อนาคตเริ่มมีหลายทาง : มาโน่ โพลกิ้ง จะไปลีกเวียดนามหรือคุมทีมชาติไทยต่อ ?

หาก มาโน่ โพลกิ้ง มีสัญญาระยะยาวกับทีมชาติไทยเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ... ในความจริงคือ มาโน่ มีสัญญากับทีมชาติไทยถึงปี 2023 และถึงแม้จะไม่ระบุว่าเป็นเดือนไหน มีเพียงการระบุว่าสัญญาสิ้นสุดในปี 2023 เท่านั้น

แต่ที่เเน่ ๆ ตามหลักการที่วงการฟุตบอลทั่วโลกยึดถือและปฎิบัติมาโดยตลอดก็คือหากนักเตะ หรือโค้ช เหลือสัญญากับต้นสังกัดไม่ถึง 6 เดือน พวกเขาจะสามารถเจรจากับทีมอื่น ๆ เพื่อเป็นลู่ทางการย้ายทีมได้ทันที

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ มาโน่ โพลกิ้ง ในเวลานี้ นั่นคือเขาสามารถเปิดกว้างและเจรจากับทุก ๆ ทีมบนโลกนี้ได้ และหนึ่งในทีมที่ให้ข่าวก็คือ ฮานอย เอฟซี หนึ่งสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนามนั่นเอง

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ลือ สื่อเวียดนามอย่าง Dantri อ้างบทสุมภาษณ์ว่าผู้บริหารสโมสรที่ "มีเงิน" แห่งวีลีกได้ให้สัมภาษณ์กับพวกเขาว่า "ผมหวังว่า มาโน่ โพลกิ้ง จะเซ็นสัญญากับเราภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากนี้"

หลังจากข่าวนี้ออกมาก็มีการพูดคุยกันอย่างหนาหนูโดยเฉพาะในมุมมองของสื่อเวียดนาม มีการโยงเรื่องราวกันว่า มาโน่ นั้นเองก็คุ้นเคยกับงานที่ประเทศเวียดนามเป็นอย่างดีจากการทำงานกับ โฮจิมินห์ ซิตี้ มาแล้วในช่วงปี 2020-21 ก่อนที่เขาจะมาคุมทีมชาติไทย นอกจากนี้ มาโน่ ก็เคยเข้าไปชมเกมการแข่งขันระหว่าง คองอันห์ ฮานอย กับ ฮานอย เอฟซี ที่ถือว่าเป็น ฮานอย ดาร์บี้ ถึงสนามมาแล้วในช่วงต้นปีที่ผ่านมาอีกด้วย

เรื่องดังกล่าวจึงทำให้ ไทย ที่ยังออกลูกกั๊ก ๆ ว่าที่สุดแล้ว มาโน่ โพลกิ้ง จะได้สัญญาใหม่หรือไม่ ก็ต้องทบทวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนกันเลยทีเดียว เพราะว่าในเมื่อ มาโน่ มีดีกรีแชมป์ AFF 2022 2 สมันติดตัวอยู่เขาจึงกลายเป็นคนถือไพ่เหนือกว่าในทันที

มาโน่ ว่ายังไง ?

หลังจากมีข่าวลือที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากความมั่นใจของฝั่งเวียดนาม มาโน่ ก็ให้สัมภาษณ์ว่า "ข่าวลือเรื่องดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นเลยหากทางสมาคมฟุตบอลไทยระบุชัดเจนว่าต้องการอะไรจากผม"

อันที่จริงงานของ มาโน่ ที่ทางสมาคมวางไว้คือ หลังจากที่เขาคุมทีมลงเล่น AFF2022 แล้วจะต้องพาทีมลงเเข่งขันในรายการ เอเชี่ยน คัพ 2023 ที่กำหนดการเดิมคือจะแข่งขันกันในช่วงเดือน มิถุนายน ถึงเดือน กรกฎาคม ปี 2023 ดังนั้นสัญญาที่ มาโน่ เซ็นสัญญากับไทยไว้จึงครอบคลุมทุกรายการสำคัญ

นั่นหมายความว่าทีมชาติมีสิทธิ์ที่จะเลือกว่าจะใช้งาน มาโน่ คุมทีมต่อไปหรือไม่ โดยปัจจัยหลัก ๆ ก็คือผลงานในรายการ เอเชี่ยน คัพ เป็นหลัก .. ทว่าเมื่อการแข่งขันจาก เอเชี่ยน คัพ 2023 เลื่อนการแข่งขันเป็นต้นปี 2024 ดังนั้น สัญญาเดิมจึงไม่ได้ครอบคลุมรายการ เอเชี่ยคัพ ดังนั้นทางฝั่งสมาคมก็ต้องคิดหนักในการยื่นข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่ให้กับ มาโน่ เพราะถ้าหากตกลงสัญญากันยาวไป และผลงานของ เอเชี่ยน คัพ ที่แข่งกันตั้งแต่หลังการต่อสัญญาใหม่ออกมาไม่ดี การเปลี่ยนโค้ชใหม่อีกครั้งก็คงจะเป็นเรื่องยากเป็นเงาตามตัว

"ผมไม่ใช่โค้ชที่สมบูรณ์แบบ มันถูกต้องที่เราแพ้ในบางเกมที่อาจไม่จำเป็น แต่ผมรู้ว่าเมื่อถึงเวลาสำคัญเราสามารถทำผลงานในการแข่งขันได้ และสไตล์การเล่นของเราเหมาะกับทีมชาติไทย” มาโน่ กล่าว

ขณะที่ฝั่งสื่อของเวียดนามก็มีการพาดหัวข่าวว่า "มาโน่ โพลกิ้ง พูดถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนของเขา"

โดยในเนื้อข่าวของฝั่งเวียดนาม มีการเพิ่มบทสัมภาษณ์เข้ามาว่า “สิ่งเดียวที่ต้องการในตอนนี้คือขอโอกาสได้พาทีมไปแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย หากทำผลงานได้ไม่ดี ผมพร้อมที่จะออกมา"

"ผมต้องการคือการต่อสัญญาและพาทีมชาติไทยเข้าไปเล่นในรายการเอเชี่ยนคัพ 2023 แต่ถ้าการเจรจาไม่บรรลุและไม่เกิดขึ้น ผมก็จะเป็นคนออกไป" มาโน่ คอนเฟิร์มด้วยตัวเอง

จากการให้สัมภาษณ์ก็จะเห็นว่าใจของมาโน่ นั้นก็อยากที่จะคุมทีมชาติไทยต่อไป แต่ว่าเรื่องของอนาคตก็เป็นอะไรที่ไม่แน่นอน ดังที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้นคือสัญญาฉบับเดิมมันไม่ต่อเนื่องไปถึงช่วง เอเชี่ยน คัพ ทำให้การตัดสินใจยากขึ้น และดูเหมือนว่า มาโน่ เองก็รู้ตัวเหมือนกันเขาถึงได้บอกว่าหากการ เจรจาไม่ลุล่วงเขาก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายเดินจากไปเช่นกัน

ได้เวลาสมาคมรับลูก

เมื่อ มาโน่ โยนความกดดันมาแบบนี้ ก็ได้เวลาที่สมาคมฟุตบอลไทยต้องออกแอ็คชั่นบ้าง พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคม ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้ด้วยตัวเองทันที ว่าเรื่องนี้จะถูกเอามาถกกันอีกครั้ง กับมาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ที่เป็นผู้จัดการทีมชาติไทย

“มาโน่ ได้ส่งข้อความมาแจ้งแล้วว่ามีความสุขในการทำงานกับ ทีมชาติไทย และกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถมยังบอกด้วยว่ามีความมั่นใจว่าจะทำผลงานในเอเชี่ยนคัพ 2023 ได้ดีอย่างแน่นอน” สมยศ กล่าว

“ส่วนเรื่องสัญญาต้องหารือร่วมกับคุณ นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะที่เป็นผู้จัดการ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เพราะต้องมีการตกลงร่วมกัน คาดว่าจะมีการคุยกันจะเร็วๆ นี้ เพราะที่ผ่านมาติดช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงยังไม่ได้พูดคุย”

จากแอ็คชั่นนี้ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสมาคมฟุตบอลไทยยังต้องการต่อสัญญากับ มาโน่ โพลกิ้ง ออกไปอยู่ จากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งข่าวจากทางเวียดนามหรือคำให้สัมภาษณ์ของของโค้ชมาโน่ ก็ทำให้ สมาคมต้องเร่งมือกับเรื่องนี้ เพื่อหาทางออกของเรื่องอย่างเร็วที่สุด เพราะการเปลี่ยนม้ากลางศึกแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ เพราะระยะเวลาจากวันนี้ถึง เอเชี่ยน คัพ ก็จะเหลือเวลาราว ๆ 7-8 เดือนเท่านั้น ซึ่งอาจจะน้อยเกินไปสำหรับโค้ชคนใหม่ในกรณีที่ไม่ต่อสัญญามาโน่ เพราะกว่าที่ มาโน่ จะหมดสัญญาก็ต้องว่ากันถึงช่วงสิ้นปีเลยทีเดียว

นั่นคือสิ่งที่สมาคมจะต้องตัดสินใจว่าจะใช้ มาโน่ โพลกิ้ง ไปยาว ๆ , จะใช้แค่ศึก เอเชี่ยน คัพ หรือ เปลี่ยนโค้ชใหม่ทันทีนับตั้งแต่วันที่เขาหมดสัญญา

จากที่อ่านจากปฎิกิริยาของทั้ง มาโน่ และ สมาคมฯ เชื่อว่าโอกาสต่อสัญญากับ มาโน่ โพลกิ้ง น่าจะมีสูงกว่าไม่ต่อสัญญาและเลือกโค้ชคนใหม่ อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจก็คือเรื่องของรายละเอียดสัญญาว่าของ มาโน่ ฉบับใหม่มากกว่า ที่จะออกมาในรูปแบบไหน เพราะความล้มเหลวในเอเชี่ยนคัพ ก็ถือเป็นสิ่งที่สมาคมสามารถตัดสินอนาคตของเขาได้เช่นกัน