เจ็บแบบซ้ำๆ : วิเคราะห์ ช้างศึก ยู23 โดน อินโดนีเซีย ย้ำแผลเก่าอดเข้าชิง

เจ็บแบบซ้ำๆ : วิเคราะห์ ช้างศึก ยู23 โดน อินโดนีเซีย ย้ำแผลเก่าอดเข้าชิง
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

หลังจากทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ตกรอบรองชนะเลิศศึก AFF U23 2023 จากการถูก ทีมชาติอินโดนีเซีย ย้ำแค้นไปอีกรอบด้วยสกอร์ 1-3 ส่งผลให้แผลเก่าตอนที่แพ้นัดชิงศึกซีเกมส์ตามมาหลอกหลอน ‘โค้ชหระ’ อิสสระ ศรีทะโร และเหล่าลูกทีมแบบซ้ำไปซ้ำมา

PHOTO : ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย

แน่นอนว่าทัวร์นาเมนต์หลังจากนี้ของ ทัพช้างศึกจูเนียร์ ล้วนแต่เป็นรายการแสนหินล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก และลุ้นเหรียญในศึกเอเชี่ยนเกมส์ 2023 ซึ่งคู่แข่งที่ต้องเผชิญหน้าล้วนแข็งแกร่งกว่าในภาพรวมทั้งหมด

การบ้านของ โค้ชหระ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชยู-23 ย่อมหนักหนาสาหัสสากรรจ์ เมื่อผลลัพธ์รายการล่าสุดไม่เป็นไปดังหวัง ทั้งที่ควรจะไปถึงรอบชิงชนะเลิศจากการที่เป็นเจ้าภาพรับหน้าเสื่อ แถมรูปเกมหลายนัดที่ผ่านมาก็มีเสียงสะท้อนจากแฟนบอล ถึงเรื่องของศักยภาพทีมที่ดูไม่แข็งแกร่งแบบที่ควรจะเป็น

PHOTO : ฟุตบอลทีมชาติไทย

จุดอ่อนของ ทีมชาติไทยยู-23 ที่ต้องปรับแก้หลังจากนี้มีอะไรบ้าง? ร่วมวิเคราะห์หาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

การบริหารจัดการ

ปฏิเสธได้ยากว่าการบริหารจัดการของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยยุคนี้ หลายเรื่องหลายราวที่ผ่านมาทั้งบอลลีกและทีมชาติ ล้วนเต็มไปด้วยปัญหาเรื่องความสับสนงงงวย เหมือนผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง แทบไม่ได้คุยไม่ได้ปรึกษากันมาก่อน

ยกตัวอย่างเช่นทัวร์นาเมนต์ AFF U23 2023 ที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ แต่การวางโปรแกรมดูเหมือนจะไม่ใช่ระยะเวลาที่เหมาะสมเท่าไหร่นัก เพราะเป็นช่วงที่ลีกฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย กลับมาแข่งขันกันแบบเต็มระบบช่วงแรกพอดิบพอดี

PHOTO : ฟุตบอลทีมชาติไทย

ประโยชน์ที่ควรจะได้จากการทดสอบฝีเท้าผู้เล่น การลองใช้งานนักเตะหน้าใหม่ที่นคุณภาพจริงๆ พอจะไปแข่งขันในระดับเอเชียได้แบบไม่อายกลับไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากสโมสรต่างๆ ไม่ปล่อยผู้เล่นตัวหลักที่อยู่ในแผนการทำทีมมาช่วยชาติ เพราะต้องยอมรับกันตามตรงว่ารายการนี้ไม่ใช่โปรแกรมตามปฏิทิน ‘ฟีฟ่า เดย์

แม้ว่า โค้ชหระ จะเคยให้สัมภาษณ์ไว้ ตั้งแต่เริ่มลุยงานคุมทีมช่วงแรกถึงเป้าหมายของการเตรียมทีมไว้ว่า

PHOTO : ฟุตบอลทีมชาติไทย

“เราต้องการเห็นความสัมพันธ์ภายในทีมและการตอบสนองของเด็กว่าตอบสนองแค่ไหน และข้อบกพร่องต่างๆที่เราจะได้เจอแน่ๆ มันจะชัดเจนยิ่งขึ้น”



แต่ในเมื่อผู้เล่นที่เขาสามารถเรียกตัวมาใช้งานได้นั้นไม่ใช่ตัวหลัก ไม่มีเวลาเก็บตัวเข้าแคมป์ฝึกซ้อมหลักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ ความเข้าใจต่างๆ ของผู้เล่นเรื่องแท็คติก ความเข้าขารู้ใจกัน ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน เหมือนโปรแกรมที่ผ่านมานี้ เหมือนจัดขึ้นเพื่อตามหานักเตะมาเป็นตัวเลือกในอนาคตเพิ่มเติมมากกว่า แล้วน่าจะเป็นข้อดีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่สัมผัสได้ตอนนี้

คุณภาพของนักเตะ

ในเมื่อผู้เล่นที่เรียกตัวมาใช้งานได้เป็นแค่ตัวสำรอง นักเตะที่ไม่ได้เป็นตัวหลักในแผนการทำทีม ศักยภาพฝีเท้าเป็นแค่ตัวสำรองหรือดาวรุ่ง ไทยลีก ดีสุดอาจเป็นตัวจริงขาประจำใน ไทยลีก สอง และ สาม การจะคาดหวังให้ผลงานในการแข่งขันเป็นไปตามเป้านั้นเป็นเรื่องยากมาก

ยิ่งเวลาผ่านพ้นไปเรื่อยๆ กำหนดการที่จะลงแข่งขันในรายการชิงแชมป์ระดับเอเชียใกล้เข้ามา แต่กลับไม่ได้ใช้นักเตะชุดที่ประสิทธิภาพเต็มร้อย ซึ่งจะมีโอกาสเป็นตัวหลัก “จริงๆ” มันไม่ต่างกับใช้เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

PHOTO : ฟุตบอลทีมชาติไทย

นักเตะหลายรายที่เรียกมาใช้งานแบบขัดตาทัพ ต้องยอมรับกันตามตรงว่า “คุณภาพไม่ถึง” ขนาดบางรายที่เป็นตัวหลักมาตั้งแต่ศึกซีเกมส์ที่ได้เหรียญเงิน ก็ยังคงดีไม่พออย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะแนวรับที่หลวมโครก พร้อมเสียประตูได้ทุกเวลาจากความเชื่องช้า, ขาดสมาธิ และ ไม่มีทีมเวิร์ค

ก่อนหน้านี้ โค้ชหระ ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ถึงสิ่งที่เขาคาดหวังจากลูกทีม ก่อนจะถึงฤดูกาลแข่งขันรายการชิงแชมป์ต่างๆ ว่า

“แน่นอนว่าสิ่งสำคัญสำหรับทีมชุดนี้ คือเรื่องของความเข้าใจ และความมีระเบียบวินัย ทั้งในและนอกสนามของนักเตะทุกคน”

PHOTO : ฟุตบอลทีมชาติไทย

“เราจะพยายามมองหาข้อดี ข้อเสียของนักเตะทุกคนที่มาให้ได้มากที่สุด เพื่อวิเคราะห์แล้วหานักเตะที่ดีที่สุด สำหรับการทำการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติต่างๆ ที่จะเข้ามาในปีหน้า”

อย่างไรก็ตามเมื่อนักเตะที่เรียกมาใช้งานได้จริง ไม่ใช่ตัวที่เขาต้องการใช้จริงๆ การวิเคราะห์ เตรียมทีม สอนเรื่องของแท็คติกต่างๆ หวังเสริมสร้างให้นักเตะเข้าใจย่อมไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เพราะสุดท้ายแล้วตัวที่เรียกมานั้นคุณภาพไม่ถึง โอกาสที่จะได้ไปต่อนั้นน้อยกว่าครึ่ง เผลอๆ อาจจะต้องย้อนกลับไปหาชุดเดิมที่คว้าอันดับ 4 จากรายการ โดฮา คัพ ที่แทบไม่ได้ร่วมงานกันมานานหลายเดือน จนแฟนบอลแทบลืมหน้าไปหมดแล้ว

ต้องเรียนรู้จากบทเรียนเก่า

ความพ่ายแพ้ต่อ ทีมชาติอินโดนีเซีย คาบ้านของตัวเองในฐานะเจ้าภาพ แม้ว่าจะมีข้ออ้างนานับประการ แต่ก็ไม่สามารถเลี่ยงได้ว่าเสียหน้า เพราะคราวนี้ถือเป็นการย้ำแผลเก่าเข้าไปอีกรอบ หลังจากชวดเหรียญทองแบบย่อยยับบนเวทีซีเกมส์

การจะพัฒนาทีมไปให้ไกลได้กว่าเดิม จำเป็นต้องนำบทเรียนที่เป็นจุดอ่อนกลับมาทบทวน วิเคราะห์ และหาแนวทางแก้ไขจนกว่าจะประสบผลสำเร็จ ซึ่งถ้าแนวทางการทำทีมของ โค้ชหระ คือ การอ้างอิงจากตัวเลขสถิติ มีทีมแจกแจงรายละเอียดแบบยิบย่อยครบทุกองค์ประกอบ ตัวเลขต่างๆ และวิดีโอการเล่นที่อัดไว้ คงเป็นหลักฐานได้ดีที่สุด

PHOTO : ฟุตบอลทีมชาติไทย

แม้ว่ารายการ AFF U23 2023 ปากแฟนบอลจะบอกว่าไม่ได้สนใจผลการแข่งขัน แต่ถ้าสื่อนำเสนอข่าวออกไปว่าแพ้ ผลกระทบที่ตามมาย่อมเป็นการวิจารณ์แบบหนักหน่วงอย่างไม่มีทางเลี่ยง ความกดดันต่างๆ ย่อมถาโถมเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่า โค้ชหระ จะรับมือกับมันได้ดีแค่ไหน ซึ่งเจ้าตัวเคยมีการพูดถึงประเด็นนี้ไว้ว่า

"โค้ชเองนั้นมีความกดดันอยู่แล้ว แต่โฟกัสเรื่องการทำงาน ผลแข่งขันนั้นอยากได้ แต่ขึ้นอยู่กับการแข่งขันช่วงเวลานั้นด้วย”

PHOTO : ฟุตบอลทีมชาติไทย

“อยากให้ทุกคนไปดูรายละเอียดแต่ละเกม ว่าเด็กพวกนี้พัฒนาดีแค่ไหน ไปลงในรายละเอียดอย่างการเตรียมแท็คติก เตรียมร่างกาย เตรียมทุกอย่าง เข้าใจว่าทุกคนคาดหวัง แต่จริงๆ ต้องดูว่าเป้าหมายเราอยู่ตรงไหน”

ว่ากันตามหน้าเสื่อแล้วเรื่องของการพัฒนายังไม่เห็นไปถึงไหน การเตรียมทีมก็ไม่มีเวลาเพียงพอ ผ่านมาแล้วสองทัวร์นาเมนต์แค่ระดับแชมป์อาเซียน ผลลัพธ์ยังออกมาไม่เป็นตามที่ต้องการ ยังไงสิ่งที่น่าห่วงที่สุดย่อมเป็นอนาคตของ ‘โค้ชหระ’ มากกว่าสิ่งอื่นใดจริงๆ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://thinkcurve.co/sayyaandiib-laithy-kaarkhamaebkhthiidiiyingkwaaedimkh-ng-okhchhra-issra-sriithaor/

https://www.matichon.co.th/sport/news_4115970


บทความที่เกี่ยวข้อง :


5 นักเตะไทยยู-23 ฟอร์มเด่น : เกมถล่มเมียนม่าร์ 3-0 เปิดหัวศึก AFF U23 2023

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