เบื้องหลังประเดิมตัวจริง : เอกนิษฐ์ดีใจและผิดหวัง ในเวลาเดียวกัน
หลังจากย้ายมาอยู่กับ อูราวะ เร้ด ไดมอนส์ 1 ปีเต็ม ๆ ในที่สุดช่วงเวลาที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา ตั้งตารอก็มาถึง เมื่อเขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมเจลีกเป็นครั้งแรก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ เจ้าบุ๊ค ได้สัมผัสเกมลีกญี่ปุ่นแค่บทบาทตัวสำรองเท่านั้น ส่วนใหญ่จะถูกส่งลงสนามท้ายเกมแค่ไม่กี่นาที แต่คราวนี้ แพร์-มาเธียส เฮกโม โค้ชของอูราวะ กลับทำเซอร์ไพรส์เลือกเขาเป็น 1 ใน 11 นักเตะตัวจริง ในแมทช์เปิดบ้านรับการมาเยือนของ โชนัน เบลมาเร่
แน่นอนว่า เอกนิษฐ์ ดีใจมากกับโอกาสที่ได้รับ เพราะเขาทำงานหนักมาเพื่อสิ่งนี้ แถมยังได้ลงเล่นต่อหน้ากองทัพแฟนบอลสีแดงของ อูราวะ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับขนลุกตอนได้ยินเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องไปทั้งสนาม
"นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมากว่า 4 เดือน ผมทำงานหนักในทุก ๆ วัน เพื่อหวังที่จะได้เป็นตัวจริง ตอนที่ผมได้รับแจ้งว่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมวันที่ 5 ก.ค. กับ โชนัน เบลมาเร่ ผมมีความสุขมาก มันบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลย" เอกนิษฐ์ กล่าว
"ผมรอคอยโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงมาตลอด บอกตามตรงมันนานมากกว่าจะเป็นจริง ผมตื่นเต้นที่ได้ลงเล่นในสนามของตัวเอง ผมยังจำช่วงเวลาที่อยู่ในห้องแต่งตัวได้อยู่เลย เสียงเชียร์ของแฟนบอลในสนาม แฟนบอลพากันกระโดดร้องเพลง มันเป็นบรรยากาศที่ดีมาก ๆ ผมขนลุกไปทั้งตัว"
แต่ในเวลาเดียวกัน มันเป็นเกมที่ไม่น่าจดจำสำหรับ เอกนิษฐ์ เช่นกัน เพราะเขาไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ตลอด 45 นาทีแรก ยิ่งกว่านั้น อูราวะ ยังตกเป็นฝ่ายตามหลัง โค้ชจึงตัดสินใจแก้เกมด้วยการถอด เอกนิษฐ์ ออกตอนพักครึ่ง
ดาวเตะทีมชาติไทยยอมรับว่า เขาผิดหวังที่เล่นไม่ออกและโดนเปลี่ยนตัว เพราะเขาอยากลงไปแก้ตัวในครึ่งหลัง แต่มันคือการตัดสินใจของโค้ช เขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องเคารพสิ่งนั้น
"แต่ทุกอย่างไม่ได้สมบูรณ์แบบไปเสียหมด ผมเล่นไม่ได้อย่างที่ต้องการ ผมพยายามลากตัดเข้าในไปยิง เวลาผมได้บอลในพื้นที่แคบ ผมก็พยายามมองไปที่ปากประตูคู่แข่ง ผมมีโอกาสเลี้ยงบอลในจังหวะโต้กลับเร็ว แต่ก็โดนทำฟาวล์" เอกนิษฐ์ กล่าวต่อ
"ผมไม่ได้ทำประโยชน์ให้เพื่อนทำแอสซิสต์หรือลุ้นทำประตู ผมแค่เคลื่อนที่หลังแนวรับคู่แข่ง ผมคิดว่าควรจะเรียกบอลจากเพื่อนมากกว่านี้ ผมผิดหวังกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง"
"จบครึ่งแรกเราตามหลัง ผมก้มหน้าเดินกลับห้องแต่งตัว ผมพยายามคิดหาวิธีแก้ปัญหา แต่ผมได้รับแจ้งว่าจะโดนเปลี่ยนตัวออก ผมอยากลงเล่นในครึ่งหลัง แต่ผมเคารพการตัดสินใจของโค้ช เพราะมันเป็นเหตุผลทางแท็คติค"
"แน่นอนว่าผมผิดหวังที่โดนเปลี่ยนตัวตอนพักครึ่ง แต่ผมพยายามไม่คิดมาก พยายามไม่แสดงอารมณ์ออกมาให้คนอื่นเห็น ผมเสียใจที่ทีมแพ้ หลังจบเกมผมเดินขึ้นรถบัสเงียบ ๆ เมื่อกลับไปถึงที่พัก ผมก็วีดีโอคอลให้พ่อกับแม่ พวกเขาดีใจที่ผมได้ลงตัวจริงและให้กำลังใจกับผลแข่งขันที่ออกมา พวกเขาคือกำลังใจชั้นเยี่ยมของผม"
เอกนิษฐ์ ยอมรับว่า เขาทำโอกาสครั้งสำคัญหลุดมือ แต่มองว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในอาชีพนักฟุตบอล แต่เขาจะไม่ยอมแพ้ จะพยายามดูแลตัวเองและทำงานหนัก เพื่อคว้าโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงครั้งต่อไป
"ผมรู้ว่าผมพลาดโอกาสครั้งสำคัญ ความพยายามของผมไม่เป็นผล โลกของนักกีฬาเป็นอะไรที่ยาก เพราะมันถูกตัดสินด้วยผลงานในสนาม สิ่งสำคัญคือต้องไม่ก้มหน้ายอมแพ้" เอกนิษฐ์ ทิ้งท้าย
"คุณต้องเชิดหน้าขึ้นเมื่ออยู่ในสนามซ้อม คุณต้องมองไปข้างหน้า ทำทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุด ดูแลร่างกายให้ดี ผมตั้งเป้าที่จะลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง ผมยังไม่พอใจที่ได้ลงเล่นตัวจริงแค่ 1 เกม หากผมได้รับโอกาสอีก ผมรู้ว่าต้องทำงานให้หนักขึ้น"
สำหรับเกมต่อไ ป อูราวะ เร้ด ไดมอนส์ มีคิวยกพลไปเยือน โตเกียว ซังงะ ในวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ ซึ่งต้องรอดูกันว่า เอกนิษฐ์ ปัญญา จะได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกเกมหรือไม่