จากไร้ทีมสู่รังกิเลน! สถาพร แดงสี แข้งผู้ใช้พลังรักกลับคืนสู่สนาม

จากไร้ทีมสู่รังกิเลน! สถาพร แดงสี แข้งผู้ใช้พลังรักกลับคืนสู่สนาม
Korkit PS

เกมรีโว่ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด หักด่าน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 พร้อมกับเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศหนแรกในรอบ 7 ปี

หนึ่งในผู้เล่นที่ถูกพูดถึง คือ แบ็กซ้ายจอมเก๋าวัย 36 ที่มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูจนทำให้ทัพกิเลนผยองเอาชนะได้สำเร็จ 

แต่ใครจะรู้ว่า เขาคนนี้กลับมาเล่นไทยลีก อีกครั้ง ทั้งที่เลกแรก เขาไม่ได้ลงเล่นฟุตบอลใดๆ เลยมาตลอด เพื่อลงทุนมาดูแล 'คนรัก' และเป็น 'คนรัก' ที่ทำให้เขาตัดสินใจสวมสตั๊ดกลับมาลงสนามอีกครั้ง

ติดตามสตอรี่ 'ด้วยแรงแห่งรัก' ของ สถาพร ได้ ผ่าน Think Curve - คิดไซด์โค้ง

จอมพเนจร

เจ้าหนุ่ม เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ มาคัดตัวกับ 'อาชาผยอง' มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าจนสามารถก้าวมาเล่นในระดับไทยลีก ทั้ง ตราด เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ หนองบัว พิชญ

ขณะที่เส้นทางทีมชาติไทย เจ้าตัวเพิ่งมาติดทีมชาติในอายุ 33 ปี ในยุคของ อากิระ นิชิโนะ ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก แต่ในช่วงเวลานั้น เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักไม่น้อยกับฟอร์มการเล่น จนมีส่วนให้ทีมชาติไทย ต้องตกรอบคัดเลือก

แต่ไม่ว่าเขาจะเจอเรื่องดี หรือร้าย สิ่งที่เป็นพลังหนุนตัวเขามาโดยตลอด นั่นคือ 'แฟน' ของเขาที่มอบความรัก และความเชื่อมั่นในเส้นทางของตัวเขาเอง

พลังแห่งรัก

สถาพร แต่งงานกับภรรยาในปี 2018 หลังจากที่คบกันและศึกษาดูใจมาหลายปี ซึ่งเจ้าตัวมีพยานรัก เป็นลูกสาว และลูกชายอย่างละคน 

ชีวิตของเจ้าหนุ่ม ดูจะไปได้ดีเพราะเป็นถึงนักฟุตบอลระดับไทยลีก มีเงินเดือนที่พอจะใช้ชีวิตได้ตามอัตภาพ แต่โชคชะตามักเล่นตลกกับผู้คน ซึ่ง หนุ่ม คือคนที่ฟ้าเลือกส่งบททดสอบนั้นมา...

ช่วงกลางปี 2023 หลังเจ้าตัวหมดสัญญากับ หนองบัว พิชญ เขาได้รับการติดต่อจากหลายทีมเพื่อดึงตัวเขาไปเล่นด้วย แต่เขาตัดสินใจ พักการเล่นฟุตบอลเพื่อมาดูแลภรรยาเต็มตัว หลังพบว่าภรรยาของเขามีปัญหาสุขภาพที่อยู่ในภาวะขั้น 'รุนแรง' และอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน

ด้วยดีกรีของเขาที่ผ่านทีมชาติไทยมาแล้ว เขาสามารถเลือกที่จะค้าแข้ง เพื่อนำเงินที่เขาได้มาเป็นค่ารักษาพยาบาล แค่สถาพรไม่ทำเช่นนั้น เขาเลือกเดินเคียงข้างภรรยา ในวันที่เจอกับวิกฤตชีวิตสุดๆ ก้วยการทุ่มเทชีวิตไปกับการดูแลภรรยา รวมไปถึง ลูกทั้งสองอย่างเต็มที่อย่างไม่เสียดาย

กระทั่งช่วงจบเลกแรก จะเข้าสู่เลกที่สอง สุขภาพของภรรยาเขาอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น เธอถาม สถาพรอย่างหนึ่งว่า 'อยากจะกลับมาเล่นบอลไหม?'

