ซ้อมแล้วก็ไม่ช่วย : เหตุใด ฟุตบอลโลก 2022 จึงพลาดจุดโทษกันเพียบ ?

ผ่านมาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายแล้วสำหรับฟุตบอลโลก 2022 แม้ว่า เจ้าภาพกาตาร์ จะถูกค่อนขอดเอาไว้เยอะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือฟุตบอลโลกที่สนุกที่สุดครั้งหนึ่ง หากมองในแง่การแข่งขันในสนาม นอกจากจะมีการล้มยักษ์เกิดขึ้นเป็นว่าเล่น ทุกกลุ่มยังต้องมาลุ้นเข้ารอบจนถึงเกมสุดท้าย ถึงขนาด จานนี่ อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า เอ่ยปากชมว่า นี่คือรอบแบ่งกลุ่มที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์

การแข่งขันในรอบ 16 ทีม ก็ถูกพูดถึงไม่แพ้ โดยเฉพาะคู่ของ โครเอเชีย พบ ญี่ปุ่น และ โมร็อคโค พบ สเปน ที่ต้องตัดสินผู้ชนะถึงฎีกา ซึ่งแฟนบอลต่างคาดหวังการดวลจุดโทษที่สูสี แต่กลับกลายเป็นว่าได้ผู้ชนะแบบง่ายดาย เพราะมีนักเตะยิงพลาดรวมกันถึง 8 คน

ล่าสุดในรอบ 8 ทีมก็เป็นคิวของมือยิงตัวท็อปอย่าง แฮร์รี่ เคน ที่ยิงพลาดหลุดไปไกลอีกต่างหาก...

การพลาดจุดโทษจึงกลายเป็นหัวข้อที่ถูกนำมาวิเคราะห์ เพราะหากย้อนกลับไปในรอบแรกจะเห็นว่า ฟุตบอลโลก 2022 มีอัตราการพลาดจุดโทษสูงมาก เมื่อเทียบกับครั้งที่ผ่าน ๆ มา ขนาดเพชฌฆาตระดับโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยังยิงไม่เข้า

ฟุตบอลโลก 2022 มีการยิงจุดโทษเกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ 34 ลูก ปรากฎว่า มีการยิงพลาดไปถึง 14 ลูก หรือคิดเป็น 41.18% ขณะที่ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ยิงพลาดกันแค่ 29% ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า มันเกิดอะไรขึ้นแน่ จนนำมาซึ่งการวิเคราะห์ถึงสาเหตุ ดังนี้

[การซ้อมไม่ได้การันตีความสำเร็จเสมอไป]

การซ้อมยิงจุดโทษเป็นเรื่องดี มันช่วยสร้างความคุ้นเคยให้กับนักเตะ แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าคุณจะยิงเข้าเสมอไป เพราะคุณต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาลเมื่อถึงเวลาจริง ซึ่งคุณไม่มีทางได้สัมผัสสิ่งนี้ในสนามซ้อม

หลุยส์ เอ็นริเก้ นายใหญ่ทีมชาติสเปน กล่าวก่อนเกมกับ โมร็อคโค ว่า เขาให้การบ้านนักเตะไปซ้อมยิงจุดโทษ 1,000 ลูก ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นลูกทีมของเขาจะพร้อม ถ้าต้องยิงจุดโทษตัดสินผู้ชนะ

"1 ปีที่ผ่านมา ผมให้การบ้านนักเตะ ต้องซ้อมยิงจุดโทษอย่างน้อย 1,000 ลูก ผมมั่นใจว่าพวกเขาทำการบ้านนี้จนครบ การยิงจุดโทษไม่ใช่การลุ้นหวย ผลลัพธ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคเท่านั้น”

แต่พอถึงเวลาจริง ปาโบล ซาราเบีย, การ์ลอส โซแลร์ หรือแม้แข้งจอมเก๋าที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชนอย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ กลับยิงพลาดทั้งหมด ซึ่งมันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การที่คุณซ้อมยิงจุดโทษเยอะ ไม่ได้หมายความว่าผลลัพธ์จะออกมาดี

[ผู้รักษาประตูทำการบ้านมาดี]

สถิติการเซฟจุดโทษของฟุตบอลโลกปี 1966-2018 อยู่ที่ 17% แต่พอมาถึงฟุตบอลโลก 2022 สถิติกลับเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าเป็น 35% บ่งบอกชัดเจนว่า ผู้รักษาประตูเก่งขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการทำการบ้านนอกสนาม ทั้งการศึกษาการยิงของคู่แข่งและพัฒนาการป้องกันของตัวเอง

เหมือนอย่างที่ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ตำนานมือกาวทีมชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า “ผมคิดว่าผู้รักษาประตูเก่งขึ้น มีงานวิจัยเกี่ยวกับการยิงจุดโทษเยอะมาก พวกเขาใช้เวลาศึกษาเยอะเพื่อหาค่าความต่างในการยิงและนำมาใช้”

“การวิเคราะห์พัฒนาขึ้นไปในอีกระดับ ถ้าผู้รักษาประตูทำทุกอย่างถูกต้อง ทำตามงานวิจัย และพยายามแทรกซึมเข้าไปในหัวของคนยิง โดยที่ไม่เคลื่อนไหวไปก่อน พวกเขาก็มีโอกาสเซฟจุดโทษได้”

[ยิงไร้น้ำหนัก]

สถิติบ่งชี้ว่า การพลาดจุดโทษ 13 ลูก ในฟุตบอลโลกหนนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นการยิงลูกเรียดที่ไร้ซึ่งน้ำหนัก อาจเป็นเพราะนักเตะขาดความมั่นใจจนไม่กล้าใส่แรงอย่างที่ควรจะเป็น ผู้รักษาประตูจึงมีโอกาสเซฟได้เยอะถ้าพุ่งถูกทาง

คริส ซัตตัน อดีตดาวยิงแบล็คเบิร์นชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก พูดถึงประเด็นนี้ว่า “คุณอาจต้องกลับไปยิงด้วยความแรงเหมือนสมัยก่อน ถ้าคุณเกิดไม่แน่ใจ ก็แค่เหวี่ยงเท้าใส่ลูกบอลไป”

ขณะที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ กล่าวเสริมว่า “ผมคิดว่านักเตะยุคนี้เลือกใช้วิธียิงแบบธรรมดา (ยิงไม่แรง) มันแปลกนะที่คุณไม่สามารถยิงบอลด้วยความแรงได้ ผมเคยดู อลัน เชียเรอร์ ยิงจุดโทษ ผมเห็นความมั่นใจ เขาวิ่งเข้าไป ก้มหน้า และซัดบอลเต็มแรง”

[รีบร้อนเกินไป]

ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม สุภาษิตนี้ยังใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่เว้นแม้แต่การยิงจุดโทษ ยิ่งคุณใจเย็นและตั้งสมาธิไปที่ลูกบอลมากเท่าไร โอกาสที่จะส่งลูกบอลไปกองในก้นตาขายก็ยิ่งมีมากขึ้น เหมือนกับงานวิจัยของ แกร์ จอร์เด็ต นักวิทยาศาสตร์การกีฬาชื่อดัง

“ช่วงเวลาตัดสินจะเกิดขึ้นราว 10-15 วินาที ก่อนที่ก้าวเข้าไปยิงจุดโทษ อย่าปล่อยให้ผู้รักษาประตูรบกวนสมาธิของคุณ จงตั้งสมาธิไปที่การหายใจ และใช้เวลาให้มาก มันไม่ใช่การวิ่งแข่ง เสียงนกหวีดของผู้ตัดสินไม่ใช่เสียงปืนปล่อยตัวนักวิ่ง” จอร์เด็ต กล่าว

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงการวิเคราะห์เบื้องต้น ซึ่งสุดท้ายแล้วตัวคนยิงน่าจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่า พวกเขายิงจุดโทษไม่เข้าเพราะอะไรกันแน่ มันอาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มองไม่เห็นเข้ามาเกี่ยวข้องก็ได้ เพราะการยิงจุดโทษคือการที่คุณต้องต่อสู้กับความกดดัน ทั้งจากตัวเองและสภาพแวดล้อมรอบข้าง

[กดดันเกินไป]

จุดโทษของ แฮร์รี่ เคน ลูกที่ 2 ที่เขาซัดเหินคานแบบไม่ได้ลุ้น เรียกได้ว่าไม่ตรงกับทุกข้อที่กล่าวมาในข้างต้น เพราะเคนนั้นเลือกยิงแรง และใช้เวลากับลูกฟุตบอลนานมาก

อย่างไรก็ตามการแบกความหวังของคนทั้งประเทศ กับลูกยิงจุดโทษในช่วงเวลาที่บีบหัวใจสุด ๆ แถมยังมีเงื่อนไขว่าถ้าไม่เข้า โอกาสตกรอบสูงมาก ยิ่งเป็นสิ่งเร้าที่ทำให้แม้แต่มือยิงตัวท็อปอย่างเคนก็ไม่สามารถควบคุมความนิ่งเหมือนที่เคยทำได้

ยิ่งรอบลึก ความเข้มข้นและกดดันก็จะยิ่งมากขึ้น ... การพลาดจุดโทษของ แฮร์รี่ เคน อาจจะไม่ใช่การพลาดครั้งสุดท้ายในทัวร์นาเม้นต์นี้ก็เป็นได้

แหล่งอ้างอิง : https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-11513799/Pathetic-penalties-Practice-doesnt-make-perfect-goalkeepers-homework.html

https://sport.optus.com.au/articles/os50922/worldcup2022-penalty-shootout-why-are-so-many-penalties-being-missed

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด