ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี : น้องใหม่ใจใหญ่แห่งไทยลีก 2 ที่ขอทุ่มสุดตัวเพื่อล่าฝันไปไทยลีก

ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี : น้องใหม่ใจใหญ่แห่งไทยลีก 2 ที่ขอทุ่มสุดตัวเพื่อล่าฝันไปไทยลีก
admin

"ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี" คือน้องใหม่ไทยลีก 2 ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แผนการสร้างทีมในระยะยาวที่ออกแบบโดย "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตศูนย์หน้าระดับตำนานทีมชาติไทย ในฐานะประธานฝ่ายยุทธศาสตร์ของสโมสร รวมถึงขุมกำลังของทีมที่ดึงนักเตะดีกรีระดับไทยลีกเข้ามาเสริม

แต่การลงเล่นในไทยลีก 2 ฤดูกาลนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับน้องใหม่จากลีกภูธร โดยเฉพาะฟุตบอลไทยในเวลานี้อยู่ในภาวะวิกฤต จากการไร้ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด โดยเฉพาะไทยลีก 2 ที่เป็นเหมือน “บันไดขั้นสุดท้าย” ก่อนก้าวไปสู่ลีกสูงสุดของประเทศ

แต่สำหรับ ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี พวกเขามีที่มาที่ไปอย่างไร รวมไปถึงแนวคิดฝ่าทางออกจากวิกฤต เพื่อเป้าหมายในการ “เดินทางไกล” สู่ไทยลีก คิดไซด์โค้ง – Think Curve จะขอพาทุกคนมารู้จัก "มังกรไฟ" ตัวนี้ให้ดียิ่งกว่าเดิม

ระยะฟักตัว

จุดเริ่มต้นของ ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี คือการส่งทีมแข่งขันในเวทีอเมเจอร์ลีก ในนาม "สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี" โดยมี พ.ต.ท. มานะ สำราญวงศ์ นายตำรวจมือปราบคนดัง ก่อตั้งทีมและส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันตั้งแต่ปี 2017 โดยเป็นการรวมตัวแข้งเดินสายในจังหวัดเพื่อเปิดโอกาสให้กับ นักฟุตบอลในจังหวัดกาญจนบุรีได้มีโอกาสเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

บนเส้นทางลีกสมัครเล่นปีแรก พวกเขาหวุดหวิดที่จะเป็นแชมป์โซนย่อย เมื่อคะแนนห่างจากทาง ทวีวัฒนา เอฟซี เพียง 5 คะแนน แต่ทีมก็ยังไม่ย่อท้อและส่งแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสามารถคว้าตั๋วเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 4 (ในขณะนั้น) ได้สำเร็จ ในฐานะรองแชมป์อเมเจอร์ลีก โซนภาคตะวันตก เมื่อปี 2019 ก่อนที่ต่อมาจะมีการรวมลีก และลงเล่นในไทยลีก 3 โดย ได้ คุณภาคภูมิ กาญจนรัตกุล นักธุรกิจหนุ่มในจังหวัด เข้ามาบริหารทีม พร้อม ๆ กับ การดึงตัว พันธุ์นารายณ์ พันธุ์ศิริ อดีตนักวิเคราะห์เกมของทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ชิมลางการเป็นกุนซือหนแรกในชีวิตที่นี่

โดยปีนั้นทำผลงานได้ไม่เลว เมื่อจบอันดับ 4 ของโซนภาคตะวันตก ในฤดูกาล 2020/21 กระทั่งในฤดูกาลต่อมา ทีมมีความร่วมมือกับ "เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด" อดีตทีมเอกของเมืองกาญจน์ โดยได้กำลังหลักบางส่วนจากทีมชุดรองแชมป์ไทยลีก 3 เข้ามาเติมทีม ซึ่งพวกเขาบินไกลจนเป็น "แชมป์เลกแรก" ของโซน

