จุดติดเร็วจัด : วิเคราะห์ผลงาน บุรีรัมย์ หลังนายใหญ่คนใหม่ ‘ปาปาส’ พาทีมคว้าชัยสองเกมติด

โปรแกรมไทยลีกนัดที่สามของแชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นเกมหนักไม่น้อยที่ต้องออกไปเยือนทีมเล็กแต่ใจสู้อย่าง สุโขทัย เอฟซี ที่สนามทุ่งทะเลหลวง ช่วงเย็นที่ผ่านมา หากมองกันเรื่องของศักยภาพนักเตะสองทีมนั้นห่างชั้นกันแบบเทียบไม่ได้ แต่พอเสียงนกหวีดของกรรมการเป่าเริ่มเกมจริง กลายเป็นว่าเจ้าบ้านนั้นใช้ใจล้วนๆ แลกหมัดได้อย่างไม่มีกลัว

รูปเกมของทั้งสองทีมถือว่าเป็นการแลกอาวุธกันแบบหมัดต่อหมัด ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสปล่อยหมัดน็อคใส่คู่ต่อสู้แบบนาทีต่อนาที แต่สุดท้ายแล้วกีฬา ‘ฟุตบอล’ ไม่มีคะแนนให้กับผู้แพ้ วัดกันที่ผลสกอร์หลังจบ 90 นาทีเพียงอย่างเดียว แล้วก็เป็นฝ่าย ปราสาทสายฟ้า ที่มีความเฉียบขาดมากกว่า

ชัยชนะของทีมเยือนด้วยสกอร์ 1-0 เป็นผลการแข่งขันที่แสดงให้เห็นถึงความคู่คี่สูสีของเกมนี้ ที่มีรายละเอียดสำคัญๆ เกิดขึ้นในเกมเยอะมาก แล้วอาจส่งผลในระยะยาวต่ออนาคตของทีม บุรีรัมย์ ด้วยเช่นกัน ต่อให้ อาเธอร์ ปาปาส จะคุมทีมอย่างเป็นทางการสองเกมแรก แล้วสามารถคว้าชัยชนะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากนี้งานของเขาย่อมไม่ง่ายแน่นอน เพราะอุปสรรคเริ่มพุ่งเข้ามาเป็นบททดสอบเรื่อยๆ

ปาปาส ใช้วิธีใดในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น จนสามารถพาทีมบุกเก็บสามแต้มไปได้แบบหืดจับ? สิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกทีมของเขาแตกด่างจากยุคของ มาซาทาดะ อิชิอิ คืออะไร? ปัญหาที่น่ากังวลต่อไปจะเป็นอย่างไรบ้าง? ร่วมวิเคราะห์หาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

เชื่อมั่นในแนวทาง

แน่นอนว่าผลงานของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในยุคของ อิชิอิ นั้นแข็งแกร่ง แต่แนวทางการเล่นอาจไม่สวยงาม เน้นฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แล้วลงโทษด้วยความเฉียบคม ซึ่งในซีซั่นก่อนแนวรุกของพวกเขาพากันฟอร์มเดือด ไม่ว่าจะเป็น ศุภชัย ใจเด็ด, โจนาธาน โบลิงกิ หรือ ลอนซาน่า ดุมบูย่า แถมทั้งสามรายต่างเล่นเกมรับในแดนบนได้ดีด้วยเช่นกัน

พอทางบอร์ดบริหารตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเฮดโค้ชมาเป็น ปาปาส แนวทางการเล่นของทีมก็แตกต่างออกไป แล้วแฟนบอลสั่งเกตุได้ตั้งแต่ นัดที่บุกไปเสมอกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด แบบน่าชนะด้วยสกอร์ 0-0 (ยังไม่คุมทีมอย่างเป็นทางการ แต่เริ่มสั่งการข้างสนามแล้ว)

