ดีลไซด์โค้ง : พลิกสนั่นลั่นวงการ EP.3 - ดัง วาน ลัม สัญญาอยู่ไทยทำไมเลี้ยวไปญี่ปุ่น?
สโมสรฟุตบอลอาชีพทุกสโมสร หากดำเนินการทำธุรกิจทุกภาคส่วนอย่างเป็นมืออาชีพ การมีสัญญาผูกพันกันเป็นลายลักษณ์อักษรต่างฝ่ายต่างต้องเคารพซึ่งกันและกัน แล้วให้เกียรติต่อข้อผูกมัดนั้นๆ จนกว่าทุกอย่างจะจบลงตามระยะเวลาที่กำหนดกันไว้ ถ้าหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้ ต้องมีการชดเชยหรือแยกทางกันไปตามตกลง
แน่นอนว่าช่วงระยะเวลาที่ยากลำบากที่สุดในการทำทีมฟุตบอลช่วงสามปีหลัง คือ ตอนที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อองค์รวมทั่วโลกทุกภาคส่วนทุกวงการ เศรษฐกิจพังพินาศ แผนงานต่างๆ ที่วางไว้ขององค์กรใหญ่ ๆ ล้วนล้มครืนแบบไม่เป็นท่า
‘ฟุตบอล’ ที่เป็นเกมกีฬาเพื่อความบันเทิง ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วยแบบเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากทุกวันนี้ก็เปรียบเสมือนธุรกิจหนึ่งที่นายทุนหลายต่อหลายคนที่มีใจรักในกีฬาชนิดนี้หันมาทำตลาดในจุดนี้ ซึ่งเมื่อเกมแข่งขันต้องจัดแบบไม่มีคนเข้าชม ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไม่ได้สูงเท่าแต่ก่อน การขายของที่ระลึกนั้นขายหน้าสนามไม่ได้ แต่รายจ่ายกลับต้องจ่ายไม่ต่างจากสถานการณ์ปกติ ทำให้หลายต่อหลายทีมต้องแบกรับภาระที่หนักมาก
เมื่อผลประกอบการของทีมกลายเป็นติดลบตัวแดง ส่งผลให้บอร์ดบริหารของหลายสโมสรต้องหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งการเจรจาลดค่าเหนื่อยนักเตะเป็นการชั่วคราว กลายเป็นทางออกที่นิยมมากที่สุดในเวลานั้น แต่ใช่ว่าดาวเตะหลายคนจะยอมรับสภาพดังกล่าวได้ จึงกลายเป็นกรณีพิพาทตามมาเป็นประเด็นในภายหลัง
เคสสุดคลาสสิคอย่าง ดัง วาน ลัม อดีตนายทวารทีมชาติเวียดนามของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ยังคงมีสัญญาผูกพันอยู่ แต่จู่ๆ เจ้าตัวกลับย้ายไปลงเอยกับ เซเรโซ โอซาก้า ด้วยสิทธิ์การคุ้มครองชั่วคราวจาก ฟีฟ่า เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาถึงทุกวันนี้
จากการพำนักอาศัยอยู่แถบทางด่วนแจ้งวัฒนะ แต่ปลายทางเลี้ยวไปลงเครื่องที่ประเทศญี่ปุ่นกับสโมสร เซเรโซ โอซาก้า นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร? จุดเริ่มต้นและจุดจบลงเอยแบบไหน? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับซีรี่ส์ ‘ดีลไซด์โค้ง’ จากทาง Think Curve - คิดไซด์โค้ง
มีช่องก็แทงสวน
ดัง วาน ลัม ผู้รักษาประตูลูกครึ่ง เวียดนาม-รัสเซีย ย้ายจาก ไฮฟอง มาอยู่กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 ด้วยค่าตัวราว 4 แสน 5 หมื่นยูโร (ตีเป็นเงินไทยราว 16 ล้านบาทในเวลานั้น) ซึ่งกลายเป็๋นนักเตะโควต้าอาเซียนรายที่สองต่อจาก อ่อง ธู แนวรุกสัญชาติเมียนมาร์ในซีซั่นดังกล่าว
ในวัย 25 ปี วาน ลัม ถือเป็นนายทวารที่มีดีกรีไม่ธรรมดา รูปร่างดี ส่วนสูงเกือบ 190 เซนติเมตร เป็นมือหนึ่งทีมชาติเวียดนาม โชว์ผลงานได้อย่างเข้าตา จนกรุยทองย้ายมาเป็นขุนพลกิเลนผยอง ซึ่งต้องยอมรับกันตามตรงว่า เป็นโอกาสครั้งสำคัญของเจ้าตัวที่จะได้โชว์ฝีมือในถ้วยชิงแชมป์เอเชีย (ACL)
เป้าหมายของนายทวารรายนี้ ไม่ได้มองที่การจะอยู่โยงค้าแข้งในเมืองไทย เนื่องจากเจ้าตัวมีความฝันไกลในการย้ายไปเล่นลีกระดับท็อประดับเอเชียอย่าง เจ ลีก ประเทศญี่ปุ่น ตามที่กล่าวเอาไว้ตั้งแต่เปิดตัวช่วงแรกว่า
"ผมเซ็นสัญญากับเมืองทองในช่วงเดือนมกราคม ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้ เมืองทองเป็นทีมที่ดังมากในประเทศไทย พวกเขาเคยเป็นแชมป์ไทยลีกและไปเล่นใน ACL เป็นประจำ สำหรับผมนี่คือก้าวสำคัญในอาชีพนักฟุตบอล"
“ผมคิดว่านี่คือก้าวสำคัญที่จะต่อยอดความทะเยอทะยานของผมไปสู่ลีกชั้นนำของเอเชีย อย่างเช่นญี่ปุ่น นักฟุตบอลทุกคนมีเป้าหมายของตัวเอง สำหรับผมคือการไปเล่นในยุโรป เมืองทองเซ็นสัญญากับผมเพราะพวกเขาเพิ่งปล่อยตัวผู้รักษาประตูที่ดีสุดให้สโมสรในเบลเยยม หนึ่งในนักเตะของพวกเขาอย่าง ธีราทร ก็ได้ย้ายไปเล่นในเจลีก และเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของ อิเนียสต้า"
อย่างไรก็ตามผลงานของ วาน ลัม ภายใต้การคุมทัพของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ นั้นไม่สดใสตามที่คาดกันไว้ ฟอร์มของเขาขาดความคงเส้นคงวา จนถูกทาง สมพร ยศ ผู้รักษาประตูคู่แข่งเพื่อนร่วมทีม แซงหน้าขึ้นมาเป็นมือหนึ่ง จนทำให้ประตูดาวทองเริ่มออกอาการไม่พอใจ มีแสดงอาการกลายๆ ว่าต้องการย้ายออกหากต้องนั่งสำรองต่อไปเรื่อยๆ แต่สัญญาผูกพันกัน 3 ปีที่เซ็นไว้คือ อุปสรรคที่ขวางไว้ หากต้องการย้ายออกก็ต้องมีทีมพร้อมซื้อตัวด้วยการยื่นข้อเสนอเข้ามาอย่างเป็นทางการเท่านั้น
ปรากฎว่าสถานการณ์ โควิด-19 ที่ระบาดหนักจนเกิดผลกระทบไปทั่วโลก แพร่ระบาดลามมาถึงประเทศไทยเช่นกัน แผนที่วางไว้สำหรับการแข่ง ไทยลีก ต้องมีการรื้อและปรึกษากันใหม่ รายรับไม่เข้ามาเท่าเดิม แต่รายจ่ายสโมสรเท่าเดิม ทำให้ตัวแทนแต่ละทีมต้องจัดการประชุมเพื่อหาทางออก
แนวทางที่ดีที่สุดตามความเห็นส่วนใหญ่เวลานั้น คือ ทำตามข้อแนะนำของ ฟีฟ่า หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ที่ชี้ว่าแต่ละทีมที่มีปัญหาด้านการเงิน ควรไปเจรจากับนักเตะของพวกเขาเพื่อลดค่าเหนื่อยนักเตะเหลือ 50 % เป็นการชั่วคราวเพื่อรอจนกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น
การบริหารแบบเป็นกันเองในประเทศไทย การแจ้งกับนักเตะคนบ้านเดียวกันนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ง่าย แต่สำหรับนักเตะต่างชาติ อาจไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะยินยอมจากการมีสัญญาผูกมัดกันอยู่ ดังนั้นหลายสโมสรที่เลือกจะลดเงินเดือนนักเตะใน ไทยลีก จึงมีการทำหนังสือยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรออกมาเป็นหลักฐานเพื่อยินยันกันว่าทั้งสองฝ่ายได้รับรู้ข้อตกลงนี้ร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นั่นคือจุดเริ่มที่ทางผู้บริหารของทาง เมืองทอง ยูไนเต็ด อาจพลาดพลั้งไป เพราะถึงพวกเขาจะมีตัวแทนออกมายืนยันว่า สโมสรลดเงินเดือนผู้เล่นเพียงแค่ 30% เป็นการชั่วคราว แต่ไม่ได้มีกำหนดเวลาแน่นอน แถมการให้สัญญาปากเปล่าว่าจะชดเชยให้เมื่อถึงเวลาอันควรจะเกิดขึ้นในภายหลัง
จุดนี้ทาง วาน ลัม ที่มีข้อพิพาทเรื่องการลงเล่นอยู่เดิมนั้นไม่ได้ทำการยินยอมหรือเซ็นรับทราบเอกสารใดๆ ยิ่งมีตัวแปรเป็นเอเย่นต์ส่วนตัวชาวรัสเซียอย่าง อังเดรย์ กรูชิน ที่มีลูกล่อลูกชนไม่เบา แถมเคยออกมาแสดงความเห็นกรณีต่างๆ ไปในทิศทาง ปกป้อง, โอบปีก และ คอยหนุนหลัง ลูกค้าในการดูแลของเขาเป็นประจำ เลยส่งผลให้เรื่องราวบานปลายไปกันใหญ่
เมื่อทาง กรูชิน สบช่องว่า เมืองทอง มีการลดค่าจ้าง วาน ลัม แบบไม่มีการยินยอมทั้งสองฝ่าย จึงเป็น ‘ช่องโหว่’ ให้เขาใช้จุดนี้ต่อกรกับสโมสรต้นสังกัด เลยเถิดไปถึงการหายตัวไปของนายทวารทีมชาติเวียดนาม ที่ไม่มาซ้อมกับทีม พร้อมกับกรุยทางย้ายไปสู่สโมสร ‘เซเรโซ โอซาก้า’ ทีมจาก เจ ลีก ประเทศญี่ปุ่นที่ให้ความสนใจอยู่ในขณะนั้นพอดีไปพร้อมๆ กัน
กฎของ ฟีฟ่า ตั้งแต่หัวข้อย่อยที่ 13 เกี่ยวกับสถานะของผู้เล่นกับสโมสร ยาวไปจนถึงข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวกับสัญญาผูกมัด มีการให้ข้อมูลไว้ว่า ข้อผูกมัดที่เซ็นกันไว้ สามารถยกเลิกได้ หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลงต่างๆ แบบไม่เป็นธรรม
ภารกิจการส่ง วาน ลัม ไปให้กับ เซเรโซ โอซาก้า แบบฟรีๆ จึงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โลภมากลาภหาย
กรูชิน โพสต์ข้อความลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวมีใจความสรุปได้ว่า วาน ลัม ได้ยกเลิกสัญญากับ เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีสาเหตุมาจากการละเมิดกฎเรื่องการเงินตามที่ระบุไว้ในข้อบัญญัติจาก ฟีฟ่า ส่งผลให้สัญญาดังกล่าวจึงถูกยกเลิกไปตามกฎนั้น
แม้ว่าทาง เมืองทอง จะให้โอกาส กรูชิน และ วาน ลัม กลับมาพูดคุยกันให้ชัดเจน ด้วยการออกแถลงการณ์ว่า
“เรายังรอว่าวันนี้ ดัง วาน ลัม จะกลับมาเข้าซ้อมกับทีม หรือเข้ามาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ หากนักเตะเข้ามาคงมีการพูดคุยที่ชัดเจน ว่าจะอยู่กับทีมต่อไปหรือยังยืนยันที่จะย้ายทีม แต่ไม่ว่าตัวนักเตะจะเข้ามาคุยกับสโมสรหรือไม่ ภายในวันนี้เราคงได้คำตอบที่ชัดเจนกับปัญหาที่คาราคาซังนี้เสียที”
