‘จีน’ ยุค แยนโควิช แกร่งแค่ไหน มีอะไรที่ทีมชาติไทยต้องระวัง?
ทีมชาติไทย เตรียมจะประเดิมสนามในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ด้วยการเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมชาติจีน ในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ แม้ว่าช่วงหลัง พญามังกร จะมีผลงานที่ตกลง ไม่คึกคักเหมือนเมื่อหลายปีก่อน แต่ในระดับเอเชีย พวกเขาก็ยังเป็นทีมที่น่ากลัว และประมาทไม่ได้
Think Curve - คิดไซด์โค้ง จึงขออาสาพาไปดูว่าตอนนี้พวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน และมีอะไรที่ “ช้างศึก” ต้องระวัง
ติดตามได้ที่นี่
ยังแกร่งอยู่มั้ย?
อันที่จริงทีมชาติจีน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาเริ่มขยับขึ้นมาเป็นแถวหน้าของเอเชีย ภายใต้การผลักดันผ่านนโยบายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ทำให้พญามังกรขยับจากอันดับ 97 ของโลก เมื่อปี 2014 มาอยู่อันดับ 71 เมื่อปี 2017
นอกจากนี้ ในยุคหนึ่ง ไชนีส ซูเปอร์ลีก ของพวกเขา ยังเป็นแหล่งรวมสตาร์จากยุโรปและละตินอเมริกา ที่พาเหรดกันมาโกยเงินหยวน รวมถึงเป็นทางลัดที่ทำให้พวกเขาได้นักเตะต่างชาติฝีเท้าดีมาเล่นในทีมชาติ
ไม่ว่าจะเป็น เอลเคสัน หรือ อ้าย เค่อเซิน และ อลัน คาร์วัลโญ หรือ อ้า หลาน สองแข้งชาวบราซิล, นิโก้ เยนนาริส หรือ ลี่ เค่อ อดีตเด็กปั้นอาร์เซนอล ที่มีเชื้อสายจีนผ่านแม่ รวมไปถึง ไทอัส บราวนิ่ง (เจียง ก่วงไท่) อดีตแนวรับเอฟเวอร์ตัน
อย่างไรก็ดี วิมานของพวกเขา ก็ต้องพังทลาย เมื่อจีนไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เลย แม้ว่า 2 ครั้งหลังสุด (2018, 2022) จะมีลุ้น หลังทะลุเข้าถึงรอบ 12 ทีมสุดท้ายก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น การระบาดของโควิด 19 ในปี 2020 ยังซ้ำเติมวงการฟุตบอลแดนมังกรให้ย่ำแย่ลงไปอีก หลายทีมต้องประสบปัญหาทางการเงิน หลังนายทุนถอนการลงทุน รวมถึงทำให้บางทีมต้องยุบทีมไป
หลังจากนั้น ทีมชาติจีน ก็มีสถานะไม่ต่างจากมังกรป่วย พวกเขามีผลงานที่กระท่อนกระแท่น ทั้งการคว้าชัยได้เพียงแค่เกมเดียว ตลอดปี 2022 แถมยังเป็นการเฉือนเอาชนะทีมรองบ่อนอย่าง ฮ่องกง ไปด้วยสกอร์ 1-0
ขณะที่ปี 2023 แม้จะเอาคู่แข่งได้มากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นการคว้าชัยเหนือทีมที่มีอันดับโลกที่ต่ำกว่า ไม่ว่าจะเป็น เมียนมาร์, ปาเลสไตน์ หรือเวียดนาม ก็ตาม
“เรารู้ดีว่าเราไม่ได้เป็นตัวเต็งของเอเชีย เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งที่ลดลง” อู่ เล่ย ดาวยิงทีมชาติจีนกล่าวกับ Xinhua
“แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความมั่นใจของเราจะลดลง เราจะพยายามอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเจอกับใครหน้าไหนก็ตาม”
อย่างไรก็ดี ก็ยังประมาทพวกเขาไม่ได้
อะไรที่ควรระวัง ?
แม้ว่า จีน จะมีผลงานที่ดร็อปลงอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่มังกรก็ยังเป็นมังกรอยู่วันยังค่ำ พวกเขาถูกยกให้เห็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ร่วมกับ เกาหลีใต้ มหาอำนาจฟุตบอลเอเชีย
ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซานดาร์ แยนโควิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ที่ผ่านงานคุมทีมชาติจีนมาตั้งแต่ชุดเยาวชน ขุนพลมังกรชุดนี้ คือส่วนผสมระหว่างผู้เล่นตัวเก๋าและนักเตะดาวรุ่งจากชุดผ่านถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในเอเชียนเกมส์ 2022 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ
แน่นอนว่าสตาร์ของทีมชุดนี้ยังนำโดย อู่ เล่ย กองหน้าของ เซี่ยงไฮ้ พอร์ท แข้งวัย 31 ปี คือดาวยิงสูงสุดของทีมชาติจีนชุดนี้ เขาโดดเด่นทั้งเรื่องการเลี้ยงบอล และการจบสกอร์ แถมยังมีประสบการณ์การค้าแข้งลีกสเปนกับ เอสปันญอล ถึง 4 ปีเต็ม จึงทำให้แนวรับไทยห้ามปล่อยเขาให้คลาดสายตาโดยเด็ดขาด
ขณะที่ฝั่งแนวรับ นอกจากจะมี จ้าง หลิน เผิง เจ้าของฉายา เซอร์คิโอ รามอส แห่งเมืองจีนแล้ว พวกเขายังมีแข้งสายเลือดใหม่อย่าง อู๋ เช่า ฉง ที่ค้าแข้งอยู่กับ เกนเคลบีร์ลิกี้ ในลีกตุรกี อดีตแข้งกวางโจว มีจุดเด่นอยู่ที่รูปร่างที่สูงถึง 192 เซนติเมตร ทำให้ลูกกลางอากาศ น่าจะกินพวกเขายาก
อย่างไรก็ดี ทีมชาติไทยก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อเหล่าแข้งแซมบ้าโอนสัญชาติ ทั้ง เอลเคสัน, อลัน และเฟอร์นันดินโญ ไม่ได้ถูกเรียกติดทีมชุดนี้ เช่นกันกับ ไทอัส บราวนิ่ง กองหลังตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บ จนต้องถอนตัวออกไป
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังประมาทไม่ได้ เมื่อทีมชาติจีนในยุคของ แยนโควิช เป็นทีมที่ค่อนข้างโดดเด่นในเกมรุก ที่มักใช้แผนการเล่นแบบ 3-4-3 โดยมี อู่ เล่ย เป็นตัวความหวังในแดนหน้า
นอกจากนี้ พวกเขายังหวังจะใช้เกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฟุตบอลจีน และน่าทำให้เกมกับ ไทย มีความเข้มข้นเป็นพิเศษ
“อย่างแรก คุณต้องเข้าใจในความต้องการของการแข่งขัน คุณจึงจะสำรวจคู่แข่งทุกทีมที่ทีมของคุณจะเจอ” แยนโควิช กล่าวกับ Xinhua
“เพื่อให้เห็นว่าความเข้มข้นอยู่ในระดับไหน หากเราต้องการผลงานแข่งขันที่ดี”
“ถ้าเราตั้งเป้าว่าจะผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก นั่นจะเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนที่เราตั้งไว้ตั้งแต่เริ่มต้น”
“เราต้องรู้ให้แน่ชัดว่าผู้เล่นแบบไหนที่เข้ากับความเข้มข้นในระดับนี้ ซึ่งไม่ใช่แค่เกมเดียว หรือ 90 นาที ที่มันสำคัญมากอยู่แล้ว แต่เป็นการทำซ้ำ ๆ ในระดับความเข้มข้นเดิมอีกหลายเกม หลังจากผ่านไป 3 วัน”
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ จีน อยากจะใช้ทัวร์นาเมนต์นี้ เป็นตัวเรียกศรัทธาแฟนบอล หลังทีมชาติของพวกเขามีผลงานที่ไม่น่าจดจำ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
“สำหรับสถานการณ์ของฟุตบอลจีนในตอนนี้ เราจะเป็นต้องทำผลงานให้ดีในรอบคัดเลือก เพื่อนำความมั่นใจกลับมาสู่วงการฟุตบอลจีนอีกครั้ง” อู่ เล่ย กล่าว
ทั้งนี้ สถิติการเจอกันทั้ง 11 ครั้ง ระหว่างไทยกับจีน ขุนพลจากแดนมังกร เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า หลังด้วยการคว้าชัยไปถึง 7 เกม เสมออีก 1 ยิงไปถึง 25 ประตู และเสีย 14 ประตู ส่วนไทย เอาชนะจีนได้เพียง 3 เกม โดยนัดล่าสุดคือเกมบุกเฉือน 1-0 ในศึกไชนาคัพ เมื่อปี 2019
ก็ต้องมารอลุ้นว่าเกมการแข่งขัน จะออกมาในรูปแบบไหน จีนจะเรียกความมั่นใจ หรือไทย จะเป็นฝ่ายย้ำแค้นได้อีกครั้ง
ร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้ทัพช้างศึกในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ผ่านหน้าจอทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 หรือผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่นี่ ตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไป
แหล่งอ้างอิง
http://www.china.org.cn/sports/2023-11/12/content_116810198.htm
https://english.news.cn/20231113/b71be07bdd554756869d06f5ccc587f0/c.html