ซึ่งเกมบุกของทีมนั้นมีการเข้าทำที่หลากหลาย ใช้งานผู้เล่นตัวหลักในบทบาทที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้เกมไหลลื่นมากขึ้น น่าเสียดายที่ขาดเพียงแค่โชคและความเฉียบคม โดยทาง ปาปาส ก็มองเห็นถึงจุดอ่อนนั้นชัดเจนพร้อมให่้สัมภาษณ์หลังเกมว่า

“เกมวันนี้ต้องยอมรับว่าเราไม่ค่อยพอใจกับผลการแข่งขัน เกมวันนี้เราเล่นค่อนข้างยาก เรามีโอกาสที่จะทำประตูหลายครั้ง แต่จังหวะในพื้นที่สุดท้ายเราไม่สามารถปิดเกมได้ โดยเฉพาะช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม”

ถัดมาในเกมที่เปิดบ้านถล่ม ลำพูน วอริเออร์ ขาดลอย 3-0 แนวทางการเล่นของ ปราสาทสายฟ้า ภายใต้การทำทีมของ ปาปาส ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ยังคงเดินหน้าฆ่าไม่เลี้ยง บุกใส่จนกว่าคู่แข่งจะยวบเช่นเดิม แล้วปัญหาจากเกมก่อนก็ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องของการจบสกอร์ที่มีความเฉียบคมมากขึ้น

แล้วในเกมล่าสุด บุรีรัมย์ ที่ต้องออกไปเยือน ค้างคาวไฟ ต้องเผชิญกับงานหนักตั้งแต่ต้นเกม เพราะเจ้าถิ่นนั้นมาเล่นในเกมหนัก เข้าถึงตัวไว บวกเป็นบวกแลกเป็นแลก ซึ่งมีหัวหอกทะลวงฟันเป็น จอห์น บาจโจ้ ที่ตัวเดียวป่วนแนวรับแชมป์เก่าจนเสียกระบวนไปเป็นแถบๆ

ยิ่งไปกว่านั้นพอเกมผ่านไปได้ไม่นาน ปาปาส ต้องเสียลูกทีมอย่าง นิโคเลา คาร์โดโซ่ ปีกฝีเท้าจัดที่ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปเพราะอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขากระตุก แล้วต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการดันเอา สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ไปยืนเป็นปีกขวาแทน พร้อมขยับ ดิออน คูลส์ มายืนแบ็คขวาจำเป็น

กลายเป็นว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของ ปาปาส นั้นได้ผล เพราะทาง คูลส์ สามารถจัดการกับความเร็วของ บาจโจ้ ได้แทบจะอยู่หมัด แล้วเมื่อมีทาง พรรษา เหมวิบูลย์ ลงมายืนแพ็คเกมรับเพิ่มอีกตัว ส่งผลให้แนวรับของทีมแน่นไปกันใหญ่ จนยื้อรักษาสกอร์รอโอกาสทำประตูเหมาะๆ ได้สำเร็จในครึ่งหลัง

ดาวซัลโวนับหนึ่งแล้ว

ย้อนไปในเกมเกมกับ ลำพูน แม้ว่าผลการแข่งขันสกอร์จะออกมาขาดลอย แต่แฟนบอล GU12 นั้นไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่กับรูปแบบการเล่นในครึ่งหลัง ที่ลูกทีมของ ปาปาส ผ่อนเครื่องเกมบุกลง เน้นไปที่การครองเกม ไม่ค่อยมีจังหวะเข้าทำแบบได้ลุ้นเพื่อเอนเตอร์เทนแฟนบอลมากนัก

สถานการณ์ในเกมกับ สุโขทัย นั้นต่างกัน เมื่อครึ่งแรกยังสู้กันได้อย่างสูสี สกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0 ดังนั้นโอกาสที่ บุรีรัมย์ จะเล่นแบบไม่เร่งเครื่องนั้นเป็นไปไม่ได้เลย แถมเมื่อเวลาลดน้อยถอยลง ความกดดันย่อมไปตกอยู่กับทีมใหญ่อย่างพวกเขามากกว่า

อย่างไรก็ตาม ปาปาส นั้นให้สัมภาษณ์หลังจบเกมกับ ลำพูน เอาไว้ว่า “ผมย้ำกับลูกทีมว่าเราต้องเล่นให้ได้ตลอด 90 นาที ไม่ใช่เล่นแค่ 45 นาทีแรก”

ไฮไลท์ลูกยิงของ ศุภชัย ที่เป็นประตูแรกในฤดูกาลนี้ของเขา

หมายความว่า ปาปาส นั้นวิเคราะห์สิ่งที่เป็นจุดบอดของทีมตลอด แล้วพร้อมที่จะแก้ไขมันในเกมการแข่งขันนัดต่อๆ ไป เพื่อให้ลูกทีมของเขาคว้าผลการแข่งขันได้ตามที่ต้องการ ซึ่งแฟนบอลคงได้เห็นไปแล้วในเกมกับ สุโขทัย ที่โอกาสการยิงเน้นๆ ของ ศุภชัย ใจเด็ด ดาวซัลโว ไทยลีก ของทีมจากฤดูกาลก่อน หลุดเข้าไปยืงเป็นประตูชัย 1-0 พาทีมคว้าสามแต้มกลับรังไปได้ในบั้นปลาย

ปัญหาฟอร์มฝืดของ อาร์ม ย่อมอยู่ในสายตาของ ปาปาส เช่นกัน แล้วในเมื่อแก้ไขด้วยการนับหนึ่งไปได้แล้ว หลังจากนี้เชื่อว่าดาวยิงทีมชาติไทยจะมีความมั่นใจในการเล่นมากขึ้น และน่าจะยิงได้อีกหลายประตูต่อนับจากนี้

เกมรับที่เคยหลุดสมาธิ ปาปาส ก็ปรับเปลี่ยนจนไม่เสียประตูติดต่อกันมาแล้วสามเกม คงสถิติยังไม่แพ้ใครเลยแม้แต่นัดเดียว แวบขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราวอยู่ แต่ปัญหาที่ต้องกังวลแล้วเป็นบททดสอบต่อไปของ ปาปาส คือ อาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลัก ซึ่งเพิ่ม นิโคเลา คาร์โดโซ่ ไปอีกหนึ่งราย

สิ่งที่น่าห่วงหลังจากนี้เป็นโปรแกรมในถ้วยชิงแชมป์เอเชีย ที่กำลังจะใกล้ถึงเวลาระเบิดความมันขึ้นทุกขณะ ซึ่งถ้าทีมต้องแข่งขันในสภาพที่ใช้งานผู้เล่นได้ไม่เต็มศักยภาพ ย่อมน่าเป็นห่วงเรื่องผลการแข่งขันแน่นอน เนื่องจากการแข่งระดับทวีป คู่แข่งทีมอื่นๆ ไม่ได้เป็นรองเรื่องตัวผู้เล่นเมื่อเทียบกับพวกเขาเหมือนบอลลีกในประเทศ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การชมเกมถ่ายทอดสด

https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/thaipremierleague/2718762

https://www.buriramunited.com/main_news/detail/1335

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ประทุม ชูทอง : นักสู้มืออาชีพแห่งโลกบอลเดินสาย
เปิดใจ ‘เบ็ค-สมเกียรติ คุณมี’ : ทำไมตัวท็อป ‘ฟ็อกซ์ฮันท์’ ถึงเลือกเส้นทางบอลเดินสาย ?
‘ผักบุ้ง PBDS’ : หญิงแกร่งแห่งวงการฟุตบอลเดินสาย
‘ใหญ่ นิลวงษ์ ’: โค้ชจอมเลื่อนชั้นแห่ง T3 ที่คุมทีมเดินสายที่ชนะ 100%
สโมสร ‘แตงโม’ : ตำนานแชมป์เงินล้านบอลเดินสายสองปีติดทีมเดียวในประเทศไทย
ศราวุฒิ มาสุข : กับชีวิตใหม่ในเส้นทางฟุตบอลเดินสาย

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด