‘เจ-ชนาธิป’ ลุ้นยิงทีมเก่า ‘ฟรอนตาเล่’ อันตรายแค่ไหน? กับการบุกมาเยือน ‘บีจี’ ในศึก ACL

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโปรแกรมในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่จะลงเตะกันในวันอังคารที่ 24 ตุลาคม เวลา 19.00 นาฬิกา คู่ระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เตรียมเปิดบ้านรับมือ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ได้รับการจับตาจากแฟนบอลไทยเป็นอย่างมาก จากประเด็นการโคจรมาดวลกับต้นสังกัดเก่าเร็วเกินคาดของ‘เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์’

ช่วงเวลาของเพลย์เมคเกอร์เบอร์หนึ่งทีมชาติไทยกับสโมสรแรกใน เจลีก ประเทศญี่ปุ่น อย่าง ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ถือว่าเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนมีชื่อติดทีม เบสท์ อีเลฟเว่น ในปี 2018 แต่พอย้ายมาอยู่กับ ฟรอนตาเล่ ด้วยค่าตัวราว 130 ล้านบาท ในปี 2022 ครองสถิติเป็นนักเตะอาเซียนที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ เจลีก กลับไม่ประสบความสำเร็จดังคาด

หลังจากฤดูกาลแรก เจ มีอาการบาดเจ็บรบกวน พร้อมพาทีมไปได้แค่ตำแหน่งรองแชมป์ลีก ต่อเนื่องด้วยปัญหาผลงานดร็อปของ ฟรอนตาเล่ ภายใต้การคุมทีมของ โทรุ โอนิกิ ในการออกสตาร์ทฤดูกาล 2023 บวกกับปัญหาการบริหารสโมสรของบอร์ดบริหารที่ไม่ตรงใจแฟนบอล ทำให้ช่วงหนึ่ง ชนาธิป ตกเป็นแพะจากผลงานที่ไม่สามารถทำได้ตามเป้า ทั้งที่ย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาล

แม้ว่า โอนิกิ จะให้สัมภาษณ์อยู่ตลอดว่า ตัวของเขานั้นมองว่า เจ คือ หนึ่งในนักเตะที่มีศัยภาพระดับ ท็อป 3 ของทีม แต่ไม่เคยให้โอกาสลงสนามตรงกับสิ่งที่พูด ดังนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจย้ายกลับมาเล่นในบ้านเกิดกับ บีจี ปทุม อย่างที่เห็น

เมื่อขาด ชนาธิป ไปแล้ว ฟรอนตาเล่ ทำผลงานกลับมาได้น่ากลัวเหมือนแต่ก่อนหรือไม่? ภาพรวมในการเล่นของทีมตอนนี้เป็นอย่างไร? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

มีขึ้นก็ต้องมีลง

จากผลงานที่ โอนิกิ พา ฟรอนตาเล่ เถลิงแชมป์ เจลีก มาแล้ว 4 สมัยก่อนหน้านี้ในปี 2017,2018, 2020 และ 2021 ถึงแม้ว่าซีซั่นนี้เขาจะพาทีมรั้งอยู่ในตำแหน่งกลางตารางในอันดับที่ 9 สถานการณ์เก้าอี้ของเขาก็ยังคงเหนียวแน่นเช่นเดิม ต่อให้ลูกทีมของเขาจะโชว์ฟอร์มย่ำแย่ที่สุดในรอบ 12 ปีก็ตามที

ปัญหาที่ทาง ฟรอนตาเล่ เริ่มถูกคู่แข่งจับทางเรื่องแท็คติกได้ โอนิกิ ก็พยายามปรับเปลี่ยนและทดลองวิธีการใหม่ๆ ตามที่ เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า

“ปีที่แล้วผลงานของทีมถือว่าทำได้น่าผิดหวัง (จบรองแชมป์ปี 2022) มีหลายอย่างที่ผมพยายามสร้างมันขึ้นมาแต่ไม่ได้ผล ดังนั้นผมจึงอยากกลับไปเริ่มต้นกันใหม่จากศูนย์”

“เราต้องต่อสู้ให้หนักหน่วงด้วยความมั่นใจ ตั้งมั่นอยู่บนความถ่อมตัว ไม่ต้องมองย้อนไปถึงดีกรีที่เคยประสบความสำเร็จ มีความเชื่อในแนวทางที่เป็นรากฐานที่ปลูกฝังมาตลอดในการเล่น”

ซึ่งตัวของนักข่าวจากสื่อ ฟุตบอลลิสต้า ในประเทศญี่ปุ่นอย่าง ทาคาชิ เอโตะ ก็ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมแคมป์ฝึกซ้อมของ ฟรอนตาเล่ ก่อนเปิดฤดูกาล 2023 แล้วแชร์ประสบการณ์ที่น่าสนใจเอาไว้บางส่วนตามที่กล่าวว่า

“ความท้าทายของ ฟรอนตาเล่ ซีซั่นนี้เป็นความทะเยอทะยาน ตั้งแต่ขอให้ลูกทีมทำตามข้อเรียกร้องของ โอนิกิ ที่ทางทีมงานคงไม่สามารถอธิบายรายละเอียดทั้งหมดได้”

“แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือแนวรับตรงพื้นที่สุดท้าย จะมีการยืนตำแหน่งที่แปลกออกไป เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหายามที่ถูกคู่แข่งเล่นเกมเพรสซิ่งสูงใส่ ด้วยการเอาบอลออกมาจากพื้นที่อันตรายให้ได้”

อย่างไรก็ตามนักเตะในทีมบางรายเช่น เจเซียล เซนเตอร์แบ็คตัวหลักชาวบราซิล แสดงทัศนะออกมาว่า นักเตะของทีมต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับแท็คติกใหม่ โอนิกิ พร้อมที่จะเสี่ยงทดลองทำมันจนสำเร็จ ด้วยการยอมแลกกับผลงานของทีมในฤดูกาลนี้

ซึ่งผลลัพธ์ที่เขาต้องการ คือ การสร้างแนวทางการเล่นแบบใหม่ให้กับ ฟรอนตาเล่ เพื่อฉีกหนีคู่แข่งออกไปอีกไม่ให้จับทางได้ แล้วรับได้กับความผิดพลาดที่ลูกทีมจะก่อขึ้นระหว่างเกม

ชนาธิป ย้ายออกแต่ทีมไม่ได้ดีขึ้น

เกมสุดท้ายที่ ชนาธิป ลงเล่นให้กับ ฟรอนตาเล่ เป็นเวที เอ็มเพอเรอร์ คัพ วันที่ 7 เดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา ลงสนามเป็นตัวจริงอยู่ในสนามทั้งหมด 68 นาที โดยผลจบลงที่อดีตต้นสังกัดของเขาชนะ โทชิกิ ซิตี้ ไปได้ 3-1 ซึ่งเส้นทางล่าสุดของ ฟรอนตาเล่ ในถ้วยนี้ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศกับ คาชิว่า เรย์โซล ที่จะลงเล่นกันในช่วงต้นเดือน ธันวาคม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไฮไลท์เกมสุดท้ายของ ชนาธิป กับ ฟรอนตาเล่

ส่วนผลงานในศึก เจ ลีก ทั้งหมด 15 นัด โอนิกิ พาทีมเก็บชัยชนะไปได้ 6 นัด เสมอ 3 นัด และแพ้ไป 6 นัด เก็บไปได้เพียง 21 แต้มจากทั้งหมด 45 แต้มเต็ม หมายความว่า ชนาธิป อาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ฟรอนตาเล่ ฟอร์มดร็อปในฤดูกาลนี้ค่อนข้างแน่นอน แต่เป็นภาพรวมในการเล่นของทีมมากกว่า

ปัญหาสำคัญของ ฟรอนตาเล่ ในฤดูกาลนี้ หากวิเคราะห์กันตามตรงหนีไม่พ้นเรื่องของอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวต่างชาติ ที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้ ไล่เรียงมาตั้งแต่ เจเซียล (เซนเตอร์แบ็ค), มาร์ซินโญ่ (ปีกตัวริมเส้น) และ เลอันโดร ดามิเยา (กองหน้าตัวเป้า) ที่เริ่มทยอยกลับมาลงสนามได้เกือบหมดแล้ว

เหลือเพียงแค่ เจเซียล รายเดียว ซึ่งทีมก็ได้มีการเสริม บาเฟติมบี้ โกมิส กองหน้าชาวฝรั่งเศส วัย 38 ปี เข้ามาเป็นทางเลือกในแนวรุกเพิ่มเติม แต่นับมาถึงตอนนี้ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกให้กับทีมได้เลย ทำไปแค่ 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 6 นัด

ยิ่งไปกว่านั้นตัวผู้เล่นหลักชาวญี่ปุ่นอย่าง ชินทาโร่ คุรุมายะ (เซนเตอร์แบ็ค-แบ็คซ้าย), อาซาฮี ซาซากิ (แบ็คซ้าย) และ เรียวตะ โอชิมะ (กองกลาง) ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ทำให้เกมรับของทีมตอนนี้ค่อนข้างจะมีจุดให้โจมตีชัดเจน

คาดว่าเกมนี้ โอนิกิ จะจัดทีมยึดตัวหลักจากบอลลีกที่ทำผลงานได้ดี จากการเปิดบ้านเอาชนะ อวิสป้า ฟูกุโอกะ มาแบบสุดมัน 4-2 ด้วยการยึดระบบ 4-3-3 แผนเก่ง แผนประจำตัวของเขาเหมือนเช่นเดิม

ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ยังคงเป็น จุง ซุง-รยอง, เซนเตอร์แบ็คอาจเป็นการจับคู่กันของ คาซูยะ ยามามูระ กับ ทาคุมะ โอมินามิ แบ็คฝั่งขวาจะเป็น มิกิ ยามาเนะ ส่วนแบ็คซ้ายน่าจะได้ เคียวเฮย์ โนโบริซาโตะ กลับมาประจำการ

กองกลางสามคนจะเป็นการประสานงานกันของ เคนโตะ ทาจิบานาดะ กัปตันทีม, ยาสุโตะ วากิซากะ และ ทัตสึกิ เซโกะ โดยมี ชูเอา ชมิดท์ เป็นตัวสอดแทรก ส่วนแนวรุก 3 คน จะเป็นการประสานงานกันระหว่าง อากิฮิโระ อิเอนากะ, เลอันโดร ดามิเยา และ มาร์ซินโญ่ โดยมีตัวสอดแทรกเป็น ยูโคบายาชิ, ไทเซย์ มิยาชิโระ และ ไดยะ โทโนะ

สถิติการพบกันของสองทีมก่อนหน้านี้ เป็นการเล่นในเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันที่ 12 เดือนพฤศจิกายน ปี 2022 แล้วปรากฎว่าเป็นทางทีมเยือน ฟรอนตาเล่ บุกมาเอาชนะเจ้าถิ่น กระต่ายแก้ว ไปได้แบบขาดลอย 3-1 ทั้งที่เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่าการพบกันครั้งนี้ บีจี จะล้างตาได้สำเร็จหรือไม่?

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://thinkcurve.co/ecch-aimlng-thamaimaeyehmuue-nedim-fr-ntaael-phangkhaabaan-airchaysaamekmtid/

https://thinkcurve.co/o-niki-duue-ruepaaw-tnt-fr-ntaael-f-rmtkaebbthiiaimekhyepnmaak-n/

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

มุมมอง บิ๊กฮั่น : "บุรีรัมย์ เวย์ คือ วิมเบิลดัน เมืองไทย"

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด