เก่งจัดจนไม่ใช้เท้าถนัดเล่น : เอ็นดริค เด็กอายุ 16 เจ้าของค่าตัว 72 ล้านยูโร คือใคร ?
บราซิลเป็นประเทศที่ผลิตเพชรเม็ดงามในกีฬาฟุตบอลมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น เปเล่, โรนัลโด้, โรแบร์โต้ คาร์ลอส, โรนัลดินโญ่ และ เนย์มาร์ นี่เป็นเพียงแค่ซุปเปอร์สตาร์เพียงไม่กี่จากทีมแซมบ้า
และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีดาวรุ่งบราซิลเลียนมากมายแจ้งเกิดในวงการฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, และ ริชาร์ลิซอน แต่ยังมีเด็กหนุ่มวัย 16 ปี ที่แฟนบอลหลายคนอาจไม่คุ้นชื่อของเขา และบอกได้เลยว่าสปอร์ทไลท์ทุกดวงกำลังจะส่องมาที่เขาในอีกไม่นาน
Think Curve - คิดไซด์โค้ง เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับว่าที่แนวรุกคนใหม่ของราชันชุดขาว “เอ็นดริค เฟลิเป้”
เก่งจัดจนไม่ใช้เท้าถนัดเล่น
เอ็นดริค เฟลิเป้ เริ่มต้นจากการเป็นนักฟุตบอลเยาวชนจากกรุงบราซิเลีย เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 4 ปี และมีความสามารถเป็นอย่างมาก ในช่วงที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเอ็นดริคมักจะเล่นฟุตบอลกับเด็กที่มีอายุมากกว่าเสมอ เพราะรู้สึกว่าการเล่นกับเพื่อนในรุ่นเดียวกันนั้นมัน “ง่าย” เกินไป ถึงขั้นว่ายอมไม่ใช้เท้าซ้ายข้างถนัดเล่นเสียด้วยซ้ำ
แต่ไม่ใช่กับทุกคนที่จะเริ่มต้นเส้นทางอย่างสวยหรู ครอบครัวของเขามีฐานะยากจน และไม่มีรายได้ประจำที่มั่นคง ทำให้ชีวิตวัยเด็กค่อนข้างยากลำบาก เอ็นดริคเคยเล่ากับสื่อว่า
“ผมเคยไม่ได้ไปซ้อมฟุตบอลเพราะไม่มีเงินนั่งรถเมล์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้”
ในวัยเด็กที่ต้องดิ้นรน ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ฝันของเอ็นดริคก็ไม่ได้ง่ายนัก เนื่องจากในกรุงบราซิเลียไม่ได้มีสโมสรขนาดใหญ่อยู่มากมาย มีเพียงแต่โรงเรียนสอนฟุตบอลที่ร่วมมือกับทีมต่างๆ เท่านั้น และในตอนนั้นครอบครัวของเขาก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะส่งไปเรียนอยู่ดี มีเพียงวิธีเดียวที่ทำได้ คือการไปร่วมทดสอบฝีเท้า ซึ่ง พัลไมรัส สโมสรอาชีพจากเมืองเซา เปาโล ได้ติดต่อเข้ามายื่นข้อเสนอให้ร่วมทดลองเป็นเวลา 6 เดือน ในวัยเพียง 11 ปี
ในตอนแรก ดักลาส พ่อของเอ็นดริคไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะไม่อยากย้ายไป เซา เปาโล ที่มีระยะทางห่างไปกว่า 600 กิโลเมตร เพียงเพื่อจะเสี่ยงกับความสำเร็จของลูกชายเพียงอย่างเดียว
และความคิดนั้นได้เปลี่ยนไป หลังพัลไมรัสเสนอตำแหน่งภารโรงประจำสโมสรให้ ซึ่งนอกจากจะทำให้มีรายได้ที่มั่นคงขึ้นแล้ว ดักลาสก็ยังสามารถเข้าไปพูดคุยกับลูกชายในห้องแต่งตัวของทีมได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกเรื่องที่เป็นไปตามที่ครอบครัวของเอ็นดริคหวังไว้กับบ้านหลังใหม่ ช่วง 6 เดือนแรกที่เซา เปาโล พ่อของเอ็นดริคยังว่างงานและขายอาหารเช้าที่ป้ายรถเมล์ เพื่อหาเลี้ยงชีพหลังจากนั้นแต่หลังจากนั้นไม่นานเขาได้รับข้อเสนอให้เป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของพัลไมรัส
ชูเอา เปาโล ซามไปเอา ผู้ฝึกสอนเยาวชนพัลไมรัส กล่าว
“ผมได้รับวิดีโอที่เขาลงสนามในบราซิเลีย และชอบในสิ่งที่เห็นทันที ดังนั้นผมจึงโอเคสำหรับข้อเสนอที่ให้พวกเขาเช่าอพาร์ทเมนท์ในเซา เปาโล”
“เอ็นดริคโด่ดเด่นทันทีที่ได้เห็น ทันทีที่เข้าสู่สนาม เขาจักรยานอากาศในเกมนัดแรกกับซานโตสในนัดชิง State Championship ชุด U11 และกับนัดที่สองท่ามกลางแฟนบอลเจ้าบ้านกว่า 22,000 คน เขาก็เป็นแบบนี้ แต่ละครั้งที่เรามอบความท้าทายให้กับเขา เขาจะตอบโต้”
ถือกำเนิดดาวดวงใหม่
การตัดสินใจของสโมสร พัลไมรัส ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม เอ็นดริค ใช้เวลาเพียง 5 ปี ถล่มไป 170 ประตูจาก 172 เกม ทั้งในการเตะในทีมรุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปี และรุ่นต่ำกว่าอายุ 20 ปี
จะเรียกเขาว่าเป็นเครื่องจักรสังหารประตูเลยก็ยังได้ และยังมีโอกาสได้ลงเล่นในฐานะนักเตะทีมชาติรุ่นอายุต่ำว่า 16 ปี และยิงไป 5 ประตู จาก 4 เกมอีกด้วย ซึ่งทางสโมสรก็ยังตั้งเป้าที่จะพัฒนาเขาต่อไป โดยให้ เซ โรแบร์โต้ อดีตนักเตะทีมชาติบราซิล เข้ามาทำหน้าที่ฝึกสอนเพื่อเตรียมตัวก่อนจะย้ายขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่
จุดเปลี่ยนที่ทำให้แมวมองจากสโมสรชื่อดังในยุโรปหันมาสนใจเอ็นดริคมากขึ้น เกิดหลังนักเตะหนุ่มได้รับโหวตให้เป็นแข้งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ จากการช่วยยิงไป 7 ประตูในการแข่งขันลีกเยาวชนรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ของ บราซิล โคฟินญ่า และสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับทีมในการคว้าถ้วยเยาวชนได้เป็นครั้งแรกในรอบ 53 ปี
แกรี่ ลิเนเกอร์ กองหน้าระดับตำนานของทีมชาติอังกฤษและกูรูฟุตบอล กล่าวว่า “ผมคิดว่าเราอาจจะได้เห็นสุดยอดนักเตะคนใหม่ของโลกบังเกิดขึ้นแล้ว”
เขากล่าวหลังเห็นเจ้าหนูรายนี้บรรจงจักรยานอากาศจากบริเวณนอกกรอบเขตโทษเข้าประตูไปแบบสมบูรณ์แบบเพียงแค่นาทีที่ 13 ของเกม และคนทั่วโลกล้วนเปรียบเทียบเจ้าหนูรายนี้กับยอดตำนานทีมชาติอย่าง โรนัลโด้ คลิก
เอ็นดริคไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขายังทำประตูได้ในเกมเอาชนะซานโตส 4-0 พร้อมทั้งรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ บราซิล โคฟินญ่า
เฟรเดริโก เปน่า ที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ TFM ซึ่งเป็นเอเยนต์เดียวกับกองหน้าเรอัล มาดริดอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ให้สัมภาษณ์กับ BBC Sport ว่า
“ผมจำไม่ได้แล้วว่ามีนักเตะอายุแบบเขาคนไหนในประวัติศาสตร์ที่ทำแบบนี้ได้”
“วิธีที่เขารับมือกับความกดดันนั้นน่าประทับใจมากเพราะบางครั้งคุณเห็นเด็กคนหนึ่งที่มีเกมที่ดี และต้องดิ้นรนอย่างหนักในการรักษามาตรฐานนั้นไว้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับเขา ถึงแม้จะโดนโควิด-19 เล่นงาน แต่เขาก็ยังทำได้ดียิ่งขึ้นไปอีก”
กับช่วงอายุของเขา นอกจากคุณภาพฝีเท้าในการจบสกอร์และหาช่องในกรอบเขตโทษแล้ว ยังมีการฝึกซ้อมที่มีวินัย และเขาได้วาดอนาคของตัวเองเอาไว้แล้ว
“เรามีสองตัวอย่างทั้ง วินิซิอุส และมาร์ติเนลลี่ และเราพูดคุยกันอย่างต่อหลายครั้งระหว่างพวกเขาแสดงให้เขาเห็นถึงการลงฝึกซ้อมในแต่ละวัน วิธีในการรับมือกับความหลากหลายและการดูแลร่างกายตัวเอง” เปน่า กล่าวต่อ
“มันค่อนข้างซับซ้อนสำหรับพวกเขาทั้งคู่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ วินิซิอุส ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมากมายกับ เรอัล มาดริด หลังจากที่เขาต้องทำอะไรหลายอย่างและดูเหมือนว่าเขาทำได้สำเร็จ แต่เขากลับไม่มีชื่อในการแข่งขัน”
“มาร์ติเนลลี่ก็เหมือนกัน บางครั้งก็ได้ลงตัวจริง แต่ส่วนใหญ่เขาต้องใช้เวลาที่นั่นโดยไม่ถูกส่งลงสนามอย่างเป็นประจำ ดังนั้นเราอธิบายให้กับเอ็นดริคว่ามันไม่สำคัญเลยว่าคุณจะเป็นนักเตะระดับโลก แต่คุณจำต้องทำงานหนักให้มากขึ้นไปอีกเท่าหนึ่ง”
ไม่มีใครสงสัยเลยว่าเอ็นดริคจะเป็นอีกหนึ่งดาวดังระดับโลกของบราซิลคนถัดไป เพราะเขาถึงกับขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ชื่อดังในสเปนอย่าง MARCA ถึงสามครั้งภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ท่ามกลางข่าวลือกับบาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริด
แต่สิ่งเดียวที่น่ากังวลสำหรับเหล่าแมวมอง นั่นคือความสูงเพียง 5 ฟุต 6 นิ้ว (173 เซนติเมตร)
“เขาดูเหมือนว่าจะไม่มีทางสูงถึง 5 ฟุต 9 นิ้ว (180 เซนติเมตร) ซึ่งจะเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับกองหน้าคนหนึ่ง ถ้าเรายังจำโรนัลโด้ได้” เปน่ากล่าวถึงเรื่องนี้
“เขาจะเป็นนักกีฬาที่แข็งแกร่งกว่านี้ บางทีอาจจะสัก 5 ฟุต 7 นิ้ว หรือ 5 ฟุต 8 นิ้ว แต่หากเปรียบเทียบกับหนึ่งในยอดกองหน้าของประเทศอย่าง โรมาริโอ้ ที่สูงเพียง 5 ฟุต 4 นิ้ว ก็คงจะปลอดภัยที่จะบอกว่าเขาโอเคดี”
รูปแบบการเล่นกองหน้ากึ่งปีกของเอนดริค ทำให้แฟนบอลเทียบเขากับ โรมาริโอ้ อดีตดาวยิงทีมชาติบราซิล แม้แต่ วอลเตอร์ คาซากรันเด้ อดีตนักเตะทีมชาติบราซิล ก็ยังมองเห็นความพิเศษนี้ และเปรียบเทียบความสามารถของนักเตะดาวรุ่งว่าน่าจะ “พัฒนาได้จนถึงขั้นเดียวกับเนย์มาร์”
ถึงแม้ว่าจะมีกระแสเกี่ยวกับตัวเองจะมากขึ้น เอ็นดริคเองพยายามไม่ตื่นเต้นกับเรื่องทั้งหมดมากนัก เขาพยายามจำว่าตัวเองยังเด็กอยู่ และทั้งหมดที่ทำไปเป็นแค่การแข่งขัน ไม่อยากจะจริงจังกับมันจนเกินไป แน่นอนว่า อยากจะจริงจังกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่ในสนามอยากจะทำให้ตัวเองสนุกที่สุดมากกว่า
“ผมรู้ว่ามันยังอีกยาวไกลกับการไปถึงเป็นนักเตะซุปเปอร์สตาร์ ผมรู้ว่ายังต้องฝึกฝนอีกมาก ผมยังต้องถ่อมตัว และจดจำความยากลำบากที่ผ่านมาให้ได้ เพราะมันทำให้ผมมีพลังที่จะสู้ต่อไป”
ดักลาส พ่อของเอ็นดริค จะไม่มีวันลืมที่ลูกชายของเขาเดินมาถามขออาหารกับเขาสมัยที่ยังอยู่ในบ้านเกิดที่เมืองบราซิเลีย และเขาไม่มีอาหารพอที่จะให้ลูกตัวเองได้
ขณะที่ ดักลาส ร้องไห้ เขาได้ยินเอ็นดริคให้สัญญาว่าเขาจะกลายเป็นนักฟุตบอลและทำให้ชีวิตการเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น
และอีกไม่นานเกินรอ เราจะได้เห็นดาวยิงที่ชื่อว่า “เอ็นดริค” โลดแล่นในเวทียุโรปอย่างแน่นอน
แหล่งอ้างอิง
https://234sportsng.com/brazilian-endrick-with-170-goals-in-172-games-turns-16
https://www.theweek.in/theweek/cover/2022/10/08/i-want-to-be-known-for-my-story.html
ข่าวและบทความล่าสุด
RELATED BY AUTHOR