สถาพร ตอบว่า อยากแบบไม่ลังเล แต่ในช่วงเวลานั้น มันเป็นช่วงเวลาที่ตลาดซื้อขายไทยลีกใกล้จะปิด ซึ่งเหลือเวลาไม่มาก นั่นทำให้เขาต้องดึ้นรนอย่างหนัก จนได้รับโอกาสกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด

แต่กว่าจะมาเป็นตัวหลักในถิ่นกิเลนผยอง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายยเหมือนกัน กับนักเตะในวัย 30 กว่าๆ และร้างสนามไปกว่า 4 เดือน

ศรัทธา!

ในวันที่เขามาทดสอบฝีเท้ากับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ปัจจัยมากมายของเขา ทำให้สตาฟฟ์โค้ชในเวลานั้นอย่าง มิลอส ย็อกซิช และผู้บริหารทีม ตั้งคำถามว่า 'เขา' ยังไหวอยู่ไหม กับฟุตบอลระดับสูงในไทยลีก เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาไม่ได้ลงเล่นฟุตบอลเลย แม้กระทั่งฟุตบอลเดินสาย!

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในช่วงเลกแรก เมืองทอง เองก็ดูจะมีปัญหากับเรื่องแบ็กซ้าย เพราะตัวที่มี ทั้ง สุวิทย์ ไปพรมราช และ ณัฐวัฒน์ โทบ้านซ้ง กลับไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้ ทำให้ เมืองทอง ต้องตัดสินใจ 'เสี่ยง' เซ็นสัญญาเขา ซึ่งในวันเปิดตัวแฟนบอลก็ตั้งแง่กับเขาไม่น้อยกับการที่ก้าวมาเล่นในถิ่นกิเลนผยอง

แต่ในการฝึกซ้อม สถาพร ลบคำสบประมาท ด้วยการทำให้เห็น ความมีวินัยในสนาม การดูแลตัวเอง ทำให้เขาได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม หนึ่งในนั้นคือ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่เอ่ยปากว่า 'เห็นอายุเฉียดหลักสี่ แต่ความฟิตนี่เรียกเพื่อนได้สบาย' และกลายเป็นตัวเลือกที่กุนซือเมืองทอง ต้องหยิบใช้เขาในสนาม

จึงไม่แปลกใจว่า ในวัย 36 ปี ร้างสนามหลายเดือน เขาลงสนามถึง 14 เกมในเลกที่สอง รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในการพาเมืองทองฯ เข้าชิงชนะเลิศรายการเมเจอร์ในรอบ 7 ปี! ซึ่งมันมาจากวินัยในสนาม และนอกสนาม เพราะเจ้าตัวเป็นคน 'ไม่ดูด ไม่ดื่ม ไม่เที่ยว'

อาจจะบอกได้ว่า คนๆ หนึ่ง เมื่อได้รักอะไรอย่างเต็มที่ คนๆ นั้น ย่อมทุ่มเทความรักเปรียบดัง 'สิ่งบูชา' เฉกเช่นเดียวกับสถาพร แดงศรี ที่รักฟุตบอล พอๆ กับรักภรรยา ชนิดที่ยอมทิ้งเงินก้อนโตเพื่อมาเคียงข้างในวันที่ทุกข์ที่สุด และวันนี้ พลังรักเหล่านั้น ได้ทำให้ตัวเขา กลับมามีชีวิตใหม่ และเป็นขวัญใจ ของแฟนกิเลนผยอง ในที่สุด...

แชร์บทความนี้
ขมิ้นน้อยบนหลังเสือ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