อดีต, ปัจจุบัน, อนาคต : บันโดวิช เปิดอกตอบทุกคำถาม หลังรับงานคุม พีที ประจวบ เอฟซี

ตกงานได้ไม่ถึงสัปดาห์ โบซิดาร์ บันโดวิช ก็ได้งานใหม่อย่างรวดเร็ว หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของ พีที ประจวบ เอฟซี ซึ่งถือเป็นหวนกลับมาคุมทีมในไทยอีกครั้งในรอบ 3 ปี

โค้ชชาวมอนเตเนโกรเคยทำงานในไทยลีกระหว่างปี 2014-2020 กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีอีซี เทโรศาสน (โปลิศ เทโร) และ ศรีษะเกษ เอฟซี เรียกว่ารู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี

โดยเฉพาะสมัยคุมปราสาทสายฟ้า บันโดวิช ประสบความสำเร็จอย่างสูง พาทีมดังแห่งอีสานใต้คว้าแชมป์ลีก 2 สมัย พ่วงด้วยตำแหน่งผู้ฝึกสอนแห่งปี ก่อนจะพเนจรไปคุมทีมในอินเดียและเวียดนามตามลำดับ

งานล่าสุดของ บันโดวิช คือการคุม ฮานอย เอฟซี ซึ่งต้องบอกว่าผลงานของเขาไม่ได้ขี้เหร่เลย แถมยังมีแชมป์เวียดนามซูเปอร์คัพติดมือ แต่บอร์ดบริหารของทีมกลับเลือกที่จะปลดเขา หลังจากบุกแพ้ อูราวะ เร้ด ไดมอนส์ 6-0 ในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก

และในวาระที่ โบซิดาร์ บันโดวิช เปิดตัวเป็นนายใหญ่คนใหม่ของต่อพิฆาต Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้มีโอกาสพิเศษจับเข่าพูดคุยกับเขาแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในทุกประเด็นที่หลายคนสงสัย ไล่ตั้งแต่อดีต, ปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคต และนี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของเขา

Q : โดน ฮานอย เอฟซี ปลดเพราะอะไร ?

ผมได้คุยกับสโมสรถึงความพ่ายแพ้ในเกมที่แล้ว (แพ้อูราวะ 6-0) นี่คือสาเหตุที่ผมโดนปลด แต่หากคุณมองภาพใหญ่ มันแตกต่างโดยสิ้นเชิง เราคว้าแชมป์เวียดนามซูเปอร์คัพ ผมยกระดับทีมขึ้นและดันดาวรุ่งหลายคนขึ้นมาเล่น เราเกือบคว้าแชมป์ลีกได้ด้วยซ้ำ แต่สำหรับสโมสรและประธานสโมสร เพียงแค่เกมแย่ ๆ เกมเดียว พวกเขาก็สามารถปลดคุณได้ นี่คือฟุตบอล บางครั้งมันเกิดขึ้นได้ ผมอยู่กับทีมมาเกือบ 1 ปี ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จ แต่แค่เกม ๆ เดียว คุณก็สามารถตกงานได้ นี่คือฟุตบอล

Q : ทำไมถึงรับงานคุม พีที ประจวบ ?

เหตุผลแรกคือ ทีมงานของท่านประธานแสดงให้ผมเห็นว่า พวกเขาต้องการให้ผมมาเป็นโค้ชจริง ๆ พวกเขาน่าจะเห็นผลงานของผมตอนคุมทีมในไทยลีก พวกเขานำตัวผมมาที่นี่

เหตุผลที่สองคือ ผมได้รับข้อมูลมาว่า พีที ประจวบ เอฟซี สร้างศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ พยายามพัฒนาทีมไปข้างหน้า นี่คือจุดที่ดีมาก ๆ และผมก็มีบทสนทนาที่ดีกับท่านประธาน ผมจึงตัดสินใจรับงานนี้

Q : ใช้เวลาตัดสินใจนานแค่ไหน ?

ผมตัดสินใจเร็วมาก จากการสะสมข้อมูลและพูดคุย ผมเลยทำตามสัญชาตญาณ สัญชาตญาณบอกผมว่านี่คือทีมที่ผมต้องมาทำ

Q : เป้าหมายกับ พีที ประจวบ คืออะไร ?

ผมขอโฟกัสไปที่เกมต่อไปก่อน จากนั้นก็จะว่ากันเกมต่อเกมว่า เราจะเก็บคะแนนได้มากกว่านี้ไหม ? เราจะปรับปรุงอะไรได้บ้างเพื่อขยับอันดับในตาราง ? นี่คือเป้าหมายแรกของเรา และเรายังคิดใหญ่ แต่ขอให้รอจบเลกแรกก่อน เมื่อถึงตอนนั้นเราจะพูดถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

Q : คิดว่า พีที ประจวบ ดีพอไปถึงตำแหน่งแชมป์ไหม ?

ผมรู้ว่าตลอดอาชีพที่ผ่านมา ผมคุมทีมแชมป์และทีมลุ้นแชมป์เป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณมีความสุขกับทีมที่คุมอยู่ และผมเชื่อว่าผมจะมีความสุขที่นี่ เมื่อดูจากแนวทางการสร้างทีมของสโมสร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นี่คือความท้าทายสำหรับผม เพราะอาชีพโค้ชไม่ใช่แค่การพาทีมคว้าแชมป์ แต่คุณต้องพัฒนานักเตะ ยกระดับทีม และทิ้งสิ่งที่น่าจดจำไว้เบื้องหลัง นี่คือถ้วยแชมป์สำหรับผม

Q : มีวิธีช่วยทีมอย่างไร ?

ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ เพราะมันเหมือนกับว่าผมพูดแทนโค้ชคนก่อน อย่างที่ผมบอกในระหว่างแถลงข่าว โค้ชทุกคนมีวิธีทำงานแตกต่างกัน สำหรับผมจะพยายามปรับปรุงทีมให้ได้มากที่สุดในสนามฝึกซ้อม

Q : คิดว่า พีที ประจวบ เป็นอย่างไร ?

ผมคิดว่านี่คือทีมที่ดี มีนักเตะฝีเท้าดี พวกเขามีคุณภาพ นักเตะส่วนใหญ่ผมรู้จัก เราจำเป็นต้องร่วมมือกันสร้างทีม เพื่อดูว่ายังมีจุดไหนที่เรายังพัฒนาได้ ไม่ว่าจะเป็นนักเตะรายบุคคลและการเล่นของทั้งทีม

Q : คำถามสุดท้าย อยากฝากอะไรถึงแฟนบอลบุรีรัมย์ที่ยังคิดถึงคุณอยู่ ?

ความรู้สึกที่ผมมีต่อบุรีรัมย์ยิ่งใหญ่มาก บุรีรัมย์คือครอบครัวสำหรับผม เป็นสิ่งที่พิเศษมาก ๆ และจะคงอยู่ในอาชีพของผมเสมอ เพราะผมมีช่วงเวลาที่น่าจดจำที่นั่น มีทั้งเพื่อนฝูงและครอบครัว

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด