ชิน แท-ยง : ชายผู้สร้างประวัติศาตร์ให้กับวงการฟุตบอลอินโดนีเซีย
หลังสิ้นสุดเสียงนกหวีดการแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U-23 เกมที่ทีมชาติอินโดนีเซีย สามารถเอาชนะ ทีมชาติจอร์แดน ไปด้วยสกอร์ 4-1 ส่งผลให้พวกเขาเป็นรองแชมป์กลุ่ม D ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์เป็นที่เรียบร้อย
ด้วยผลงานนี้ถือเป็นครั้งแรกของทีมชาติอินโดนีเซียที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แน่นอนว่ากุนซือผู้อยู่เบื้องหลีงคงหนีไม่พ้น “ชิน แท-ยง” กุนซือชาวเกาหลีใต้ผู้เข้ามาเปลี่ยนทัพอิเหนาให้แข็งแกร่งมากขึ้น
เรื่องราวเบื้องหลังการเตรียมทีมสู้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U-23 ในครั้งนี้ของทัพอิเหนาจะเป็นอย่างไรติดตามพร้อมกันได้ที่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
กุนซือผู้แข็งแกร่ง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย แต่งตั้ง ชิน แท-ยง กุนซือชาวเกาหลีใต้ขึ้นเป็นเฮดโค้ชแทนที่ ไซมอน แม็คเมเนมี กุนซือชาวสกอตแลนด์ ซึ่งดีลนี้เขาได้รับสัญญายาวถึง 4 ปี มันค่อนข้างแปลกเพราะปกติอินโดนีเซียมีความเชื่อในนโยบายเปลี่ยนตัวกุนซืออยู่บ่อย ๆ
แต่ด้วยผลงานของ ชิน แท-ยง ที่พา ซองนัม เอฟซี ไปเล่น เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในปี 2010 พ่วงด้วยการเป็นกุนซือที่พา ทีมชาติเกาหลีใต้ เอาชนะ เยอรมนี 2-0 ในฟุตบอลโลก 2018 และเป็นเฮดโค้ชชุดเยาวชน U-20 กับ U-23 ของเกาหลีใต้ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้เป็นกุนซือคุมทัพอิเหนา
อย่างไรก็ตามฟุตบอลมันเป็นเรื่องของความรุ่งโรจน์และผลการแข่งขัน อย่างที่เราทราบกันดี ที่อินโดนีเซียชื่อเสียงในอดีตมันไม่สำคัญมากนัก ดังนั้น ชิน แท-ยง จะต้องพิสูจน์ตัวเองกับทัพอิเหนาให้ได้
ทว่าสถานการณ์ของทีมชาติอินโดนีเซียในปีนั้นก็ไม่สู้ดีมากนักเนื่องจากกำลังอยู่ในอันดับท้ายสุดของกลุ่มฟุตบอลโลกปี 2022 รอบคัดเลือก โดยไม่สามารถเก็บแต้มได้แม้แต่แต้มเดียวจากห้าเกม ผลงานของพวกเขาในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปี 2019 อย่างซูซูกิคัพก็ขาดความสดใสเช่นกันจบอันดับสี่จากห้าทีมในกลุ่มนับว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่กุนซือชาวเกาหลีใต้คนนี้ต้องเจอ
สมัยที่ยังเล่นฟุตบอลในประเทศเกาหลี ชิน แท-ยง ได้รับฉายาว่า “สุนัขจิ้งจอกแห่งพื้นดิน” ด้วยคลาสการจ่ายและเลี้ยงบอลอย่างชาญฉลาด เขานำมาปรับใช้และสอนนักฟุตบอลชาวอินโดนีเซียถึงสไตล์การเล่นที่กล้าได้กล้าเสียและกล้าหาญแบบเดียวกันเพื่อที่สามารถเล่นในเกมที่มีความกดดันสูงได้
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการฝึกซ้อมและการเตรียมการของทีม ชิน แท-ยง ยังให้ความสำคัญกับความฟิต วินัย และความพยายามของทีม ในทำงานเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา รวมถึงวัฒนธรรมในห้องแต่งตัวที่เหนียวแน่นมากขึ้น กระตุ้นให้ผู้เล่นสนับสนุนซึ่งกันและกันทำงานไปสู่เป้าหมายร่วมกัน
“ในยุคของเรา สไตล์ฟุตบอลแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละโค้ช นั่นเป็นเรื่องยากสำหรับเรา เราเล่นฟุตบอลด้วยความอดทน ผมคิดว่าถ้านักเตะต้องพัฒนาพวกเขาก็ต้องเล่นตามความสามารถของตัวเอง แทนที่จะโค้ชพูดว่า 'ทำนี่ ทำนั่น' ผมคิดว่าเขาควรนำเสนอภาพรวมของสิ่งที่เขาต้องการ และปล่อยให้นักเตะทำให้มันเกิดขึ้น มันไม่ควรทำในบรรยากาศที่บีบบังคับ แต่ควรทำในลักษณะเอาใจใส่ ผมคิดว่าผลลัพธ์ที่ดีกว่าสามารถบรรลุผลได้ด้วยการปล่อยให้ผู้เล่นทำสิ่งที่พวกเขาทำได้ด้วยตัวเอง” ชิน แท-ยง กล่าว
การเตรียมทีมสำคัญ
ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันศึกชิงแชมป์เอเชีย U-23 ที่ประเทศกาตาร์ ชิน แท-ยง ได้นำลูกทีมไปอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมที่ประเทศดูไบ นัดแรกอุ่นเครื่องพ่ายให้กับ ซาอุดีอาระเบีย 3-1, นัดที่ 2 ชนะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-0
“การแข่งขัน U-23 Asian Cup ไม่ได้อยู่ในปฏิทินของ FIFA ดังนั้นผมจึงไม่สามารถพูดได้ว่าการเตรียมการของเราสมบูรณ์แบบ แต่เรายังคงพยายามเผชิญหน้าและสร้างทีมและหวังว่าเราจะสามารถทำผลงานได้ดีในทัวร์นาเมนต์นี้”
“ในดูไบ เราเล่นเกมกระชับมิตรระหว่างประเทศ 2 นัดกับซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เราได้รับประสบการณ์ที่ดี ผลงานของเราดีขึ้น และนักเตะก็มั่นใจ สองแมตช์นี้ช่วยทีมของเราได้” ชิน แท-ยง กล่าว
โดยกุนซือชาวเกาหลีใต้คนนี้ได้พูดถึงการพบกับทีมชาติกาตาร์ในรอบแรกว่าเป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทัวร์นาเมนต์ และพวกเขาคือเจ้าบ้านซึ่งทีมชุดใหญ่ของพวกเขาเพิ่งคว้าแชมป์เอเชียนคัพ 2023 ที่ผ่านมา
“ผมคิดว่าทีมกาตาร์ U-23 เป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ แน่นอนว่าผมต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะอินโดนีเซีย เพื่อที่พวกเขาจะได้หลุดพ้นจากความกดดันและแสดงความแข็งแกร่งของเราในรายการนี้” ชิน แท-ยง กล่าว
เส้นทางที่ยากลำบาก
ประเดิมสนามนัดแรกของ ทัพอิเหนา เปิดหัวได้ไม่สวยนักเพราะพวกเขาพ่ายให้กับเจ้าบ้านอย่าง ทีมชาติกาตาร์ ไปด้วยสกอร์ 2-0 หลังจบเกม ชิน แท-ยง กุนซือชาวเกาหลีใต้ได้ให้สัมภาษณ์ไม่พอใจผู้ตัดสินในเกมนี้หลังลูกทีมโดนใบแดงในเกมนี้ถึง 2 คน
“ขอแสดงความยินดีกับกาตาร์ นักเตะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลงานที่ดี โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากที่จำนวนนักเตะลดลงในสนามและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ อย่างไรก็ตามการตัดสินของผู้ตัดสินหลาย ๆ ครั้งตลอดทั้งเกม หากมองดูพวกเขา มันไม่ใช่ การแข่งขันฟุตบอล มันเป็นการแสดงตลกและเกินไปมาก ๆ”
“ผมพูดอะไรไม่ได้เกี่ยวกับนักเตะที่ได้รับใบแดง ผมพูดไม่ออก ฟุตบอลไม่ควรเล่นแบบนี้ ใบแดงใบแรกของเราไม่มีการติดต่อกันเลย ทำไมพวกเขาถึงใช้ VAR ในสถานการณ์แบบนี้” กุนซือชาวเกาหลีใต้ กล่าว
กาตาร์ขึ้นนำในครึ่งแรกจาก คาลิด อาลี ซาบาห์ ทำประตูในนาทีที่ 45+1 จากลูกโทษ ผู้ตัดสินมองว่า ริซกี้ ริโด้ กองหลังชาวอินโดนีเซีย ทำฟาล์วต่อผู้เล่นกาตาร์ ผู้ตัดสินจึงให้ฟรีคิกแก่อินโดนีเซีย แต่หลังจากปรึกษา VAR แล้วเขากลับเปลี่ยนคำตัดสินเป็นจุดโทษทำให้เกิดการประท้วงจากผู้เล่นชาวอินโดนีเซีย
ต่อมา รอมฎอน สะนันตา โดนใบแดงโดยตรงระหว่างการแข่งขัน ในตอนแรกผู้ตัดสินได้ให้ใบเหลือง แต่หลังจากการตรวจสอบ VAR เขาก็เปลี่ยนเป็นใบแดง หลังจากนั้นไม่นานในนาทีที่ 54 อินโดนีเซียเสียประตูที่สองให้อาเหม็ด อัล-ราวียิงฟรีคิกตาข่าย จบเกมอินโดนีเซีย พ่ายให้กับ กาตาร์ 2-0
