เรื่องใหญ่ของจริง : สรุปปัญหาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก 2023-24
หลังจากที่เงียบมาพักใหญ่สำหรับข่าวลิขสิทธิ์ของศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ล่าสุดมีความคืบหน้าปรากฎมาแล้ว และส่อแววจะมีปัญหาที่ทุก ๆ ฝ่ายจะต้องหารือร่วมกัน
ปกติแล้วใน 2 ซีซั่นที่ผ่านมา AIS จ่ายค่าสปอนเซอร์ไทยลีกโดยเป็นการถ่ายทอดสดแบบออนไลน์ แบบคาดการณ์คร่าว ๆ จะอยู่ทีปีละราว ๆ 300 - 400 ล้านบาท และมีออพชั่นขยายสัญญากันแบบ 1+1 (เมื่อจบฤดูกาลแล้ว AIS จะได้สิทธิ์เจรจากับไทยลีกเป็นเจ้าแรก) ซึ่งเดิมทีการต่อสัญญาเรื่องลิขสิทธิ์ก็จะเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตามเหตุที่เรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีกในซีซั่น 2023-24 ไม่เหมือนเดิม เพราะทาง ไทยลีก พยายามจะเจรจากับผู้ซื้อลิขสิทธิ์เจ้าใหม่ เนื่องจากจำนวนเงินที่ได้จาก AIS นั้นไม่เพียงพอต่อการเป็นจ่ายสนับสนุนทีมสมาชิกในลีกต่าง ๆ ของประเทศ ซึ่งเมื่อรวมหมดทุกทีมจะแล้วเงินที่จะเข้ามารองรับได้ต้องมีจำนวนเกิน 500 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่ทาง AIS ให้
สถานการณ์ดังกล่าวจึงทำให้ทาง AIS มีท่าทีว่าอาจจะไม่ได้ร่วมประมูลลิขสิทธิ์ไทยลีกในฤดูกาล 2023-24 ขณะที่ตามกระแสข่าวลือว่าทาง True จะเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์นั้น ก็มีโอกาสที่ True จะจ่ายที่ไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยจะโฟกัสไปที่ทีมชาติทุกชุดเป็นหลัก ส่วนฟุตบอลไทยลีกนั้นจะไม่ได้ถ่ายทอดสดทุกคู่ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มจะทำให้หลายสโมสรในประเทศไทยต้องติดหนี้เพิ่มเติม และอาจจะต้องถึงขั้นยุบทีมกันเลยทีเดียว
การที่หลายสโมสรต้องแบกภาระเรื่องงานเงินหนัก จึงมีข้อเรียกร้องในการปรับโปรแกรมใหม่ เนื่องจากเดิมทีแต่ละสโมสรจะต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายหนักไม่สมดุลกับเงินที่สมาคมมอบให้ (ไทยลีก 1 ทีมละ 14 ล้านบาท, ไทยลีก 2 ทีมละ 2.1 ล้านบาท และ ไทยลีก 3 ทีมละ 7 แสนบาท) เพราะฤดูกาลปกติ รวมกับช่วงเวลาของการฝึกซ้อมเป็นระยะเวลาทั้งหมดถึง 13 เดือน โดยตลอดระยะเวลานี้แต่ละทีมจะต้องจ่ายเงินเดือนนักเตะและทีมงานทุก ๆ คน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ากินระยะเวลายาวมากเกินไปจนต้องแบกค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
ซึ่งว่ากันว่าในการประชุมระหว่างสโมสรสมาชิกในวันที่ 27 มิถุนายน เรื่องค่าลิขสิทธิ์และการปรับโปรเเกรมจะถูกเข้ามาเป็น 1 วาระในการประชุมด้วย เบื้องต้นคาดว่าบริษัทที่จะเข้าประมูลลิขสิทธ์ไทยลีกนอกจากจะเป็น AIS และ TRUE แล้วยังมีบริษัทต่างชาติอย่าง DAZN เบื้องต้นเชื่อว่าจะเป็นการต่อรองเพื่อหาทางออกที่พอไปต่อกันได้ทั้งฝั่ง ไทยลีก และผู้ซื้อลิขสิทธิ์
เรื่องดังกล่าวยังคงต้องติดตามกันต่อไป โดยข้อมูลที่ชัดเจนน่าจะปรากฎจากการประชุมใหญ่ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ และ Think Curve - คิดไซด์โค้ง จะนำเรื่องดังกล่าวมารายงานอย่างแน่นอน
เรื่องที่เกี่ยวข้อง