'เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด' นักเตะนอกลีกอังกฤษสู่แบ็คขวา 'ทีมชาติไทย' ชุดลุยยุโรป

ข่าวร้ายของทัพช้างศึก ‘ทีมชาติไทย’ ชุดใหญ่ ซึ่งมีโปรแกรมต้องออกเดินทางไปแข่งเกมอุ่นเครื่องถึงทวีปยุโรป โดยจะพบกับทีมชาติจอร์เจีย และ ทีมชาติเอสโตเนีย อันเป็นโปรเกมระดับ ฟีฟ่า เอ แมตช์ คือ การถอนตัวของแบ็คขวาเบอร์หนึ่งของทีมอย่าง นิโคลัส มิกเคลสัน เนื่องจากเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน

ในทางกลับกันอาจเป็นโอกาสให้กับ มาโน โพลกิ้ง กุนซือทัพช้างศึก ได้มีโอกาสทดลองใช้แบ็คขวาลูกครึ่งไทย-อังกฤษ หน้าใหม่ที่เพิ่งเรียกติดทีมมาในรอบนี้อย่าง ‘เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด’ เพื่อเป็นการเพิ่มตัวเลือกเผื่อเหลือเผื่อขาดให้กับทีมชาติไทย ที่กำลังมีศึกใหญ่รออยู่ข้างหน้าอย่าง ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

จากการพยายามค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ต พบว่าประวัติต่างๆ ของ เบอร์เรสฟอร์ด นั้นลึกลับไม่น้อย แทบไม่มีการลงรายละเอียดแบบชัดเจนว่า เส้นทางการค้าแข้งของเขาหรือปูมหลังนั้นเป็นมาอย่างไรบ้าง? แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่น่าสนใจอยู่ในเรื่องของการก้าวกระโดดจากนักเตะอาชีพในประเทศอังกฤษ แล้วตัดสินใจย้ายถิ่นฐานมายังประเทศไทย

เรื่องราวการค้าแข้งของเขาที่ผ่านมานั้นมีประเด็นใดที่น่าสนใจบ้าง? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

เส้นทางฟุตบอลแดนผู้ดี

จากข้อมูลที่ค้นเจอในอินเตอร์เน็ต เบอร์เรสฟอร์ด เคยผ่านการเป็นนักเตะในอคาเดมี่ของสโมสรมีชื่อในประเทศอังกฤษมาแล้วหลายทีม ยกตัวอย่างเช่น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน, โคลเชสเตอร์ และ เรดดิ้ง ซึ่งเป็นทีมระดับเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีทั้งหมด

ไฮไลท์การเล่นของ เบอร์เรสฟอร์ด ที่ประเทศอังกฤษ

หลังจากที่เส้นทางการค้าแข้งของเขา ดูจะไปได้ไม่สวยเท่าไหร่กับทีมระดับดิวิชั่นบนๆ ตามที่กล่าวมา เลยจำเป็นต้องลดระดับตัวเองลงมาเล่นกับทีมระดับกึ่งอาชีพกับสโมสร เอฟซี แลนซิ่ง รัฐเวสซัสเซ็กซ์ อยู่ในทีมชุดที่พาทีมเลื่อนชั้นสู่ อิสท์ชเมียน ลีก จากการเป็นแชมป์ เซาท์เทิร์น คอมบิเนชั่น ลีก ซีซั่น 2020/21

แม้ว่า เบอร์เรสฟอร์ด จะเป็นตัวจริงให้กับ แลนซิ่ง อย่างสม่ำเสมอ แต่เขาก็เลือกที่จะย้ายไปเล่นให้กับ เลเวส เอฟซี ที่อยู่ในลีกเดียวกันเพื่อเผชิญความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งก็ยังเป็นลีกที่ยังไม่ใช่ระดับที่เป็นมืออาชีพแบบจริงๆ จังๆ

สุดท้ายก็เป็นทาง อีสต์บอร์น โบโรห์ ทีมในระดับดิวิชั่น 6 เนชั่นแนล ลีก เซาท์ ประเทศอังกฤษ ที่เห็นศักยภาพของ เบอร์เรสฟอร์ด ว่าดีพอที่จะเล่นในระดับที่เข้มข้นขึ้นได้คว้าตัวมาร่วมทีมในฤดูกาล 2021/22 แล้วได้ลงสนามช่วยทีมไปทั้งหมด 11 เกม

ต่อมาในฤดูกาล 2022/23 เวิร์ทติ้ง เอฟซี ในลีกเดียวกันเล็งเห็นถึงผลงานของ เบอร์เรสฟอร์ด ที่เริ่มสร้างชื่อเป็นที่รู้จักในลีกระดับดิวิชั่น 6 จากผลงานที่สม่ำเสมอ จึงตัดสินใจดึงตัวมาเสริมทัพในฤดูกาล 2022/23 พร้อมมอบโอกาสให้ลงเล่นรวมทุกรายการไปถึง 25 เกม

นัดก่อนจะถูกทาง อุทัยธานี น้องใหม่ในเวที ไทยลีก ดึงตัวมาร่วมทีมอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ลงสนามไปแล้ว 7 นัด แทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัว จนใช้เวลาไต่ระดับไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น แล้วยังมีลุ้นได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกด้วย

มิติการเล่นแบบยุโรป

จากข้อมูลการเล่นที่ทาง เบอร์เรสฟอร์ด ผ่านมาทั้งหมดจนมาถึงสโมสรล่าสุดอย่าง อุทัยธานี เอฟซี เขาสามารถลงเล่นได้แบบสาระพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นกองกลาง, แบ็คขวา หรือ แบ็คซ้าย เนื่องจากการฝึกฟุตบอลในต่างประเทศ จะไม่มีการพิจารณาบอกนักเตะว่าถนัดตำแหน่งไหน ก่อนเซ็นสัญญาอาชีพเมื่ออายุได้ราว 16-17 ปี

แน่นอนว่าจุดเด่นของ เบอร์เรสฟอร์ด คือ เบสิคฟุตบอลที่แน่น การเติมเกมรุกที่เมามัน และ ความขยันวิ่งขึ้นลงแบบไม่มีหมด ลักษณะการเล่นคล้ายคลึงกับ มิกเคลสัน ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นตัวทดแทนการขาดหายไปได้แบบพอดิบพอดี

ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ มาโน โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวประเด็นขุนพลทัพช้างศึก ที่ไปลุยยุโรปที่เหลือผู้เล่นแค่ 22 คน นั้นเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวลูกทีม ตามที่กล่าวไว้ว่า

"โชคไม่ดีที่ นิโคลัส มิคเกลสัน ไม่ได้มากับทีมเพราะบาดเจ็บ และแม้ว่าจะมีนักฟุตบอลแค่ 22 คน แต่ไม่คิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะมันคือการแข่งขัน 2 เกม ไม่ใช่เป็นทัวร์นาเมนต์ยาวๆ"

"ที่ผ่านมา ทีมได้ศึกษาการเล่นของคู่แข่งเพื่อจะหาวิธีการรับมือที่เหมาะสมที่สุด เพราะพวกเขาเป็นทีมที่มีคุณภาพอย่างที่ผมบอกมาเสมอ แต่ผมก็มั่นใจในตัวนักฟุตบอลทีมชาติไทยว่ามีคุณภาพ และความมุ่งมั่นพอ ที่จะโชว์ศักยภาพให้แฟนบอลได้เห็น"

เชื่อว่าจากประสบการณ์เล่นฟุตบอลอาชีพในอังกฤษหลายสิบเกม ผ่านการดวลเกมที่เข้มข้นมาตั้งแต่อายุ 17 ปี กระดูกฟุตบอลของ เบอร์เรสฟอร์ด ย่อมไม่ธรรมดา แล้วเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามองเอามากๆ สำหรับการไปเยือนยุโรปรอบนี้

จากสถิติการเล่นเกมลีกให้กับ อุทัยธานี 6 นัด วัดจากผู้เล่นตำแหน่งแบ็คขวา อาทิ เลี้ยงผ่านคู่แข่ง 14 ครั้ง (อันดับ 2 ของลีก), เข้าปะทะสำเร็จ 11 ครั้ง (อันดับ 2 ของลีก), พาบอลขึ้นหน้า 629.16 (อันดับ 1 ของลีก) และ ดวลตัวต่อตัวชนะ 34 ครั้ง (อันดับ 4 ของลีก) นับว่าเขาคือฟุลแบ็คที่ครบเครื่องและเป็นแถวหน้าของไทยในช่วงเวลานี้

อย่างไรก็ตามบททดสอบในเกมกับ ทีมชาติจอร์เจีย และ ทีมชาติเอสโตเนีย คงเป็นด่านสำคัญที่เขาต้องผ่านไปให้ได้ หากหวังที่จะติดทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่อง แล้วได้มีส่วนร่วมกับเกม ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่เป็นความหวังสูงสุดของแฟนฟุตบอลชาวไทย ที่อยากจะเห็นตัวแทนของเราได้ไปบอลโลกรอบสุดท้ายสักครั้ง

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://www.transfermarkt.co/james-beresford/leistungsdatendetails/spieler/726973/plus/0?saison=&verein=55265&liga=&wettbewerb=&pos=&trainer_id=

https://www.facebook.com/ThailandNTOFFICIAL

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

‘วู กึน-ยอง’ เผยความลับ ‘เกาหลีใต้’ ทำอย่างไรถึงผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2002

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด