ชนาธิป เกี่ยวไหม ? : เปิดเหตุผลแฟนฟรอนตาเล่ขึ้นป้าย "ด่าผู้บริหาร" แต่ "ซัพพอร์ท โอนิกิ"
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโซเชียลเลยสำหรับแฟนบอล คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ที่ชูแบนเนอร์แสดงความไม่พอใจการบริหารของ อาคิฮิโร โยชิดะ ประธานสโมสร หลังเกมลูวานคัพกับ อูราวะ เรดส์ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยหนึ่งในสิ่งที่ถูกโจมตีมากที่สุดคือการให้ความสำคัญกับตลาดในเอเชียมากกว่าคนในท้องถิ่น อีกทั้งเจ้าหน้าที่ที่เคยมีส่วนสร้างความสัมพันธ์กับคนในเมืองคาวาซากิ ก็ทยอยลาออก นับตั้งแต่ โยชิดะ เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2022
จึงเกิดคำถามว่า “ชนาธิป” ซึ่งเป็นนักเตะเอเชียไม่กี่คนในทีม เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่? ติดตามไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
ดราม่าร้อนญี่ปุ่น
“เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการสาดกระสุนแบบนี้”
นี่เป็นความเห็นส่วนหนึ่งในโซเชียลมีเดีย ที่อาจสะท้อนได้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติในวงการฟุตบอล หลังแฟนบอล คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ชูป้ายผ้าประท้วงหลังเกมที่ต้นสังกัดของพวกเขา เปิดบ้านเสมอกับ อูราวะ เรดส์ 0-0 ในเกมลูวานคัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ป้ายผ้าดังกล่าวปรากฎอยู่บนอัฒจันทร์ของโซนจี ในสนามโทโรโดกิ สเตเดียม รังเหย้าของ ฟรอนตาเล่ โดยมีข้อความโจมตีฝ่ายบริหาร และพุ่งเป้าไปยัง อาคิฮิโร โยชิดะ ประธานสโมสร ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2022
“ความสัมพันธ์กับคนในชุมชนไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับแรกอีกต่อไป สต้าฟที่มีผลงานเด่นก็ลาออกไปหมด นโยบายธุรกิจที่ โยชิดะ และฟูจิตสึ นำมาใช้ มันโอเคแล้วจริง ๆ หรือ ?” ข้อความในป้ายผ้าระบุ
อันที่จริงความสัมพันธ์ระหว่างสโมสรและท้องถิ่น ก็เป็นสิ่งที่เจลีก พยายามเน้นย้ำมาตั้งแต่เริ่มแรก ด้วยแนวคิดของการร่วมมือกันสามฝ่ายระหว่าง ชุมชน, ธุรกิจ และองค์กรท้องถิ่น และฟรอนตาเล่ยึดถือในเรื่องนี้
ในอดีต พวกเขามีสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับท้องถิ่น ด้วยการออกไปแจกใบปลิวก่อนเกม หรือติดป้ายผ้าในในสถานที่สำคัญของเมือง หรือหากมีเวลาว่างเจ้าหน้าที่ของสโมสร ก็จะคอยออกไปเยี่ยมเยียนย่านการค้าอยู่เสมอ
แต่มันก็เริ่มเปลี่ยนไปหลัง โยชิดะ ที่มาจาก ฟูจิตสึ บริษัทแม่ เข้ามาเป็นประธานสโมสร เมื่อสายสัมพันธ์กับชุมชนเริ่มเจือจาลง ทั้งที่ทีมกำลังเติบโตไปข้างหน้า
“เหตุผลสำคัญที่เราตัดสินใจติดแบนเนอร์นี้ก็คือโครงสร้างการทำงานของฟรอนตาเล่ภายใต้การบริหารของประธานโยชิดะ” กลุ่มแฟนบอลที่ติดป้ายผ้าอธิบายในเว็บไซต์ kawasakikazoku.net
“นั่นเป็นเพราะเรารู้สึกอย่างมากว่าปรัชญาพื้นฐานของสโมสรอย่าง ‘การคลุกคลีใกล้ชิดกับชุมชน’ ซึ่งคนรุ่นก่อนๆให้ความสำคัญ กำลังถูกละเลย”
นอกจากนี้ นโยบายทางธุรกิจ ในการมุ่งขยายฐานแฟนบอลไปสู่เอเชียของฟรอนตาเล่ ไม่ว่าจะเป็นการมีเฟซบุ๊คภาษาต่างประเทศ รวมถึงภาษาไทย การออกไปทัวร์เอเชีย ก็เป็นอีกประเด็นที่ถูกโจมตี
“แม้ว่าสโมสรจะเป็นที่นิยมและรู้จักมากขึ้น แต่ปัจจุบันผู้คนในท้องถิ่นที่คอยสนับสนุนทีมในช่วงเวลาที่ยากลำบาก กลับโดนทิ้งไว้ข้างหลัง” แถลงการณ์ของแฟนบอลระบุ
ถ้าอย่างนั้น ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะชาวเอเชียไม่กี่คนในทีม เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ ?