แต่ในวิกฤตยังมีโอกาสเกมนัดที่ 2 ของทีมชาติอินโดนีเซีย สามารถเอาชนะ ออสเตรเลีย ได้อย่างหวุดหวิด 1-0 ชัยชนะครั้งนี้เปิดโอกาสให้ทีมชาติอินโดนีเซีย U-23 ในการผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ของชิงแชมป์เอเชีย
“ผมพูดก่อนการแข่งขัน (กับผู้เล่น) เราต้องไม่ยอมแพ้และต้องมั่นใจเสมอ ผมบอกเสมอว่าเราต้องเตรียมสภาพจิตใจให้เข้มแข็ง และพวกเขาก็ทำได้ดี พวกเขากำลังดิ้นรนด้วยความพยายามครั้งใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราสามารถชนะเกมนี้ได้”
“ออสเตรเลียเป็นทีมที่ดีมาก เรารู้ดี พวกเขามีสภาพร่างกายที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเร็ว ความสามารถ และเทคนิคที่ดีของแต่ละคน เรารู้อยู่แล้วว่าเรากำลังผ่านการทดสอบที่ยากลำบาก มันยากมาก” ชิน แท-ยง กล่าว
สามแต้มจากชัยชนะเหนือ ออสเตรเลีย ทำให้ ทัพอิเหนา อยู่อันดับสองกลุ่ม A ซึ่งลูกทีมของ ชิน แท-ยงเก็บแต้มได้หลังจากชนะ 1 ครั้งและแพ้ 1 ครั้ง หลังจากพิสูจน์ตัวเองกับออสเตรเลียแล้ว ทีมชาติอินโดนีเซีย U-23 ต้องเตรียมตัวอีกครั้งสำหรับนัดชิงชนะเลิศกลุ่ม A กับจอร์แดน U-23
สร้างประวัติศาสตร์ทัพอิเหนา
นัดสุดท้ายซึ่งเป็นนัดชี้ชะตาของ ทัพอิเหนา พวกเขาต้องพบกับ ทีมชาติจอร์แดน ที่ต้องการสามแต้มเพราะพวกเขาพึ่งแพ้เจ้าภาพอย่าง กาตาร์ 2-1 แต่ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของ อินโดนีเซีย ที่ชนะมาอย่างต่อเนื่อง 2 เกมติดทำให้ จอร์แดน ต้านไม่ไหว พ่ายไปด้วยสกอร์ 4-1
หลังจบเกม ชิน แท-ยง กุนซือทีมชาติอินโดนีเซีย U23 ให้สัมภาษณ์หลังพาทีมเขารอบน็อกเอาท์ศึก U23 ชิงแชมป์เอเชีย โดยหวังจะพาทีมไปให้ไกลที่สุดให้ได้
“ผมมีความสุขมากที่สามารถพาทีมผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ได้ ผมอยากจะกล่าวขอบคุณผู้เล่นทุกคน ผมต้องการแบ่งปันชัยชนะนี้ไม่เพียงแต่กับผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแฟนบอลทีมชาติอินโดนีเซียทุกคนด้วย”
“(การเข้ารอบ)นี่เป็นเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่ผมตั้งเป้าหมายไว้ ผมยังไม่รู้จักคู่ต่อสู้ในรอบน็อกเอาท์ แต่ผมจะดูการแข่งขันของพวกเขาและเตรียมตัวให้ดีที่สุด” ชิน แท-ยง กล่าว
ชัยชนะเหนือจอร์แดนช่วยให้ อินโดนีเซีย จบอันดับสองของกลุ่ม A มี 6 แต้ม ตามหลังเจ้าบ้าน กาตาร์ อยู่ 1 แต้ม ส่งผลให้ ทัพอิเหนา ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชีย U23 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวกเขา
แหล่งอ้างอิง :
https://www.fifa.com/fifaplus/en/articles/shin-tae-yong-transformed-indonesian-national-team-and-how
ข่าวและบทความล่าสุด
RELATED BY AUTHOR
ไทยลีก 2 เพลย์ออฟเลื่อนชั้น : ตั๋วใบสุดท้ายศึกชี้ชะตาสู่ไทยลีก
MOST POPULAR
มาดามแป้ง ประสาน รัฐบาล-NBT ยิงสดเพลย์ออฟไทยลีก 2
ลีกสิงคโปร์ เล็งให้ผู้ตัดสินติดกล้อง ป้องกันนักเตะคุกคาม
ดาวโรจน์อินโดฯ โดนแฟนตัวเองถล่ม จนต้องโพสต์โซเชียลตอบโต้
‘โค้ชแบงค์’ เชื่อ ชลบุรี อยู่รอด หากเก็บ 7 คะแนน จาก 4 เกมสุดท้าย
ไทยลีก 2 เพลย์ออฟเลื่อนชั้น : ตั๋วใบสุดท้ายศึกชี้ชะตาสู่ไทยลีก