แต่เมื่อ ทีมพี่อย่างเมืองกาญจน์ฯ มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก ทำให้การเป็นพันธมิตรต้องจบลง และต้องคืนสิทธิ์ให้เจ้าของทีมเดิมเข้ามารับช่วงต่อจนจบฤดูกาล ผลงานของทีมจึงตกลงเรื่อย ๆ จนจบอันดับ 4

ยิ่ง เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด โดนปรับตกคลับ ไลเซนซิ่ง หมดสิทธิ์เล่นไทยลีก 2 ด้วยปัญหาการเงิน ความหวังของคนเมืองกาญจน์ที่จะได้ดูฟุตบอลดี ๆ ที่บ้านของตัวเอง ก็เลือนลางลงไปทุกขณะ....

ระยะฝึกบิน

สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี ดูจะเคว้งคว้างอยู่นานถึงอนาคตที่ไม่ชัดเจน กระทั่งการเข้ามาของ พลกฤต กล่ำเครือ นักธุรกิจผู้ก่อตั้ง "ดราก้อนเอ็นเนอร์จี" บริษัทผู้นำนวัตกรรมโซลาร์เซลล์ เข้ามาชุบชีวิตทีมให้เดินหน้าต่อไป พร้อมกับเปลี่ยนชื่อทีมจาก "สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี" เป็น "ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี" ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้ามาทำทีมฟุตบอล ไม่ใช่เรื่องของ CSR เพียงอย่างเดียว แต่เป็นความ "บ้าฟุตบอล" และความเป็น "คนเมืองกาญจน์" อยู่ในการตัดสินใจครั้งนี้

"ผมเองเป็นคนชอบฟุตบอล แต่ไม่ได้อยากเป็นประธานสโมสรฟุตบอล ไม่มีสักนิด ไม่มีความคิดเลย เพราะรู้เลยว่าถ้าในการเดินแผนธุรกิจ มันติดลบตั้งแต่คิด มันไม่ควรจะทำ แต่ด้วยวิกฤตของบอลในจังหวัด และเราทำ CSR เราได้ไปสนับสนุนมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทยของพี่ตุ๊ก (ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน) แล้วเห็นว่าวันหนึ่งถ้าเรามีโอกาส เราอยากจะช่วยได้มากกว่านี้ และเราเป็นคนชอบทำ ไม่ชอบพูด เอาเวลาที่มานั่งวิจารณ์ มานั่งว่าคนนั้น คนนี้ เอาเวลาพวกนั้นมาทำให้มันรู้ไปเลยดีกว่า" ตัวตนของ พลกฤต สะท้อนผ่านการพูดในงานเปิดตัวสโมสรเมื่อไม่นานมานี้

การมี "ดราก้อน" ในชื่อของสปอนเซอร์หลัก ทุกคนพอเข้าใจได้ แต่การมี "ปทุมวัน" ในชื่อทีม ความสงสัยเกิดขึ้นว่าเกี่ยวข้องอะไร? คำตอบนั้นอยู่ในความร่วมมือในการที่จะพัฒนานักฟุตบอลให้มีทักษะเป็นเลิศ และมีอาชีพติดตัวในการพัฒนาคน พัฒนาสังคม นั่นจึงเป็นที่มาของการร่วมมือกับทาง สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ที่มีแผนจะตั้งศูนย์การศึกษาที่ ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี ในการร่วมมือเรื่องของการศึกษาให้กับนักฟุตบอลอะคาเดมี่ของทีม ให้มีทักษะอาชีพที่พร้อมจะรองรับตลาดแรงงานช่างฝีมือในอนาคต

และอีกสิ่งหนึ่งที่มาจากการช่วยเหลือมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทย จึงเป็นที่มาของการได้ ศูนย์หน้าระดับตำนานของทีมชาติไทย เข้ามาร่วมงาน...

เริ่มสยายปีก

ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เริ่มต้นเดินทางในไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก ภายใต้การนำของ พันธุ์นารายณ์ พันธุ์ศิริ ที่กลับมาเป็นกุนซือให้ทีม และได้ทาง ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เข้ามาเป็นประธานฝ่ายยุทธศาสตร์ของทีม โดยวางแผนสร้างทีมระยะยาว 5 ปี เพื่อเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด

ชื่อของผู้เล่นหลายคนอย่าง ปรัชญ์ สมัครราช อดีตกองหลังทีมชาติไทย, ชินพงษ์ รักษี นายทวารอดีตแข้งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สิริชัย ลำพุทธา ดาวยิงภูธรพันธุ์ดึก, ไทกะ มัตสึนางะ ปีกปลาดิบพิฆาตมาร, เซอร์เก้ ตูมาซิยาน หอกชาวรัสเซีย มาผสมผสานกับแข้งมีชื่อในจังหวัด ทั้ง อนุสรณ์ พรมประสิทธิ์ มิดฟิลด์ฮาร์ตแมน เข้ามาเติมแต่งทีมให้มีสีสัน

ทว่าผลงานในช่วงแรกกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด จนมีการเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนมาเป็น ใหญ่ นิลวงษ์ เฮดโค้ชเลือดเมืองกาญจน์ ซึ่งนัดแรกแม้จะออกสตาร์ทไม่ดีมากนัก แต่จากนั้นทีมคว้าชัยถึง 16 เกม ยิงไปกว่า 62 ประตู พลิกสถานการณ์คว้าแชมป์โซนภาคตะวันตกได้สำเร็จ และคว้าตั๋วไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีกสมัยแรก ก่อนที่จะพลิกสถานการณ์ในรอบแชมเปี้ยนส์ลีกและจบด้วยรองแชมป์โซนล่าง แซงหน้าขาประจำและตัวเต็งมากมาย

ซึ่งด่านใหญ่สำคัญคือการชิงตั๋วใบสุดท้ายกับ พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์โซนบน ที่มีดีกรีแชมป์โซนตะวันออก 2 สมัย ซึ่งเกมแรกพวกเขาตกเป็นรองด้วยการบุกแพ้ พัทยา ดอลฟินส์ฯ ไปก่อน 1-0 ก่อนจะพลิกสถานการณ์กลับมาชนะในบ้าน 3-1 ชนิดที่สะใจทั้งกองเชียร์ พร้อมกับตีตั๋วเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ได้สำเร็จ

บินฝ่าความมืด

กับฤดูกาลใหม่ พวกเขายอมรับว่า แผนงานการเดินทางไกลของทีมมาเร็วกว่าที่คิด ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ปธ.ฝ่ายยุทธศาสตร์ มองว่าเป็นเรื่องของ "ฟุตบอลตกใจ" ที่ทำให้ทีมมาได้ไกลในระยะเวลาอันสั้น

"เป้าหมายการวางยุทธศาสตร์เริ่มแรกคือ T3 เป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างยาก ซึ่งผมไม่ค่อยรู้เพราะอยู่กับ T1 มาโดยตลอด พอมาคลุกคลีกับ T3 ต้องยอมรับว่ายากที่สุด ในการที่จะพาทีมเลื่อนชั้นไปได้ เรามาประชุมกันก็ขอเวลา 3 ปี เพื่อจะพาทีมขึ้นสู่ T2 ให้ได้ แต่เผอิญว่า 3 ปี ผมจะเรียกว่า ฟุตบอลตกใจ คือปีเดียวขึ้น T2 เลย เพราะคิดว่า 3 ปี ขึ้น T2 ได้"

ทว่ากับสถานการณ์ฟุตบอลไทยที่ ไทยลีก 2 กลายเป็นสินค้าที่ไม่มีค่า เมื่อทาง ไทยลีก ตัดสินใจยกสิทธิ์ให้บรรดาสโมสรไปจัดการสิทธิประโยชน์การถ่ายทอดสดเอง ทัพมังกรไฟและทุกสโมสรจึงต้องหาทางออกจากวิกฤต

"สิ่งที่เราคาดหวังว่า เราอยากจะเลื่อนชั้น มันมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ผู้ชมที่มากขึ้น การดูถ่ายทอดสดเยอะขึ้น แต่เมื่อมันเลื่อนขึ้นมาแล้วเจอวิกฤต ซึ่งผมเองเป็นคนนอกที่ทำธุรกิจอื่นแล้วดูฟุตบอลตลอด พอมาเจอปัญหาแบบนี้ มันตั้งรับยาก แล้วอย่างไรต่อ ยังงง ๆ นิดนึงว่า ไม่มีถ่ายทอดแล้วอย่างไรต่อ ไม่มีสปอนเซอร์เข้า เพราะสปอนเซอร์รายใหญ่ เขาต้องดูการเผยแพร่ตราสัญลักษณ์ ถูกเผยแพร่ไปในรูปแบบไหน ลำพังไปดูที่สนาม กว่าจะพันคน กว่าเห็นป้ายมันนานมากเลย” คุณพลกฤต เผยผ่านไลฟ์ของ Supersub Thailand

ในอีกมุม ทีมได้เรียนรู้ถึงหลายปัจจัยและเหตุผลของการถ่ายทอดสดการแข่งขันในระดับไทยลีก 3 ที่มีปัจจัยเรื่องของงบประมาณ อุปกรณ์ตลอดจน “อคติ” ว่าคู่แข่งจะไปจับทางได้ก็มี

“เราได้ทดลองทำไลฟ์ พร้อมๆ กับศึกษาเครื่องมือใช้งานต่าง ๆ และจริงๆ แล้วยอดการดูไลฟ์ก็สูง เราตั้งคำถามว่า ทำไมสโมสรในไทยลีก 3 เขาถึงไม่ทำไลฟ์กัน เพราะเจอปัญหาว่า เครื่องมือ งบประมาณ อุปกรณ์ต่าง ๆ และบางทีจะมีบางมุมว่าไลฟ์แล้วคู่แข่งจะรู้ อาจจะมีหลากหลายในความคิดเห็น แต่ผมกลับมองว่า มันทำให้สโมสรเผยแพร่ผลงานนักเตะได้เยอะขึ้น”

จากปัญหาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด และบวกพฤติกรรมการรับชมที่เปลี่ยนไป ทำให้ทีมตัดสินใจลุกขึ้นมาผลิตแพลตฟอร์มการถ่ายทอดสดเอง โดยมีการศึกษาวิธีการมาตั้งแต่ตอนที่แข่งขันไทยลีก 3 และถ่ายทอดสดผ่านเพจของทีม

“จริง ๆ ตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ไทยลีก 3 มีการศึกษาและทดลอง เพราะปัจจุบันโลกค่อนข้างจะเปลี่ยนไปเร็ว เข้าสู่ยุคโซเชียลมีเดีย ผมเองอยู่กับดิจิตอลมาตลอด และติดตามพวกนี้อยู่ในเทรนด์ตลอด ก็ได้ทดลองไลฟ์แบบภูธร มันก็จะรู้ว่า มันมีภาษาภาคท้องถิ่น มันมีเสน่ห์กลิ่นอายท้องถิ่นปนอยู่ ซึ่งมันหลายพื้นที่ มันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง”

“เราได้ทดลองไลฟ์มาตั้งแต่แรก อาจจะมีดีบ้างไม่ดีบ้าง มุมกล้องมีเสียบ้าง ก็ศึกษาไป จนเราพัฒนาและมาคิดว่า พอไม่มีการถ่ายทอดสด ไม่มีคนมาประมูล เราตั้งคำถามว่า แล้วเพราะอะไรถึงไม่มี แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่เป็นไร ก็ลองลุกขึ้นมาทำเอง เราก็มองไว้สองส่วน คือ พอเป็นไทยลีก 2 ยอดคนดู คนสนใจเยอะขึ้น เพราะฉะนั้น โปรดักชั่นแบบ กล้องตัวเดียว คอมฯ เครื่องเดียว อาจจะดูไม่ค่อยน่าสนใจ มุมกล้อง, ภาพช้า, สกอร์บาร์ มันเป็นองค์ประกอบทั้งหมด”

