรอบแบ่งกลุ่ม

โดย ฮุสเซ็น เผยหลังเกมว่า "เราเริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง เราใช้จุดอ่อนจากการที่เกาหลีใต้เสียประตูถึง 8 ลูกตลอด 5 เกมนี้ แต่ที่สำคัญคือ เราต้องใช้ความสามารถและฉวยโอกาสในการโจมตีคู่แข่งที่เรารู้ว่าพวกเขามีทักษะที่น่าเกรงขาม"

"เรารู้ว่าคู่แข่งต้องเล่นเกมสวนกลับเรา เพราะฉะนั้นเราต้องมองถึงการเล่นเกมรับที่ดุดัน แต่ว่าเราก็เน้นการเข้าหาคู่แข่งและโจมตีเร็ว ซึ่งทำให้เกมของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เราแสดงทัศนคติความอยากเป็นแชมป์ออกมา เราเล่นด้วยความมุ่งมั่นและยืดหยุ่นในทุกจังหวะของเกม"

"ชัยชนะในวันนี้ มันแตกต่างกันมากจากเกมที่เราเสมอ 2-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม สำคัญที่สุดคงเป็นเรื่องแท็กติกเกมรับ เราเน้นย้ำเสมอกับผู้เล่นถึงความสำคัญในการกดดันแนวรุกของคู่แข่ง ซึ่งพวกเขาก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

เมื่อรู้จักทีมตัวเองดีแล้ว ศึกษาทีมคู่แข่งจนละเอียด และการปลุกใจนักสู้ให้นักเตะทุกคน ต่อให้คุณจะเป็นบอลรอง อาจจะแพ้เรื่องการครอบครองเกมและประสิทธิภาพของนักเตะ แต่คุณสามารถเอาชนะได้ในแง่ของผลลัพธ์ หรือผลการแข่งขัน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วในเกมของฟุตบอล

อย่ากลัวตั้งแต่ยังไมได้ลงเล่น

การใจฝ่อตั้งแต่ก่อนเดินลงสนามเท่ากับแพ้ไปแล้วครึ่งตัว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ จอร์เเดน ในชุดนี้ ทำตรงกันข้ามมาตลอด พวกเขาเป็นบอลรอง แต่พวกเขาลงสนามโดยไม่ได้มองที่จุดแข็งของคู่ต่อสู้ แต่เป็นการมองไปที่จุดอ่อนของคู่ต่อสู้ และพยายามซักซ้อมกลยุทธเพื่อจะเอาชนะจุดอ่อนนั้นให้ได้

เขาให้ส้มภาษณ์หลังเกมเอาชนะ เกาหลีใต้ว่า บทเรียนสำคัญของการศึกษาคู่แข่ง คือเกมที่ เกาหลีใต้ เอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในเกมนั้น ซาอุ ยิงประตูนำไปก่อน 1-0 แต่กลับถอยลงมาตั้งรับในแดน แบบกะจะอุดเอาสกอร์ 1-0 แต่สุดท้าย เกาหลีใต้ ก็ตีเสมอได้ในนาทีบาป ก่อนจะเอาชนะได้ในตอนจบ โค้ชฮุสเซ็น บอกว่า ซาอุดิ อาระเบีย กลัว เกาหลีใต้ เกินไปทั้ง ๆ ที่คุณภาพนักเตะของทีม สามารถหวังถึงการชนะ และเล่นในแบบที่พยายามทำประตูมากกว่านี้ได้

ไม่จำเป็นต้องเคารพ(กลัว)คู่ต่อสู้มากเกินความจำเป็นนี่คือบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้จากซาอุดิอาระเบีย ผมเช็คสถิติ 5 นัดหลังสุดของเกาหลีใต้ พวกเขาเสียไป 8 ลูก ดังนั้นเกมรุกของเรามีโอกาสยิงได้แน่ เมื่อเรานำ ผมย้ำให้ลูกทีมพยายามยิงให้ได้อีก เรารู้ว่าเรามีประสิทธิภาพพอ นักเตะเเนวรุกของเราทำได้ตามแผน และเล่นได้อย่างสุดยอด เราสร้างโอกาสยิงประตูได้ถึง 5 ครั้งในครึ่งแรก ก่อนจะได้ประตูจากการโจมตีครั้งแรก”

จอร์เเดน ชุดนี้มีนักเตะที่ค้าแข้งในยุโรปแค่คนเดียวเท่านั้น คือ มูซา อัล-ทามารี (คนที่ลากเดี่ยวยิงประตูที่ 2) ที่เหลือพวกเขาเป็นนักเตะที่เล่นในประเทศ ค้าแข้งในลีกตะวันออกกลางอย่าง กาตาร์ นอกจากนี้ยังมีนักเตะที่เล่นในลีกมาเเซียอีก 2 คน ... หากเราจะมองจากคุณภาพ พวกเขาไม่ใช่ทีมที่เก่งกาจมากมายนัก อันดับโลกอยู่ที่อันดับ 87 เรียกได้ว่า หากทีมชาติไทยเราหวังจะชนะ จอร์เเดน ก็คงพูดได้เต็มปากว่าไม่ใช่เรื่องที่เกินฝัน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทีมอันดับ 87 ของโลก สามารถได้ผลการแข่งขันที่ต้องการในแบบของฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์ คือสิ่งที่ไมได้เลียนแบบกันง่าย ๆ มันเกิดจากการเตรียมตัวที่ดี การวางแผนแต่ละนัด การกำหนดเป้าหมายแต่ละเกม และการศึกษาคู่แข่งแต่ละทีม ... ถ้าทุกอย่างลงล็อก พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัว โอกาสในการเอาชนะเปิดกว้างเสมอในทัวร์นาเม้นต์แบบนี้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทีมชาติไทย ควรเอาเป็นแบบอย่างอย่างที่สุด เพราะความพร้อมที่เริ่มตั้งแต่สนามซ้อม สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้อย่างแท้จริง

ฟุตบอลคือกีฬาประเภททีม และทุกทีมสามารถสร้างผลการแข่งขันระดับพลิกล็อกช็อคโลกได้เสมอ

แท้จริงแล้ว จอร์เเดน เวย์ เป็นเพียงคำที่เอ่ยขึ้นมาลอย ๆ เท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้ววิธีการของเขาคือ "พื้นฐาน" ของฟุตบอลทุกระดับไม่ว่าคุณจะเล่นแค่ในระดับอาเซียน หรือไปถึงระดับที่ลุ้นเเชมป์โลก นั่นคือการรู้จักตัวเอง การเลือกกลยุทธ์ให้เหมาะสมในแต่ละเกม ความสมัครสมานสามัคคีภายในทีม ใจเท่ากัน ช่วยกันวิ่ง ช่วยกันไล่อย่างมีแบบแผน ... ชาติไหนเล่นได้แบบนี้ ก็สามารถเอาคำว่า "เวย์" ไปต่อท้ายได้ทั้งนั้น

เมื่อเราเป็นบอลรองเราต้องขยันกว่าเขา ... ขยันมากกว่าในทุก ๆ เรื่องตั้งแต่เรื่องนอกสนาม ในสนาม หรือแม้กระทั่งเรื่องสภาวะทางจิตใจที่เข้มเเข็ง พื้นฐานของ "จอร์เเดน เวย์" มีอยู่เท่านี้ ... เรียบง่ายแต่ทำยาก แต่มันคือตัวอย่างของชาติที่เป็นบอลรองอย่างเราได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