ดินาโม ซาเกร็บ : แหล่งเจียระไนเพชร เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ทีมชาติโครเอเชีย

ดินาโม ซาเกร็บ : แหล่งเจียระไนเพชร เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ทีมชาติโครเอเชีย
ธัญเทพ สังขะพงศ์

โครเอเชียถือเป็นอีกทีมที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฟุตบอลโลก 2022 ที่ถึงแม้จะตกรอบรองชนะเลิศ แต่พวกเขาก็มาถึงรอบนี้ได้ถึง 3 ครั้ง จากการแข่งขัน 6 ครั้งหลังสุด  

ทั้งนี้ เบื้องหลังความสำเร็จของพวกเขา อาจต้องให้เครดิตกับ ดินาโม ซาเกร็บ เมื่อทีมชาติโครเอเชียชุดนี้ มีผู้เล่นและอดีตผู้เล่นของยอดทีมแห่งเมืองหลวงอยู่ในทีมมากถึง 15 ราย จากทั้งหมด 26 ราย

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ ดินาโม ซาเกร็บ สามารถปั้นนักเตะสู่ทีมชาติได้มากขนาดนี้ ติดตามไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

โครเอเชีย เจ้าประจำ : 5 มวยรองที่เล่นมันจนได้ใจคนดูในบอลโลก 6 ครั้งหลังสุด | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
เรื่องราวของทีมม้ามืดทั้ง 5 ทีมในฟุตบอลโลกครั้งก่อนหน้านี้


ยอดทีมแห่งเมืองหลวง

แม้ว่าโครเอเชียเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่แยกออกมาจากยูโกสลาเวีย ที่มีประชากรเพียงราวๆ 4 ล้านคนเท่านั้น แต่ในเรื่องของฟุตบอลชาวโครแอตถือว่าเป็นประชากรที่มีคุณภาพ

พวกเขาคือประเทศที่คลั่งไคล้ฟุตบอล เด็ก ๆ ชาวโครแอตเติบโตขึ้นมา โดยมีฟุตบอลเป็นเป้าหมายเบอร์หนึ่งในเรื่องกีฬา อีกทั้งครอบครัวพวกเขายังพร้อมสนับสนุนให้ลูก ๆ เดินบนเส้นทางของนักฟุตบอลอาชีพ

“เมื่อคุณลืมตาดูโลกสิ่งแรกที่คุณจะได้จากพ่อคือลูกฟุตบอล มันอยู่ในสายเลือดของพวกเรา” เวดราน ชอร์ลูก้า กองหลังชุดรองแชมป์โลก 2018 อธิบาย

“(ชาวโครแอต) ทุกคนเป็นแบบนั้น บนท้องถนนคุณจะเห็นเด็กๆ กำลังเตะฟุตบอลกัน และฐานะที่เคยเป็นเด็กคนหนึ่ง พวกเราอยากที่จะยิงประตูได้และเล่นเป็นกองหน้า นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงมีผู้เล่นเกมรุกดีๆ มากมาย"

Photo : Goal

และหนึ่งในสโมสรที่ช่วยขับเคลื่อนวงการฟุตบอลของพวกเขาก็คือ ดินาโม ซาเกร็บ ยอดทีมแห่งเมืองหลวง เจ้าของแชมป์ลีกสูงสุด 23 สมัย

พวกเขาคือสโมสรที่มีมาตั้งแต่สมัยยังเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย โดยก่อตั้งครั้งแรกในปี 1911 และลงเล่นในยูโกสลาฟเฟิสต์ลีก มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1920s และก้าวไปถึงแชมป์ลีกยูโกสลาเวียได้ถึง 9 สมัย

หลังจากโครเอเชียได้รับเอกราชในปี 1992 พวกเขาก็กลายเป็นมหาอำนาจของวงการฟุตบอลแดนโครแอต ที่ไม่ได้เฉพาะแค่จำนวนโทรฟีประดับตู้โชว์ของสโมสรเท่านั้น แต่ยังเป็นแกนกลางในการปั้นนักเตะขึ้นสู่ทีมชาติได้อย่างต่อเนื่องที่ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ราย

"หลายสโมสรทั่วโลกสามารถเรียนรู้วิธีการสร้างทีมของ ดินาโม ซาเกร็บ ได้ในเรื่องของการทำงานเกี่ยวกับผู้เล่นอายุน้อยๆ” เมียร์โก โจซิช อดีตผู้จัดการทีมชุดเยาวชนของ ดินาโม ซาเกร็บ อธิบาย

“พวกเขาทำมันได้ดีและไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับอนาคตของสโมสรเลย"  ... อะไรคือเคล็ดลับของพวกเขา ?

บ้านของเหล่านักสู้

หลังจากประกาศอิสรภาพในปี 1991 โครเอเชียต้องเผชิญกับสงครามและความไม่สงบตลอด 4 ปีหลังจากนั้น ซึ่งหล่อหลอมให้พวกเขามีจิตวิญญาณของนักสู้มาตั้งแต่เด็ก

“คุณสามารถพูดได้ว่าพวกเรามีดีเอ็นเอแบบเดียวกับเรอัล มาดริด เพราะพวกเราเดินหน้าสู้จนถึงวินาทีสุดท้ายอยู่เสมอ และพวกเราไม่เคยยอมแพ้” ลูก้า โมดริช กัปตันทีมชาติโครเอเชีย กล่าว

ดินาโม ซาเกร็บ ก็รู้ดีในจุดนี้ พวกเขามีความเข้าใจธรรมชาติของชาวโครแอต และมองสิ่งที่ดีที่คือการให้เด็กๆ เล่นไปตามอิสระและจินตนาการของตัวเอง โดยพวกเขาจะเป็นคนที่คอยให้คำแนะนำและชี้แนะไปในทางที่ถูกต้อง

Photo : Goal

“ความท้าทายในการสร้างพื้นฐานให้แก่กลุ่มเด็กในเมืองที่ไม่เข้าใจเรื่องการเคลื่อนที่และพื้นฐานทางด้านกีฬาน้อย แต่ในกรุงซาเกร็บมันแตกต่างออกไป หลายพื้นที่ในเมืองนี้ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่มันกลับทำให้เด็ก ๆ พัฒนาตัวเอง” อิวาน เคปซิก้า ผู้ช่วยผู้อำนวยการทีมอะคาเดมีกล่าว

“เพราะเด็กๆที่นี่จะออกกำลังกายทุกวัน โดยเฉพาะการเล่นฟุตบอลในรูปแบบของ สตรีทฟุตบอล (ฟุตบอลข้างถนน) พวกเขาจะมีเวลาให้กับมันตลอด ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเด็ก ๆ จะถูกรบกวนด้วยเทคโนโลยีบ้างก็ตาม”

ในช่วงแรกของระดับเยาวชน ดินาโม ซาเกร็บ จะส่งนักเตะลงเล่นในเกมอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้นักเตะได้เติบโตขึ้นมาอย่างเรียนรู้อย่างไม่กดดัน และเติบโตขึ้นมาตามธรรมชาติ จากนั้นเมื่อพวกเขาพร้อมและเข้าใจรูปแบบการเล่น จึงค่อยให้ซ้อมแบบเต็มรูปแบบและลงเล่นในเกมที่เป็นทางการมากขึ้น

อิวาน เคปซิก้า อดีตผู้อำนวยการอคาเดมีของ ดินาโม ซาเกร็บ เผยผ่านหนังสือ Croatian FF Development Program ว่าพวกเขามีรูปแบบการพัฒนาความสามารถในระยะยาว การโฟกัสไปในจุดที่สำคัญของแต่ละช่วงวัย มีขั้นตอนที่เหมาะสมกับการเติบโตของเด็ก ๆ เพื่อปรับรูปแบบการสอนให้เข้ากับช่วงวัยอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้พวกเขายังเน้นการใช้เวลากับลูกฟุตบอลให้มากที่สุด สร้างความทรงจำของกล้ามเนื้อด้วยการฝึกซ้อมที่สม่ำเสมอ มีระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ฝึกมากจนเกินไปหรือน้อยจนเกินไป

Photo : Bjelovar.live

ขณะเดียวกัน ก็มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างและส่งเสริมทักษะส่วนบุคคลและการพัฒนาความรู้ความเข้าใจ อยู่บนขอบเขตความสามารถของเด็ก ๆ แต่ละคน รวมถึงสร้างกิจกรรมที่ให้ความสนุกสนานในการเล่นฟุตบอลไปพร้อมกัน

“แผนในการพัฒนานักฟุตบอลภายในประเทศของโครเอเชีย กำหนดให้โค้ชมุ่งฝึกสอนทักษะในแนวทางเดียวกัน สำหรับแต่ละช่วงอายุของเด็ก โดยมีสมาคมฟุตบอล เป็นผู้สนับสนุนด้านเทคนิค ขณะที่สโมสรทั้งหมดในโครเอเชียก็เห็นพ้องต้องกันกับแผนนี้” โรมีโอ โจแซค หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของสมาคมฟุตบอลโครเอเชียกล่าวกับ BBC

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขาแข็งแกร่ง ... เพราะของแบบนี้ต้องตัดสินใจให้ถูกที่ ในเวลาที่สมควร และช่วงวัยที่เหมาะสม ซึ่งนี่กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเด็ก ๆ ของพวกเขา

ปล่อยยืมเพื่ออนาคต

อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เด็ก ๆ จาก ดินาโม ซาเกร็บ พัฒนาอย่างต่อเนื่องนั่นคือการพยายามให้ผู้เล่นได้มีโอกาสสัมผัสเกมการแข่งขันที่แตกต่างจากเดิมมากขึ้น ด้วยการปล่อยให้สโมสรต่าง ๆ ยืมตัวไปใช้งาน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเป็นนักเตะอาชีพ พัฒนาวิธีคิด รูปแบบการเล่น และจิตใจ

พวกเขารู้ว่าเด็ก ๆ เหล่านี้ไม่ได้มีศักยภาพที่จะพัฒนาขึ้นไปสู่การเป็นผู้เล่นอาชีพได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นการปล่อยยืมน่าจะทำให้เห็นผลได้มากที่สุด เนื่องจากเด็ก ๆ จะได้เจอกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง ทั้งโค้ช แผนการเล่น เพื่อนร่วมทีม หรือแม้กระทั่งแฟนบอล ซึ่งเป็นเหมือนการพาเด็ก ๆ มาพบกับกำแพงขนาดยักษ์ว่าคุณสามารถปีนข้ามมันได้หรือไม่? หรือ คุณมีศักยภาพพอหรือยังในการเล่นให้กับทีมชุดใหญ่?

แต่การจะปล่อยเด็กให้ไปผจญภัยในลีกต่าง ๆ ล้วนผ่านการคิด วิเคราะห์ คัดกรอง อย่างถี่ถ้วน ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ

อย่างแรก สโมสรต้องมั่นใจในตัวเด็กคนนี้ ว่าหากพวกเขาส่งเด็กคนนี้ไปแล้ว เด็กคนนี้จะได้อะไรกลับมาบ้าง หรือมองว่าเด็กคนนี้เหมาะสมกับลีกอะไร หากส่งไปแล้วสามารถแก้ไขจุดอ่อน จุดบกพร่องของเขาได้หรือไม่ หรือสามารถจะทำให้เด็กคนนี้พัฒนาฝีเท้าได้เท่าที่ควรหรือเปล่า ซึ่งต้องยืนอยู่บนรากฐานที่ทางสโมสรวางเอาไว้ นั่นคือ การเอาตัวรอด ได้รับประสบการณ์ และการปรับตัว

หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ ลูก้า โมดริช เขาคือนักเตะเยาวชนที่ถูกปล่อยให้ทีม เฮชเอสเค ซรินจ์สคิ มอสตาร์ ในลีกบอสเนีย ยืมตัวไปใช้งาน ด้วยวัยเพียง 17 ปี

Photo : Goal

อันที่จริง ลีกบอสเนียฯ นั้นขึ้นชื่อเรื่องเกมที่รุนแรง เข้าบอลกันแบบถึงลูกถึงคน ไม่มียั้ง จนมีคำพูดที่เด็ก ๆ ในทีมอะคาเดมีของ ซาเกร็บ ต่างรู้กันดีว่า “หากคุณสามารถเล่นที่ลีกบอสเนียฯได้ ไม่ว่าลีกไหนบนโลกนี้คุณก็จะสามารถเล่นได้”

และ โมดริช ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ในขณะนั้นเขามีจะรูปร่างที่เล็กและผอมบาง แต่ก็สามารถเก็บเกี่ยวเอาประสบการณ์ที่ช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้น ก่อนจะย้ายจาก ดินาโม ซาเกร็บ ไปเล่นให้ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

“เมื่อมีคนพูดถึงเรื่องที่ผมตัวเล็กและแข็งแรงไม่พอที่จะเล่นในพรีเมียร์ลีก มันยิ่งทำให้ผมอยากลบคำสบประมาทเหล่านั้น และตอนนี้ผมว่าคนพวกนั้นคิดผิดแล้วล่ะ” โมดริช กล่าว กับ เดลี เมล์ ในช่วงแรกที่เขาย้ายไปอังกฤษ

ก่อนที่มันจะทำให้พวกเขากลายเป็นแท่นพิมพ์ผลิตนักเตะสู่ทีมชาติโครเอเชีย

แกนหลักขุนพลหมากรุก

การพัฒนานักเตะอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำให้ ดินาโม ซาเกร็บ สามารถผลิตนักเตะสู่ทีมชาติอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของความสำเร็จของทีมชาติโครเอเชีย มาตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 1998 ซึ่งมีนักเตะอยู่ในทีมชุดนั้นถึง 11 คน

เช่นกันกับฟุตบอลโลก 2018 ที่ขุนพลตราหมากรุกไปถึงตำแหน่งรองแชมป์โลก พวกเขาก็มีนักเตะของทีมทั้งอดีตและปัจจุบัน อยู่ในทีมถึง 14 คน นำโดย ลูก้า โมดริช, เดยัน ลอฟเรน, มาริโอ มานด์ซูคิช, มาเตโอ โควาซิช, และ มาร์เซโล่ โบรโซวิช

แน่นอนว่าฟุตบอลโลก 2022 ที่กรุงกาตาร์ในครั้งนี้ ดินาโม ซาเกร็บ ก็ยังเป็นแกนหลักในการผลิตนักเตะสู่ทีมชาติของพวกเขา ด้วยการมีนักเตะทั้งศิษย์เก่าและปัจจุบัน ทีมดังแห่งเมืองหลวงโครเอเชียมากถึง ถึง 16 คน มากกว่า ฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วเสียอีก

Photo : The Star

เรียกได้ว่าระบบอคาเดมีและการพัฒนาเยาวชนของ ดินาโม ซาเกร็บ ยังคงเดินหน้าต่อไป รวมถึงส่งผู้เล่นระดับเยาวชนไปพิสูจน์ตัวเองในยุโรปอย่างต่อเนื่อง และ บอร์น่า โซซ่า รวมถึง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ก็คือตัวอย่างล่าสุด

“เครดิตส่วนใหญ่ต้องให้โค้ช แต่เราก็แสดงให้เห็นสายตาที่ดีในการมองเห็นผู้เล่นพรสวรรค์ เราไม่สามารถขาดผู้เล่นพรสวรรค์ได้เลย” โรเมโอ โยซัค อดีตผู้อำนวยการอคาเดมี ดินาโม ซาเกร็บ กล่าว

“หลายปีที่ผ่านมา อคาเดมีของเรา ได้รับการยกย่องให่เป็นหนึ่งในหกโรงเรียนฟุตบอลที่ดีที่สุดในยุโรป เคียงข้างสโมสรอย่าง บาร์เซโลนา อินเตอร์ อาร์เซนอล และสปอร์ติง

“เราทำงานด้วยงบประมาณราว 1 ล้านยูโรต่อปี ขณะที่สโมสรอื่นใช้งบมากกว่า 8 ล้านยูโรต่อปี”

ก็ต้องมารอดูว่า โครเอเชีย จะทำได้ดีแค่ไหนในค่ำคืนนี้ กับการพบกับขวากหนามสำคัญอย่างอาร์เจนตินา ที่นำโดย ลีโอเนล เมสซี หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกที่กำลังมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์โลก ก่อนยุติเส้นทางนักเตะอาชีพ

อย่างไรก็ดี หากขุนพลหมากรุกทำได้สำเร็จ นอกจากประวัติศาสตร์จะได้จารึกแล้ว ชื่อของ ดินาโม ซาเกร็บ ก็คงจะถูกขับขานอีกครั้ง ในฐานะกุญแจสำคัญที่ช่วยผลักดันวงการฟุตบอลโครเอเชีย เสมอมา และเสมอไปต่อจากนี้

แหล่งอ้างอิง

https://www.transfermarkt.com/

https://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AF%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94/blt98645d88095e2a37?fbclid=IwAR2PKv_XiCnImNb_IiAGW5dLszlwj5lAzVjEwcf_wAHbyWyRZp5S5SqQ2dU)

https://www.bbc.com/news/world-europe-22338370

https://www.slideshare.net/ivankepcija/ivan-kepcija-croatian-ff-development-program

https://cdn1.sportngin.com/attachments/document/bdb6-2215857/Croatia_Juniors_Curriculum.pdf

https://breakingthelines.com/academy-analysis/dinamo-zagreb-the-most-underrated-academy-in-europe/

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด

Content Creator - คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