ซูเปอร์บัลลงดอร์ คืออะไร ? : ที่มาของรางวัลในตำนานที่ได้ครอบครองยากที่สุดในโลก
“ซูเปอร์บัลลงดอร์” (Super Ballon d'Or) กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลัง ลิโอเนล เมสซี่ พาทีมชาติอาร์เจนตินาผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 พ่วงตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลแบบไร้ข้อกังขา
กัปตันทีมฟ้าขาวจึงได้รับการคาดหมายว่า จะคว้ารางวัลบัลลงดอร์ไปครองเป็นสมัยที่ 8 เมื่อบวกกับผลงานอันเอกอุของเขาตลอดอาชีพ ที่ประสบความสำเร็จมาครบทุกอย่าง ทั้งในระดับสโมสร, ทีมชาติ และรางวัลส่วนตัวที่ได้มานับไม่ถ้วน ชนิดยากที่จะหาใครเทียบเคียงได้
นั่นทำให้หลายคนเชียร์ให้ เมสซี่ คว้ารางวัลในตำนานอย่าง “ซูเปอร์บัลลงดอร์” ไปครอง เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่ารางวัลนี้คืออะไร มันเกี่ยวข้องกับบัลลงดอร์หรือไม่ แล้วเหตุใดถึงถูกยกให้เป็นรางวัลในตำนานที่ได้ครอบครองยากที่สุด Think Curve - คิดไซด์โค้ง หาคำตอบมาเสิร์ฟให้แล้ว
“ซูเปอร์บัลลงดอร์” เป็นรางวัลที่ถูกมอบโดยนิตยสาร France Football เหมือนกับบัลลงดอร์ ในขณะที่บัลลงดอร์จะถูกมอบให้นักเตะที่ทำผลงานโดดเด่นที่สุดในทุก ๆ ปี แต่ “ซูเปอร์บัลลงดอร์” พิเศษกว่านั้นมาก เพราะจะถูกมอบในทุก ๆ 30 ปีเท่านั้น
จุดเริ่มต้นของ “ซูเปอร์บัลลงดอร์” เกิดจากการที่นิตยสาร France Football ต้องการฉลองการก่อตั้งครบรอบ 30 ปี ด้วยการทำอะไรพิเศษสักอย่าง ก่อนสุดท้ายจะตกผลึกออกมาเป็นการมอบรางวัล “ซูเปอร์บัลลงดอร์” เพื่อเชิดชูนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ
นั่นคือเหตุผลที่ “ซูเปอร์บัลลงดอร์” ถูกขนานนามว่าเป็นรางวัลที่ได้ครอบครองยากที่สุดในโลก เพราะกว่าคุณจะได้ลุ้นคว้ารางวัลนี้สักครั้ง คุณต้องรอนานถึง 30 ปี หรือเกือบครึ่งชีวิตคน ๆ หนึ่ง ไหนจะต้องต่อสู้กับเสือสิงห์กระทิงแรดอีกมากมายในวงการ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีดีกรีและความสำเร็จในระดับสุดยอดทั้งนั้น ยิ่งทำให้การคว้ารางวัลนี้ยากขึ้นอีกหลายเท่า
ดังนั้นการที่คุณจะคว้ารางวัลนี้ได้ คุณต้องทำสิ่งที่พิเศษจริง ๆ ในแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน จนสามารถเอาชนะใจคนส่วนใหญ่และคณะกรรมการที่มีสิทธิ์โหวต เหมือน อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ตำนานดาวยิงระดับพระกาฬาของ เรอัล มาดริด ที่เป็นนักเตะเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่เคยได้สัมผัสรางวัล “ซูเปอร์บัลลงดอร์”
ดิ สเตฟาโน่ คือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลของราชันชุดขาว ผลงาน 216 ประตู จาก 282 เกม การันตีฝีเท้าของเขาได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ทำให้ ดิ สเตฟาโน่ เหนือกว่ายอดนักเตะคนอื่น ๆ คือ เขาสามารถพา เรอัล มาดริด ครองจ้าวสโมสรยุโรป 5 ปีติดต่อกัน (1956-1960) ซึ่งยังคงเป็นสถิติที่อยู่ยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากถ้วยแชมป์กับสโมสรแล้ว ดิ สเตฟาโน่ ยังได้บัลลงดอร์มาครองอีก 2 สมัย เรียกได้ว่าอาชีพค้าแข้งของเขาสมบูรณ์แบบสุด ๆ และผ่านการพิสูจน์มาหมดแล้ว ทำให้นิตยสาร France Football ใส่ชื่อเขาเป็นหนึ่งในแคนดิเดตลุ้นรางวัล “ซูเปอร์บัลลงดอร์” ครั้งแรก (และเป็นครั้งเดียวจนถึงตอนนี้) ร่วมกับแข้งระดับตำนานอย่าง ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวร์, โยฮัน ครัฟฟ์, เควิน คีแกน, มิเชล พลาตินี่ และคาร์ล ไฮนซ์-รุมเมนิกเก้
และจากผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ ดิ สเตฟาโน่ ก็ทำให้เขาได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด และคว้ารางวัล “ซูเปอร์บัลลงดอร์” ไปนอนกอดเป็นคนแรกในปี 1989 ซึ่งต่อมาถ้วยรางวัลก็ถูกนำไปตั้งโชว์ในพิพิธภัณฑ์ของสโมสรเรอัล มาดริด
ตัดกลับมาที่ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้แชมป์โลกเข้ามาเติมเต็มความสำเร็จแล้ว เท่ากับว่า เขาคว้าแชมป์มาครบทุกรายการเท่าที่นักเตะคนหนึ่งจะทำได้ ยิ่งกว่านั้น เขายังเป็นเจ้าของสถิติคว้าบัลลังดอร์ไปครองมากที่สุด ด้วยจำนวน 7 สมัย
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ใครต่อใครต่างยกให้พระเจ้าลูกหนังของชาวอาร์เจนตินาคนปัจจุบัน เป็นตัวเต็งที่มีโอกาสคว้ารางวัลในตำนานอย่าง “ซูเปอร์บัลลงดอร์” ที่จะเวียนบรรจบมามอบอีกครั้งในปี 2029 ไปครองเป็นคนที่สองในประวัติศาสตร์
แหล่งที่มา : https://en.as.com/soccer/what-is-the-super-ballon-dor-and-which-footballers-have-won-it-n/
https://www.sportbible.com/football/ballon-dor-2022-start-time-ceremony-20221017
https://de.wikipedia.org/wiki/S%C3%BAper_Ball%C3%B3n_d%E2%80%99Or