โดยทั่วไปการเจรจาธุรกิจหรือการดำเนินการให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์สูงสุด เป็นหน้าที่อันพึงกระทำของเอเย่นต์ส่วนตัวนักเตะอยู่แล้ว ซึ่งการเดินเรื่องของ กรูชิน ที่เสนอเงื่อนไขให้ วาน ลัม ย้ายไปร่วมทัพ เซเรโซ แบบฟรีๆ จากการใช้กฎของ ฟีฟ่า เกี่ยวกับการปกป้องผลประโยชน์ของนักเตะในการยกเลิกสัญญา พร้อมกับหลักฐานประกอบที่มีในมือ แลกกับค่ากินเปล่าราว 10-15 ล้านบาท แล้วนำไปแบ่งสรรปันส่วนกับนักเตะในการดูแลของเขานั้นเป็นทางเลือกที่แยบยลไม่น้อย เพราะจะทำให้ทาง นักรบซากุระ ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากกว่าครึ่งเนื่องจากค่าตัวประมาณของ วาน ลัม นั้นถูกตีไว้ราว 30 ล้านบาท
สื่อในโลกออนไลน์มีการเผยข้อมูลบางส่วนออกมาว่า กรูชิน ได้ทำการส่ง อีเมล์ แจ้งเรื่องการยกเลิกสัญญากับ เมืองทอง ไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแจ้งรายละเอียดอย่างครบถ้วน จึงทำให้สัญญาของ วาน ลัม นั้นสิ้นสุดลงแล้วสามารถย้ายทีมได้ ซึ่งความจริงแล้วมีการใส่รายละเอียดเรื่องระยะเวลาที่ทาง เมืองทอง ต้องรับรู้ถึงเรื่องดังกล่าวกำหนดเอาไว้ในนั้นด้วยแบบสอดไส้ พูดง่ายๆ คือต้องตอบกลับในระยะเวลาที่กำหนดนั่นเอง หากไม่มีการตอบกลับก็ถือว่าได้มีการแจ้งเรื่องไปแล้ว
การวางกลยุทธของ กรูชิน ครั้งนี้นั้นบานปลายไปจนถึงเกิดการฟ้องร้องกับ ฟีฟ่า ของทาง เมืองทอง แล้วกลายเป็นทางฝั่งนักเตะกับเอเย่นต์เป็นฝ่ายได้ผลประโยชน์เพราะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นเวลา 10 เดือน อนุมัติให้ วาน ลัม ย้ายสังกัดไปอยู่กับ เซเรโซ โอซาก้า ได้ตามประสงค์ ส่วนเรื่องคดีจะลงเอยอย่างไร? นั้นมาว่ากันต่อเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้น
นอกจากนั้น กรูชิน และ วาน ลัม ไม่ได้เรียกร้องเพียงแค่นั้น แต่กลับมองไปถึงการเรียกเงินชดเชยเพิ่มเติมอีกราว 1.7 ล้านบาทอีกด้วย กลายเป็นเหมือนว่าได้คืบแต่จะเอาศอก แถมยังมั่นใจด้วยว่าฝ่ายของพวกเขาจะชนะคดีแน่นอน
สุดท้ายแล้วคดีพลิก คณะกรรมการของ ฟีฟ่า ตัดสินว่า นักเตะเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาเองฝ่ายเดียว ทางต้นสังกัดเดิมอย่าง เมืองทอง ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยใดๆ ความปรารถนาของพวกเขาจึงสำเร็จไปเพียงแค่การได้ย้ายไปอยู่กับ เซเรโซ ตามเป้าที่วางไว้ตอนแรกเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม วาน ลัม กลับไม่ได้รับโอกาสให้ลงเฝ้าเสาในศึก เจ ลีก แม้แต่เกมเดียวหลังทุกอย่างจบลง แม้ว่าจะได้ลงเล่นไปสองนัดในบอลถ้วยเอเชียและบอลถ้วยในประเทศพร้อมกับเก็บ คลีน ชีท ได้สำเร็จ ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีครึ่ง อนาคตของเขาเลยลงเอยด้วยการย้ายกลับมาค้าแข้งกับ บินห์ ดินห์ ทีมในลีกบ้านเกิดในปี 2022 แล้วหลุดจากสารบบทีมชาติเวียดนามไปยาวๆ อนาคตพลิกจากรุ่งเป็นร่วง จากการทพตามความต้องการของตัวเองในครั้งนั้น
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
https://www.transfermarkt.com/van-lam-dang/profil/spieler/474755
https://www.blockdit.com/posts/61700facc62726296e58ff53
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/thaipremierleague/2022299