ดับเบิ้ลแชมป์ : 5 คีย์แมน บุรีรัมย์ ฟอร์มเยี่ยมเกมคว้าแชมป์รีโว่ ลีก คัพ

จบลงไปแล้วสำหรับเกมนัดชิงชนะเลิศถ้วย รีโว่ ลีก คัพ ที่เป็นการเจอกันระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่ประจำไทยลีกอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ท่ามกลางแฟนบอลที่เป็นสักขีพยานในสนามกว่าหนึ่งหมื่นคน

รูปเกมการดวลของทั้งสองทีม ต้องชมว่าสู้กันได้อย่างสนุกครบรส แสดงให้เห็นถึงการวางหมากสู้กันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ก่อนจะเป็นทางทัพ ปราสาทสายฟ้า ที่อาศัยความเฉียบคมมากกว่า เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 จากประตูของ โกรัน เคาซิช และ ศุภชัย ใจเด็ด

จากการรับชมเกมดังกล่าวครบทุกนาที ฟอร์มการเล่นของนักเตะ บุรีรัมย์ ไม่ใช่เพียงแค่คนยิงประตูชัยที่ทำผลงานได้เข้าตาเท่านั้น หากขาดเพื่อนร่วมทีมที่คัดเลือกมา โอกาสที่พวกเขาจะได้ชูถ้วยในบั้นปลาย คงจะยากเย็นกว่านี้หลายเท่าตัว

แล้วนี่คือ 5 คีย์แมนคนสำคัญ ที่ช่วยทัพ ปราสาทสายฟ้า ไปถึงตำแหน่งดับเบิ้ลแชมป์ จากสายตาของทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง พร้อมเหตุผลประกอบ

พรรษา เหมวิบูลย์

เซนเตอร์แบ็คตัวเก๋าดีกรีทีมชาติไทย วัย 32 ปี อยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาอย่างยาวนาน ช่วยทีมกวาดถ้วยแชมป์เข้าสู่สโมสรอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าแฟนบอลบางส่วนจะมองว่า สภาพร่างกายของเขาไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดเช่นเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาทดแทนแล้วสำคัญไม่แพ้กัน คือ ความนิ่ง ที่ช่วยเรื่องของการอ่านเกม คุมแนวรับในช่วงเวลาที่ทีมถูกบุกกดดันเข้าใส่ อันมาจากประสบการณ์ค้าแข้งบนเวทีระดับสูงมาโดยตลอด พรรษา ยืนตำแหน่งในเกมนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม อยู่ถูกที่ถูกเวลา คอยประกบแนวรุกของ บีจี ตามพันแข้งพันขาไม่ให้ทำอะไรได้ถนัด แล้วสุดท้ายก็พาทีมเก็บคลีนชีท ตรึงรักษาสกอร์ที่เกิดขึ้นในเกมนี้เอาไว้ได้

พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี

กองกลางสไตล์ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ฟอร์มแรง หนึ่งในสมาชิกแก๊งค์ 6S ขวัญใจแฟนบอลเซาะกราว งานของเขาในเกมนี้ คือ การต้องดวลกับกองกลางรุ่นพี่ในทีมชาติอย่าง สารัช อยู่เย็น และ พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล ที่รับบทบาทแบบเดียวกัน คือ ต้องรับผิดชอบทั้งเกมรุกและเกมรับ จากฟอร์มการเล่นที่กำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจ สภาพร่างกายในวัย 30 ปี ที่กำลังอยู่ในช่วงพีคของการค้าแข้งเช่นกัน ช่วยให้ นิว สามารถวิ่งไล่ได้ตลอดเกมแบบไม่มีหมด ยามเล่นเกมป้องกัน ส่วนจังหวะในการเล่นเกมบุกของทีม เขาก็จะรับหน้าที่เป็นตัวเชื่อมบอลสั้นๆ ให้การต่อเกมของทีมไหลลื่น หรือ คอยแก้ไขบอลในสถานการณ์คับขัน จากประโยชน์ในส่วนนี้ ช่วยให้เพื่อนร่วมทีมที่เหลือเล่นง่ายขึ้นมาก

ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการยิงของ เคาซิช

โกรัน เคาซิช

กองกลางเชิงสูงชาวเซอร์เบียวัย 31 ปี ถือว่าจับคู่เล่นร่วมกับ พีรดนย์ ได้อย่างลงตัวในแดนกลาง หากทางคู่ขาของเขา คือ มดงานที่วิ่งไล่แบบไม่มีหยุด ตัวของ เคาซิช จะรับหน้าที่ควบคุมจังหวะเกม กำหนดเทมโป้ให้ช้าหรือเร็วจากการอ่านสถานการณ์ การเล่นเกมรับของเขาไม่จำเป็นต้องใช้ลูกหนักเข้าขู่ เพียงแต่อาศัยประสบการณ์ในการอ่านเกมและดักตัดบอลแบบนิ่มๆ พอตัดได้ก็จะสร้างสรรค์เกมแบบใจเย็น เน้นการจ่ายบอลง่ายๆ ไม่พยายามเล่นเสี่ยงให้ทีมเสียการครอบครองบอล ประตูของเขาในนาทีที่ 13 แม้ว่าจะเป็นการยิงจ่อๆ ง่ายๆ เข้าไป แต่มันก็มาจากประสบการณ์ในการเคลื่อนที่ไปอยู่ในที่ว่างแบบถูกที่ถูกเวลา แถมยังเป็นประตูคลายความกดดันให้เพื่อนๆ สามารถเล่นได้อย่างผ่อนคลาย ก่อนจะได้ชูถ้วยในท้ายที่สุด

ธีราทร บุญมาทัน

โก๋อุ้ม แนวรับสาระพัดประโยชน์ วัย 33 ปี แม้ว่าเกมนี้จะไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกม ออกกล้องบ่อยครั้งเหมือนกับเกมอื่นๆ แต่ยามที่เขาไม่ได้ถูกจับภาพ ตัวของเขาจะช่วยทีมอยู่เบื้องหลังเสมอ ในการไปยืนตำแหน่งในแนวรับแบบถูกที่ถูกเวลา คอยสกัดบอลในจังหวะชี้เป็นชี้ตายได้หลายครั้ง ประคองให้น้องๆ มีสติ มีสมาธิ อยู่กับเกม ไม่ออกอาการล่กหรือลน ด้วยการทำตัวอย่างให้เห็นแบบชัดๆ บทบาทของเขาที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง คือ การรับเหมาเตะลูกเซ็ตพีซต่างๆ แล้วจากการเปิดเตะมุมด้วยเท้าซ้ายของเขา ไปยังพื้นที่แนวรับของ บีจี ปทุม ที่สกัดกันไม่ขาด ก็นำมาสู่ประตู 1-0 จากการยิงจ่อๆ ของ เคาซิช แล้วในช่วงท้ายเกม ธีราทร ก็โชว์ความเยือกเย็นและนิ่ง จ่ายบอลอย่างแม่นยำเป็นแอสซิสต์ให้กับ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ยืนว่างๆ อยู่ แต่งบอลให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะกดประตูตอกฝาโลงย้ำชัย 2-0

ไฮไลท์ลูกยิงของ ศุภชัย ใจเด็ด ในเกมนี้

ศุภชัย ใจเด็ด

แม้ว่าเกมนี้ อาร์ม เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวในศึก ไทยลีก จะดูเล่นได้ไม่เข้าฟอร์มมากนัก ด้วยจังหวะการเล่นที่ดูเก้ๆ กังๆ ขาดๆ เกินๆ แต่เขาก็พยายามจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมหลายด้านทดแทน ช่วยเล่นเกมรับ วิ่งส่ายหาตำแหน่งที่ว่าง เคลื่อนที่เป็นทางเลือกในการต่อบอลให้เพื่อน เรียกว่าไม่เคยถอดใจและลดละจนกว่าเสียงนกหวีดจะดังขึ้น ส่งผลให้แนวรับของ บีจี ปทุม ต้องคอยระแวดระวังเขาอยู่ตลอดเวลา แล้วก็เล่นเอาหลายรายตะคริวกิน เพราะเจอทาง ศุภชัย พาทัวร์ไปทั่ว แล้วในที่สุดความพยายามของเขา ก็มาประสบผลสำเร็จในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่สามของครึ่งหลัง ระหว่างที่ บุรีรัมย์ กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน พยายามรักษาสกอร์ที่นำอยู่หนึ่งลูกเอาไว้ให้ได้ กลายเป็น อาร์ม ที่เป็นฮีโร่ให้กับทีมอีกครั้ง จากการรับบอลจาก ธีราทร ก่อนแต้งหาจังหวะยิงแบบสุดคมเข้าไป ให้ทีมได้ประตูนำห่าง 2-0 ลดความเกร็งของเพื่อนๆ ไปได้ทั้งทีม แล้วก็ได้ชูถ้วยแชมป์ รีโว่ ลีก คัพ สมกับที่ทุ่มเทมาตลอดทั้งเกม

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การชมเกมถ่ายทอดสด

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เจาะศุภชัย 2 เวอร์ชั่น : ทำไมเล่นให้ บุรีรัมย์ เด่นกว่าทีมชาติ ?

เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก

คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ

เวียดนามกร้าวก่อนซีเกมส์ : "4 ปีก่อน ทรุสซิเย่ร์ ก็เคยพาทีมเวียดนามยู 19 เอาชนะไทยมาแล้ว

เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?

บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้

คุณสมบัติอะไรที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ?

ศุภณัฏฐ์ นำทัพ : 6 วันเดอร์คิดเอเชียที่ติดอันดับโลกปี 2019 ทุกวันนี้เป็นอย่างไร ?

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด