![](/assets/images/banner-top.png?v=84988eb0ee)
จากสภาถึงสนาม : การเมืองใหญ่ส่งผลต่อวงการฟุตบอลไทยแค่ไหน ?
![จากสภาถึงสนาม : การเมืองใหญ่ส่งผลต่อวงการฟุตบอลไทยแค่ไหน ?](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/344776572_117504738007862_8057388840567318806_n.jpg)
การเมืองคือเรื่องของทุกคน… ไม่ว่าคุณจะไม่เคยติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด และคิดว่ามันไกลตัว แต่สิ่งนี้จะส่งผลต่อทุก ๆ เรื่องที่คุณเกี่ยวข้องเสมอ … ไม่เว้นแม้กระทั่งฟุตบอล
ฟุตบอลเกี่ยวข้องกับการเมืองของประเทศอย่างไร ? Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้พูดคุยกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่กับวงการฟุตบอลไทยมายาวนาน เพื่อหาคำตอบว่า การเมืองสนามใหญ่ กับวงการฟุตบอลไทยนั้น “ใกล้กัน” แค่ไหน
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดที่นี่
การเมืองเกี่ยวกับฟุตบอลไทยหรือไม่ ?
“อย่าเอาการเมืองมายุ่งกับกีฬา” นี่คือสิ่งที่เราได้ยินมาเสมอ แต่จริง ๆ มันทำแบบนั้นได้หรือเปล่า ?
อย่างแรกเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนเกี่ยวกับเรื่องของการเมืองและกีฬา ซึ่ง 2 เรื่องนี้เกี่ยวข้องกันเป็นอย่างยิ่ง และเราเชื่อว่าคุณน่าจะเคยได้ยินคำว่า "การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน" หรือ "การเมืองเกี่ยวข้องกับทุกเรื่อง" ... ซึ่งเราจะอธิบายสั้น ๆ ว่าทำไมมันมันจึงเป็นเรื่องของทุกคน ?
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/ateWP9fKw8Sz04I8JeUs.jpg)
แน่นอนว่า การสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล หรือแม้แต่กรรมการสมาคมฟุตบอล ก็เป็นการแสวงหาอำนาจทางการเมือง เพื่อจะใช้อำนาจหรือมีส่วนร่วมในการใช้อำนาจ จัดสรรสิ่งที่มีคุณค่าให้กับสมาชิกในสังคมทั้งสิ้น
สิ่งที่มีคุณค่านี้ หมายถึงสิ่งที่คนในสังคมต้องการ อาจจะเป็นตำแหน่งหน้าที่การงาน งบประมาณ บริการสาธารณะสุข ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ฯลฯ การจ่ายเบี้ยยังชีพ ให้ผู้สูงอายุ ให้คนพิการ ให้การศึกษาขั้นพื้นฐานฟรี ... ไม่เว้นแม้กระทั่งกับวงการฟุตบอลไทย โดยเฉพาะในระบบลีกนั้น ย่อมต้องการงบประมาณจากภาครัฐสนับสนุนในแง่ของภาพรวมเชิงโครงสร้างทั้งสิ้น
และคนที่จะเข้ามาคอยบริหารงบประมาณจากรัฐก้อนนี้ก็คือ นายกสมาคมฟุตบอล และหากจะถามว่าการเลือกตั้งนายกส.บอล นั้นมีการเมืองสนามใหญ่มาเกี่ยวข้องหรือเปล่า ? คงไม่ผิดนักที่เราจะตอบว่า "มี"
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/357415831_660748592739529_8611579871264051562_n.jpg)
"อย่างแรกเลยคือเราต้องยอมรับว่ามันมีการเกี่ยวข้องกันแน่นอนระหว่างการเมืองกับฟุตบอลไทย" สมฤกษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา หรือ "ปูเป้" ที่คร่ำหวอดในวงการฟุตบอลไทยอย่างยาวนาน และเป็นเจ้าของช่อง "ฟุตบอล 108" ใน Youtube กล่าวในการสัมภาษณ์กับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
สมฤกษ์ พยายามอธิบายความเกี่ยวข้องนี้ว่าการจะได้ใครสักคนมาเป็นนายกสมาคมนั้น ก็มีการเลือกตั้งเช่นกัน และการเลือกตั้งนายก ส.บอล มีวิธีการคือให้สโมสรที่เป็นสมาชิกยกมือโหวตเลือก ซึ่งตัวแทนของสโมสรเหล่านี้คือเจ้าของทีมหรือประธานสโมสร ที่ส่วนใหญ่นั้นล้วนเป็นคนการเมือง หรือเป็นผู้นำ, ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นทั้งสิ้น
"คนทั่วไปที่จะเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลได้นี่มันมีน้อย เพราะอย่างนั้นเนี่ย พอเป็นนักการเมืองที่เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแล้วก็หมายความว่าพวกเขาก็ต้องมีพรรคการเมืองที่สังกัดหนุนหลังโดยธรรมชาติปกติอยู่แล้ว" สมกฤษ์ ว่าต่อ
นอกจากนี้เรายังได้อีกหนึ่งความคิดเห็นจากอีกหนึ่งคนในวงการฟุตบอลไทย อย่าง ธนะ วงศ์มณี บรรณาธิการของ Goal Thailand ก็ให้ความเห็นกับเรื่องนี้ว่าไม่ต่างกันว่าการเมืองและกีฬามีการเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/010.jpg)
"การเมืองกับกีฬาเป็นคนละเรื่องกันก็จริง แต่เกี่ยวกันแน่นอน ความหมายอย่างสั้นที่สุดของการเมืองน่าจะเป็น 'ใครได้อะไร ได้เมื่อไหร่' การอยู่ร่วมกันของคนหลายคน มี 'ผลประโยชน์' ที่ต้องจัดสรรแบ่งปันอยู่แล้ว”
“ยกตัวอย่างใกล้ตัวที่สุดเช่น ลานปูนหลังหมู่บ้าน จะเอาไปทำสนามบอล, สนามบาส, ตะกร้อ, วอลเลย์ หรือสนามแบดฯ ดี ทำหลายอย่างได้ไหม หรือจะจัดเวลา วันไหนใช้เล่นอะไร ฯลฯ นี่ก็คือการเมืองที่เกี่ยวกับกีฬาแล้ว"
คำถามต่อไปคือทำไมนักการเมืองจึงนิยมทำทีมฟุตบอล และแทบไม่มีปุถุชนคนธรรมดาเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลในระบบลีกของประเทศไทยเลย ?
ฟุตบอลคือหัวคะแนนธรรมชาติ
เหตุผลที่นักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลเพราะคือการเข้าถึงประชาชนในแต่ละท้องที่โดยตรง นักการเมืองเริ่มใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือในการรักษาความนิยมส่วนบุคคลเอาไว้ ขณะเดียวกัน “อำนาจรัฐ” ก็มีส่วนเสริมและเอื้อต่อการทำทีมฟุตบอลอย่างมาก ทั้งในส่วนของ “สปอนเซอร์” หรือ “สนามแข่งขัน”
ยกตัวอย่างในจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น ชลบุรี, สุพรรณบุรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุรีรัมย์ ทีมฟุตบอลของจังหวัดนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มการเมืองที่เรียกว่า "บ้านใหญ่" (ตระกูลที่มีอิทธิพลในท้องที่) ทั้งสิ้น
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/223104043127505.jpg)
หากพวกเขาทำทีมฟุตบอลได้ดี มีความสำเร็จ ทำให้ผู้คนในจังหวัดหรือท้องที่นั้น ๆ รู้สึกว่าผู้บริหารทีมมีความใส่ใจ จริงจัง และทุ่มเทเพื่อสโมสร ภาพลักษณ์นี้ก็จะสะท้อนไปยังการเมืองในสนามใหญ่ ในเชิงที่ว่า "ถ้าบริหารทีมฟุตบอลให้เรามีความสุขได้ ทำไมเขาจะบริหารบ้านเมืองให้เรามีความสุขไม่ได้" ... ซึ่งภาพนี้ก็จะชัดมาก ๆ กับเจ้าของทีมที่พาสโมสรประสบความสำเร็จ พวกเขาก็จะได้รับความนิยมในแง่ของตัวบุคคลเพิ่มขึ้นทันที
กลับมาที่การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลกันอีกสักหน่อย ชัดเจนว่าเมื่อมีการเลือกตั้ง และคนยกมือโหวตนายกคือเจ้าของสโมสรที่เป็นนักการเมือง นั่นก็หมายความว่าเหล่าประธานสโมสรก็มีโอกาสจะโหวตแคนดิเดตนายกที่มาจากขั้วการเมืองเดียวกันให้เป็นผู้ได้รับเลือก
เหมือนกับการยกมือโหวตนายกรัฐมนตรีซึ่งเราจะได้เห็นว่า ส.ส. จากพรรคการเมืองเสียงข้างมากก็จะโหวตแคนดิเดตฝั่งนายกของฝั่งตัวเอง เช่นเดียวกันกับฝั่งเสียงข้างน้อยในสภาที่ต้องยกมือสนับสนุนแคนดิเดตของฝั่งตัวเองเช่นกัน ... ส่วนเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงไม่ยอมเลือกคนที่ดูมีคุณสมบัติเหมาะสมในมุมมองของคนส่วนใหญ่ คำตอบแบบเข้าใจง่ายที่สุดคือในเมื่อทุกคนมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในการเลือก พวกเขาก็ย่อมเลือกคนที่พวกเขา "เชื่อว่า" เหมาะสมที่สุด ไม่มีคำว่าผิดหรือถูกไม่ว่าคุณจะยกมือโหวตให้ใครก็ตาม
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/561000011424001.jpg)
ขั้วการเมืองหรือใครเป็นรัฐบาลของประเทศย่อมส่งผลต่อมาถึงการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล โดยการเลือกตั้งหลาย ๆ ครั้งหลังสุดก็แสดงให้เห็นแบบนั้น ยกตัวอย่างเช่นในยุคที่ วรวีร์ มะกูดี ได้เป็นนายกส.บอลไทย และขั้วทางการเมืองจาก พรรคภูมิใจไทย อย่างสมยศ พุ่มพันธ์ม่วง
ในการเลือกตั้งนายกสมาคมครั้งล่าสุดเมื่อปี 2563 มีรายชื่อผู้มีสิทธิ์โหวตทั้งหมดได้แก่ สโมสรไทยลีก 1 จำนวน 16 ทีม, สโมสรไทยลีก 2 จำนวน 18 ทีม, อันดับ 1-7 จากไทยลีก3 โซนเหนือและโซนใต้ รวม 14 ทีม, อันดับ 1-3 จากการแข่งขันไทยลีก4 ทั้ง 6 โซน รวมเป็น 18 ทีม, แชมป์อเมเจอร์ลีก (ไทยลีก5) 1 ทีม, แชมป์กับรองแชมป์ฟุตบอลลีกหญิง 2 ทีม
เอาแค่ 16 ทีมใหญ่ ๆ ที่ชื่อคุ้นหูแฟนบอล ณ เวลานั้นก็มาจากขั้วอำนาจฝั่ง สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง หรือที่เข้าใจง่าย ๆ ว่าเป็นฝั่งรัฐบาลอยู่แทบทั้งสิ้นเช่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด,บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, สมุทรปราการ ซิตี้, ชลบุรี เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล, ตราด เอฟซี, พีที ประจวบ, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, ชัยนาท ฮอร์นบิล และ สุโขทัย เอฟซี
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/4fcffc6c5860cc435321669ae7753ea4_full.jpg)
แม้จะไม่มีการเปิดเผยว่าตัวแทนจากสโมสรที่กล่าวมาโหวตให้ใครแต่การชนะขาดลอยของ สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ถึง 51 ต่อ 17 เสียง (บัตรเสีย 1 ใบ) ก็เป็นการบ่งบอกได้อย่างดีว่าขั้วอำนาจการเมืองสนามใหญ่ของฝั่งไหนแข็งแกร่ง ตัวแทนของพวกเขาก็มีโอกาสที่จะถูกโหวตชนะในการเลือกตั้งนายกส.บอล มากขึ้น
"ในยุคของคุณ วรวีร์ ยุคท้ายๆ น่าจะเป็นสมัยท้ายๆ ต่อเนื่องมาถึงยุคของท่านสมยศ อันนี้ก็จะเป็นการเมืองระหว่าง เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย ในช่วงเวลานั้น" สมกฤษ์ ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพ
"สังเกตุดูครับว่า คะแนนเสียงที่ให้กับคุณ วรวีร์ ในตอนนั้นเนี่ยจะเป็นคะแนนเสียงจากฝั่งเพื่อไทย เพราะนักการเมืองที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ ก็จะเป็นพรรคเพื่อไทยเป็นส่วนใหญ่ พี่ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันโดยบังเอิญหรือเปล่านะ"
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/----------------1.jpg)
"แต่มาอยู่ยุคของท่าน สมยศ คะแนนเสียงก็มาจากพรรคภูมิใจไทย และ พลังประชารัฐ เหมือนกัน ... หรือมันอาจจะเป็นช่วงบังเอิญว่า พรรคภูมิใจไทย และ พลังประชารัฐ บังเอิญได้เป็น สส. ในรัฐบาลช่วงนั้นพอดี ถ้าถามว่ามันเกี่ยวข้องมั้ย พี่ว่ามันเกี่ยวอยู่แล้วล่ะ เพราะว่าใครก็อยากจะตอบสนองผู้มีอำนาจทางการเมืองในยุคนั้นๆ ถูกมั้ย ?" สมกฤษ์ ทิ้งท้ายด้วยคำถามที่ชวนคิดต่อ
เปลี่ยนขั้ว = เปลี่ยนแปลง ?
การเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันจากความเกี่ยวข้องทางการเมืองพบเห็นได้ในทุกวงการ แต่อย่างไรเสียสิ่งที่เกิดขึ้นจากครั้งอดีตก็สามารถเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับปัจจุบันได้เช่นกัน
"การยึดอำนาจของ คสช ในปี 2557 ทำให้ตัว 'ผู้ใหญ่' ในรัฐบาล กลายเป็นคนที่นายกสมาคมฯ ต่อติดได้ง่ายขึ้น กลายเป็นว่าการประสานงาน ประสานประโยชน์ต่าง ๆ คล่องตัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น" ธนะ ตอบทันทีว่าเมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้วทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องก็จะเปลี่ยนแปลงไม่เว้นแม้กรทั่งวงการฟุตบอล
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/aW1hZ2UvMjAyMS0wNS8zMTczNWRhY2FmM2Q5OGI0N2FiZGU3MGNmOTQxMjZkYi5qcGc-.jpg)
ทว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ว่าคุณจะมาจากขั้วอำนาจไหน สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือการมีผลงานที่เด่นชัดทั้งเรื่องของผลการแข่งขัน และ เรื่องการบริหารจัดการ ซึ่งถ้าผลงานดีจับต้องได้ชัดเจน ก็จะทำให้พวกเขาเหล่านั้น "ชนะใจ" ได้จากแฟนบอลของทั้งสองฝั่ง เพราะเรื่องของผลงานคือตัวตัดสินอย่างแท้จริงในยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้กว้างขึ้น ลึกขึ้น และรวดเร็วขึ้น
"วันเวลาของสายลมที่เปลี่ยนผันมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เมื่อก่อนเราอาจคาดเดาได้ว่า ใครจะเข้ามาเป็นนายกสมาคมฟุตบอลคนต่อไป เพราะมันก็จะมีตัวละครเดิมๆ อยู่"
"แต่วันนี้เนี่ยวงการฟุตบอล มันก็เหมือนๆ กับ สังคมและการเมือง ที่จะมีผู้เล่นใหม่ๆ เข้ามา มีคนเก่งๆ รุ่นใหม่อีกเยอะมาก ที่บางทีผู้เลือกหรือโหวตเตอร์ เขาอาจจะไม่ได้คำนึงถึง ระบบของการอุปถัมป์ หรือขอกันแบบในอดีตอีกแล้ว" ปูเป้ ให้ความเห็น
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/566000005922101.jpg)
ด้านตัวเเทนจากฝั่ง Goal Thailand ก็พูดถึงประเด็นนี้เพิ่มเติมว่า การเลือกตั้งครั้งล่าสุดจะเป็นสายลมเเห่งการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน ถึงกับใช้คำว่า "เปลี่ยนระบบนิเวศเปลี่ยนแบบสุดขั้ว" เลยทีเดียว
"การเลือกตั้งใหญ่เกี่ยวข้องกับทุกอย่างในประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีใครในฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่พอใจนโยบายและการจัดการงบประมาณของรัฐบาลเดิม ได้เข้ามาโดยสัญญาว่าจะ 'ไม่เหมือนเดิม' ไม่ใช่ 'ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ'
"เชื่อว่า 'คอนเนคชั่น' จะเป็นตัวแปรสำคัญในการเลือกตั้ง ส.บอล เพราะ 'ใครได้อะไร ได้เมื่อไหร่' เกี่ยวข้องกับคอนเนคชั่นอย่างมาก และระบบนิเวศการเมืองไทยกำลังเปลี่ยนแบบสุดขั้ว เปลี่ยนไปเร็วกว่าที่ทุกคนคาดคิด ฐานการวิเคราะห์แนวโน้มแบบเดิม ๆ ถูกรื้อวันต่อวัน ตรงนี้เลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลกับการเมืองย่อยอย่างเวทีเลือกตั้ง ส.บอล" ธนะ กล่าวทิ้งท้าย
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/07/1kwKq9r0dkruTRtZV92p.jpg)
ที่สุดแล้ว ความเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้ว อาจจะยังมาไม่ถึงจากสิ่งที่เกิดขึ้นล่าสุดในสภา พรรคร่วมรัฐบาล กำลังสั่นคลอน พรรคการเมืองที่ถูกประชาชนเลือกมาเป็นอันดับ 1 กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และมีแววว่าอาจจะมีเปลี่ยนขั้วการเมืองในสภาขึ้นเร็ว ๆ นี้ และนั่นทำให้การเปลี่ยนแปลงที่หลายคนคาดเอาไว้อาจจะยังไม่มาถึงในการเลือกตั้งครั้งนี้
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะการเปลี่ยนแปลงคือวัฎจักรของทุกสิ่ง
แต่จะช้า-เร็ว, มาก-น้อย แค่ไหน เวลาจะช่วยหาคำตอบให้กับเรื่องเหล่านี้ แต่สิ่งที่สามารถยืนยันได้คือการเมืองเกี่ยวข้องกับทุกเรื่อง... ขึ้นอยู่กับว่าการเกี่ยวข้องของมัน นำมาซึ่งผลประโยชน์ในเชิงบวกกับคนส่วนใหญ่หรือไม่... เท่านั้นเอง
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก
คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ
เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?
MOST POPULAR
![ส.บอล เผยหลักเกณฑ์พิจารณาเลือก สงขลา จัดคิงส์คัพ ครั้งที่ 50](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/5555.jpg)
ส.บอล เผยหลักเกณฑ์พิจารณาเลือก สงขลา จัดคิงส์คัพ ครั้งที่ 50
![ชลบุรี ตั้ง ชาญณรงค์ กัปตันคนใหม่ ดัน ลูกชายโค้ชโม้ ขึ้นทีมชุดใหญ่](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/3.jpg)
ชลบุรี ตั้ง ชาญณรงค์ กัปตันคนใหม่ ดัน ลูกชายโค้ชโม้ ขึ้นทีมชุดใหญ่
![ครั้งหนึ่งที่ ‘อาแจ็กซ์’ ยอดทีมลีกดัตช์ ยังคุม ‘ซิฟโควิช’ กองหน้าป้ายแดง แบงค็อก ไม่อยู่!](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/450678666_1164495511433052_7793432500838497271_n.png)
ครั้งหนึ่งที่ ‘อาแจ็กซ์’ ยอดทีมลีกดัตช์ ยังคุม ‘ซิฟโควิช’ กองหน้าป้ายแดง แบงค็อก ไม่อยู่!
![สเปอร์ส ปิดดีลคว้า ยาง มิน-ฮยอก เด็กเทพเคลีกวัย 18 ปี](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/632.jpg)
สเปอร์ส ปิดดีลคว้า ยาง มิน-ฮยอก เด็กเทพเคลีกวัย 18 ปี
![ผู้บริหารดอร์ทมุนด์ จำทริปไทยไม่ลืม ซ้อนพี่วินไปสนามแข่งบีจี](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/33-3.jpg)
ผู้บริหารดอร์ทมุนด์ จำทริปไทยไม่ลืม ซ้อนพี่วินไปสนามแข่งบีจี
!['มาร์เซโล่ ยาโล่' อดีตเด็กปั้น เรอัล มาดริด สู่กำแพงแนวรับ ปราสาทสายฟ้า](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/450945051_404639868735709_2851106175122578273_n.png)