ชนาธิปเกี่ยวไหม ?
อันที่จริงไม่ใช่แค่กลุ่มแฟนบอลที่ชูป้ายผ้าที่รู้สึกแบบนี้ เพราะหลังจากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป แฟนบอลฟรอนตาเล่ หลายคนก็คิดเหมือนกัน และสะท้อนออกมาผ่านความเห็นในโซเชียลมีเดีย
หลายคนรู้สึกว่าการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสโมสรและชุมชนที่เคยเข้มข้นในอดีต ได้เลือนลางลงไป โดยเฉพาะย่านการค้า ที่มีส่วนในการสนับสนุนทีมในช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่างเช่นช่วงการระบาดของโควิด -19
“ 6 ปีแล้วที่เป็นกองเชียร์ของฟรอนตาเล่ นับตั้งแต่คว้าแชมป์ครั้งแรกล่ะมั้ง พนักงานฝ่ายการตลาดของฟรอนตาเล่ ก็ไม่มาอีกเลย การต่ออายุก็ทำจากอีเมล” ความเห็นของแฟนฟรอนตาเล่ทางโซเชียลมีเดีย
“ฉันเองก็รู้สึกอย่างนั้น ฉันเห็นย่านการค้ารื้อธง (สโมสร) ออก”
“ผู้จัดการที่อยู่ในย่านการค้า ทางตอนเหนือของเมืองคาวาซากิ บอกฉันว่ารู้สึกถึงความเหินห่าง”
เช่นกันกับกลุ่มแฟนบอลที่ติดป้ายผ้า พวกเขามองว่าสโมสรให้ความสำคัญกับคนนอกมากกว่าคนใน ที่สะท้อนได้จากกลยุทธ์มุ่งสู่เอเชียของ ฟรอนตาเล่ ในช่วงปีหลังๆ
“ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสโมสรกับท้องถิ่นอ่อนแอลง สโมสรก็โปรโมตกลยุทธ์สู่เอเชีย” กลุ่มแฟนบอลที่ชื่อว่า Kawasaki Kazoku ให้เหตุผล
“เพื่อคว้าแชมป์ ACL พวกเราเห็นด้วยกับเป้าหมายในการขยายฐานแฟนบอล และหวังว่าฟรอนตาเล่ จะกลายเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ในฐานะตัวแทนของเอเชีย”
“แต่เราไม่อยากให้ละเลยท้องถิ่น ไม่อยากให้ไปให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นก่อน"
อย่างไรก็ดี พวกเขายืนยันว่าการประท้วงในครั้งนี้ เป็นแค่การบอกให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฟรอนตาเล่รับรู้ถึงความไม่ไว้วางใจการบริหารของประธานโยชิดะเท่านั้น และไม่เกี่ยวกับผู้เล่น รวมถึง ชนาธิป ที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์มุ่งสู่เอเชียของฟรอนตาเล่
นอกจากนี้ กลุ่ม Kawasaki Kazoku พวกเขาจะยังคงให้การสนับสนุน ฟรอนตาเล่ ต่อไป รวมถึงโทรุ โอนิกิ กุนซือของทีม ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก หลังพาทีมคว้าชัยได้เพียงแค่ 2 นัดจาก 6 เกม รั้งอยู่ในอันดับ 11 ของตาราง
“ทีมภายใต้การนำของผู้จัดการทีมโอนิกิ กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก อันเนื่องมาจากปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าวนี้ เราอยากขอโทษทุกคนที่ไม่พอใจกับการติดป้ายผ้านี้ และมันก็ไม่เกี่ยวกับผู้เล่นเลย” กลุ่ม Kawasaki Kazoku กล่าว
“เราในฐานะกองเชียร์ ยังคงเชื่อมั่นในตัวผู้เล่นที่สู้อย่างเต็มที่ในสนามด้วยหัวจิตหัวใจแห่งความภาคภูมิใจในคาวาซากิ”
“เรายังคงสนับสนุนฟรอนตาเล่โอนิกิ ในรูปแบบของ ‘การให้กำลังใจ’ ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง”
และนี่คืออีกหนึ่งภาพสะท้อนที่ให้เห็นถึงการมีส่วนรวมของแฟนบอลของสโมสรในเจลีก ที่แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ยังมีสิทธิ์มีเสียง สามารถประท้วงและแสดงความคิดเห็นในฐานะ “ผู้สนับสนุน”
มันคือเสรีภาพทางความคิด ที่อยากให้สิ่งที่พวกเขารักพัฒนาไปข้างหน้า และเป็นปัจจัยที่ทำให้วงการฟุตบอลญี่ปุ่น พัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
แหล่งอ้างอิง
http://kawasakikazoku.net/main/archives/2023/04/post_427.html
https://www.football-zone.net/archives/443492
https://www.nikkansports.com/soccer/column/writers/news/202304060000590.html
https://twitter.com/aishiterutokyo/status/1643800318361337856