“ผมมองว่า ฟุตบอลเป็นคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ไม่น่าเชื่อว่าฟุตบอลเดินสายที่ กาญจนบุรี คนดู 80,000 คน ที่ ส.คำมี จัด เรามานั่งคิดว่า ถ้าจำนวนคน 80,000 คน เข้ามาดูในสนาม มันสวยงามมากเลย มันดูดี แต่ในออฟไลน์มันเป็นไปได้ยาก ในขณะเดียวกัน เครื่องมือหรือโลกดิจิตอล สามารถทำให้คนดูเยอะขึ้น แล้วการดูแบบ Live Streaming มันดูได้ทั่วโลก แต่คอนเทนต์มันต้องมาตรฐานพอ ผมว่ามันคือโอกาสที่อยากให้หลายสโมสรลุกขึ้นมาทำ”

จากหลายองค์ประกอบดังกล่าว ส่งผลทำให้ทีมตัดสินใจคิดค้นระบบหลังบ้านและแอปพลิเคชัน และได้มีการทดลองไลฟ์ผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี แต่แอปพลิเคชันก็ยังไม่ใช่หนทางหลักอย่างเดียวในกระจายการเข้าถึงการแข่งขัน การถ่ายทอดผ่านพันธมิตรต่าง ๆ รวมไปถึงฟรีทีวี ก็ยังจำเป็นต่อการขยายการเข้าถึงซึ่งจะได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมาอีก

"และด้วยฟุตบอลไทยลีก 2 มีโควต้าอาเซียน เรามองว่าเป็นโอกาส ถ้าเราถ่ายทอดในสื่อที่มันเข้าถึงง่าย มันจะเป็นแนวร่วม อาจจะขายเสื้อไปที่ประเทศเพื่อนบ้านได้ มีแฟนบอลต่างประเทศรับชมเรามากขึ้น และนักฟุตบอลเองก็อยากมีคนดู มันจะเป็นโอกาสให้น้อง ๆ เยาวชนในทีม มีโอกาสที่จะไปต่อและร่วมมือในระดับต่างประเทศต่าง ๆ และเมื่อมีความร่วมมือ การพัฒนาต่าง ๆ คนแห่มาดูฟุตบอลบ้านเรา จีดีพีของจังหวัดจะโตขึ้น ทำให้ภาพรวมของการกระตุ้นเศรษฐกิจของ จ.กาญจนบุรี ของเราดีขึ้น” บอสใหญ่ทัพมังกรไฟ เปิดเผยในงานแถลงข่าว

ในสถานการณ์ที่ฟุตบอลไทย โดยเฉพาะลีกล่างที่ยังวิกฤตและไม่มีที่ไป การสนับสนุนของแฟนบอล ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกสโมสรต้องการ ซึ่งจุดแข็งของ ทีมลูกหนังกาญจนบุรี คือการมีแฟนบอลที่คอยสนับสนุนทีมไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใดก็ตาม

แต่นั่นอาจจะไม่ใช่กับทุกคนที่ไม่มีเวลาไปชมที่สนามหรือเดินทางตามไปเชียร์ทีมอย่างต่อเนื่อง การถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันจึงเป็นทางออกสำคัญที่จะขยายการรับรู้ของทีม และช่วยสร้างมูลค่าการแข่งขันให้สูงขึ้น อย่างที่ ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี ทำในฤดูกาลนี้

และหากใครอยากจะรู้จักขุนพลทัพมังกรไฟตัวนี้ให้ยิ่งขึ้นกว่าเดิม กับการรับชมการแข่งขันไทยลีก 2 ของ ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี ผ่านการถ่ายทอดสดผ่านเพจ คิดไซด์โค้ง – Think Curve โดยเริ่มต้นกับเกมที่ทีมจะเปิดบ้านลับแข้งกับ อยุธยา ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมนี้ เวลา 18.30 น. ติดตามรับชมผ่านช่องทาง Facebook และ Youtube ของ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