เชาว์วัฒน์ วีระชาติ : ประสบการณ์ 2 ครั้งที่ เซเรโซ โอซาก้า กับประตูสู่แข้งเจลีกที่ยังเปิดกว้าง

เชาว์วัฒน์ วีระชาติ : ประสบการณ์ 2 ครั้งที่ เซเรโซ โอซาก้า กับประตูสู่แข้งเจลีกที่ยังเปิดกว้าง
ชยันธร ใจมูล

เชาว์วัฒน์ วีระชาติ คือหนึ่งในนักเตะของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เคยค้าแข้งในญี่ปุ่นถึง 2 ช่วงอายุ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2018 ตอนที่เขาอายุ 22 ปี และอีกครั้งในปี 2022 ที่เขาอยุ 26 ปี

การไปค้าแข้งทั้ง 2 ครั้งของเชาว์วัฒน์ เป็นการเล่นให้ เซเรโซ โอซาก้า โดยเป็นชุดใหญ่ 1 ครั้ง ชุดเล็ก 1 ครั้ง ... ตอนนี้เขาอายุ 27 ปี แล้ว ประตูสู่เจลีกของเขายังไม่ปิดตาย และนี่คือเหตุผลว่าทำไม "อินซ์" จึงมีโอกาสนับ 3 อีกครั้งกับการค้าแข้งในประเทศญี่ปุ่น ติดตามเรื่องราวทั้งหมดที่นี่

เชาว์วัฒน์ กับ เซเรโซ 2 หนก่อนหน้านี้ ?

อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้น เชาว์วัฒน์ เคยไปเล่นให้กับ เซเรโซ โอซาก้า ทีมดังจากเจลีก 2 หน ใน 2 ช่วงอายุ ครั้งแรกในปี 2018 เขาไปในฐานะสมาชิกของทีมชุดยู 23 เท่านั้น ซึ่งทีมชุดยู 23 ของ เซเรโซ โอซาก้า นั้นได้สิทธิ์ลงแข่งขันในศึกเจลีก 3 และ เชาว์วัฒน์ เล่าถึงช่วงเวลานั้นว่า

เชาว์วัฒน์ วีระชาติ – เซเรโซ โอซากา – ฟุตบอลไทรบ์ ประเทศไทย
Photo : BGPU

"ตอนที่มไปอยู่กับ เซเรโซ โอซาก้า ชุดยู 23 ผมตื่นเต้นและเซอร์ไพรส์กับสภาพแวดล้อมที่ต้องบอกว่าไม่เคยเจอ สิ่งที่ผมเห็นครั้งแรกและประทับใจในนักเตะญี่ปุ่นคือจะพยายามฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา"

"ไม่ว่าจะเป็นก่อนซ้อมหรือหลังซ้อมเพื่อผลักดันตัวเองไปข้างหน้า นั่นทำให้กลับไปเราก็เอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้เราได้มีโอกาสลงเล่นและเป็นตัวหลักของทีม ซึ่งมาจากรูปแบบการเล่น, สภาพความฟิต และสปีดบอลที่เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะซึ่งการมาครั้งนั้นก็ระดับการเล่นของเรา" เชาว์วัฒน์ กล่าวย้อนความตอนที่เขาอายุ 22 ปี

ณ เวลานั้นการไปค้าแข้งในญี่ปุ่น ถือเป็นข่าวใหญ่ของฟุตบอลไทย แม้ เชาว์วัฒน์ จะเล่นในลีกดิวิชั่น 3 ของ ญีปุ่น แต่ก็มีการรายงานข่าวและเรื่องราวของเขาจากญี่ปุ่นมาถึงเมืองไทยอยู่เสมอแบบไม่มีตกหล่น ซึ่งถ้าใครยังจำกันได้ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่คนไทยมีความสุขมาก เวลาได้เห็นข่าวนักเตะไทยได้ลงสนาม หรือแม้กระทั่งได้รับคำชมจากโค้ชและเพื่อนร่วมทีม ช่วงเวลานั้นทำให้เรารู้สึกลุ้นไปกับตัวแทนของชาติด้วย

ชูเสื้อแล้ว! เซเรโซ่ โอซาก้า เปิดตัว "เชาว์วัฒน์" สวมเบอร์ 49 ลุยเจลีก
Photo : Cerezo Osaka

แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากนัก แต่หลังจากกลับมาบ่มเพาะฝีเท้าที่ญี่ปุ่น และกลับมาค้าแข้งในไทยอีกครั้งกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เชาว์วัฒน์ ก็แสดงความยอดเยี่ยมออกมา เขากลายเป็นนักเตะที่ดีขึ้นไม่น้อย

เดิมทีเขาอาจจะเป็นกองกลางที่ส่งบอลเก่ง แต่หลังจากกลับมาจากญี่ปุ่นรอบนั้น เชาว์วัฒน์ กลายเป็นนักเตะที่แย่งบอลเก่ง อยู่ถูกที่ถูกเวลา เติมเข้ากรอบเขตโทษ และมีส่วนต่อการยิงประตูของทีมบ่อยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เรียกได้ว่านอกจากจะได้เรื่อของความขยันแล้ว ญี่ปุ่นยังสอนให้เขาเข้าใจจังหวะเกมมากขึ้น ตอนไหนควรตั้งใจเล่นเกมรับ ตอนไหนควรสอดขึ้นมา ? ... ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนไปถึงสถิติการยิงประตูของเขาด้วย โดยในฤดูกาล 2018-19 ที่ "อินซ์" กลับจาก เซเรโซ เขายิงได้ถึง 8 ประตูให้กับ บีจี โดยที่ก่อนหน้านี้เขายิงได้แค่ 3 ลูกเท่านั้นจากการเล่นไทยลีกมา 5 ฤดูกาล

Photo : BGPU

นอกจากนี้ อินซ์ ยังต่อยอดถึงขั้นการเป็นกำลังสำคัญชุดที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีกกับ บีจี ปทุม ในฤดูกาล 2020-21 อีกด้วย เรียกได้ว่าฟอร์มของเขาขึ้นหม้อจริง ๆ ในช่วงเวลานั้น ... เรื่องนี้ยืนยันได้จากหลังจากที่พัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด เซเรโซ โอซาก้า ก็กลับมาอีกครั้ง เพื่อติดต่อยืมตัวเขาไปร่วมทีมในฤดูกาล 2022 ซึ่งหนนี้ถือเป็นโอกาสำคัญมาก ๆ เพราะเป็นการเล่นในเวทีใหญ่ กับทีมชุดใหญ่ ซึ่งทำให้ เชาว์วัฒน์ ตกลงอย่างรวดเร็ว

ผลออกมาไม่ค่อยเป็นอย่างที่หวัง หนนี้ เชาว์วัฒน์ ไม่ได้ลงเล่นให้ เซเรโซ โอซาก้า ชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ ... แต่รู้อะไรไหม ? เขาได้แรงบันดาลใจครั้งใหญ่จากความผิดหวังครั้งนั้น

ล้มเพื่อรู้

"มันเหมือนฝันที่เป็นจริงที่ได้คืนสู่ทีมชุดใหญ่ของเซเรโซ ผมมีความสุขมากๆ ตอนที่ได้รู้ว่าผมจะได้กลับมาเล่นที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ผมคิดว่าผมได้ทำตามความฝันของผมเร็วมากๆ ผมว่ามันคงจะเป็นเรื่องดีถ้าได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมชาติและในประเทศไทยอีกสัก 2-3 ปี แล้วก็ได้กลับมาเล่นที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง" เชาว์วัฒน์ เล่าถึงการกลับไป เซเรโซ โอซาก้า หนที่ 2

แน่นอนมันคือความล้มเหลว แต่ เชาว์วัฒน์ ยืนยันว่า การไปเห็นโลกเปลี่ยนแปลงมุมมองต่าง ๆ มากมายในตัวของเขา และเหนือสิ่งอื่นใดคือ ความผิดหวัง คือสิ่งที่ผลักดันเขาให้พยายามไปให้สูงขึ้นยิ่งกว่าที่เคยเป็น

Photo : Cerezo Osaka

"ถ้ามองในแง่นั้น(การได้ค้าแข้งในญี่ปุ่น) ผมดีใจมากๆ ที่ผมได้รับโอกาสตรงนั้นแล้ว ผมคิดว่ามันก็ง่ายๆ นะ เพราะผมรักฟุตบอล ทำให้ผมอยากจะเล่นฟุตบอลต่อไป"

แน่นอนว่าการได้ไปเห็น และได้ไปสัมผัสบรรยากาศของทีมชุดใหญ่โดยตรง ทำให้ เชาว์วัฒน์ เห็นจุดอ่อนและสิ่งต่าง ๆ ของตัวเองมากมาย เขาเล่าว่ามันทำให้เขาวางเป้าหมายใหม่ นั่นคือการยกระดับตัวเองให้ได้มากที่สุด

แม้ที่สุดแล้วอาจจะไปไม่ถึง แต่นี่แหละความเป๋นมนุษย์ ที่บางครั้งมันก็ต้องเกิดปัญหา ไม่ว่าจะจากด้านไหน ๆ และมันส่งผลให้เกิดอาการขึ้น ๆ ลง ๆ บ้าง แต่สิ่งที่เขาไม่เปลี่ยนใจแน่ คือการทำระดับตัวเองให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนวันที่เขาแขวนสตั๊ด

Photo : BGPU

"ถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณรัก คุณก็จะทำมันไปได้เรื่อยๆ ถ้าไม่มีความรู้สึกตรงนั้น ผมคิดว่าคุณคงไม่มีทางที่จะพัฒนาขึ้นได้ ถ้าคุณถามผมว่าแรงจูงใจคืออะไร ผมคงตอบว่าเป็นเพราะผมรักฟุตบอล มันทำให้ผมทุ่มเทได้อย่างเต็มที่" เขาตอบด้วยแววตาที่เป็นประกาย

ปรัชญานักสู้ของ เซเรโซ โอซาก้า

ตอนนี้ในวัน 27 ปี เชาว์วัฒนื วีระชาติ ยังไม่ถือว่าปิดตายประตูสู่ลีกญี่ปุ่นเสียทีเดียว เพราะด้วยอายุขนาดนี้ สำหรับนักฟุตบอลทั่วโลกนี่คือค่าเฉลี่ยที่หลายคนบอกว่าเป็นช่วง "พีก" ที่สุดในอาชีพค้าแข้ง

ดังนั้นถ้าเชาว์วัฒน์ รักฟุตบอลจริง ๆ และตั้งเป้าพัฒนาตัวเองจริง ๆ อย่างที่เขาบอก ทำไมเขาจะไปยืนในจุดนั้นอีกครั้งไม่ได้ ?

ธีราทร บุญมาทัน ได้แชมป์เจลีกกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ตอนอายุ 30 ปี ธีรศิลป์ แดงดา ไปค้าแข้งในเจลีกครั้งแรกตอนอายุ 29 ปี และยิงประตูแรกในเจลีกด้วยวัยเดียวกัน ... จะเห็นได้ว่าช่วงอายุของ เชาว์วัฒน์ ไม่ได้มากเกินไปเลยที่จะฝันไปค้าแข้งในญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยเอาสิ่งที่เขาเรียนรู้มาจาก เซเรโซ โอซาก้า ที่นอกจากเป็นพันธมิตรกับ บีจี ปทุม แล้ว พวกเขายังเป็นสโมสรที่มีปรัชญาแห่งการให้โอกาส ... เหมาะสำหรับนักเตะที่เป็นตัวแทนและความหวังของชาติอย่างเขาด้วย

เดี๋ยวนี้บอลลีกญี่ปุ่น (เจลีก) มีนักเตะไทย ๕ คนแล้วนะครับ... ป๊าดดด - Pantip
PHOTO : J League

เพราะ เซเรโซ โอซาก้า มีปรัชญาการขับเคลื่อนสโมสรและเมืองของพวกเขาด้วยปรัชญาที่ชื่อว่า Hanasaka นั่นคือการมี มีปณิธานข้อหนึ่งที่ล้ำหน้ายิ่งกว่าสโมสรอื่นๆ หมายถึงการสร้างทีมเพื่อความแข็งแกร่งของภาพรวมวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ส่วนแชมป์นั้น "แค่เรื่องเล็ก"

แม้ฟังดูแล้วจะเป็นนโยบายที่ดูโลกสวยสวนทางกับโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน แต่ความจริงคือ เซเรโซ คือทีมที่ตั้งใจจะสร้างนักฟุตบอลท้องถิ่นให้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะแถวหน้าของประเทศ เหมือนกับที่พวกเขาสร้าง ชินจิ คางาวะ และอีกหลาย ๆ คนให้ได้ไปค้าแข้งในยุโรป

ซึ่งจุดเริ่มต้นของ Hanasaka นั้นจริง ๆ แล้ว Hanasaka ไม่ได้เป็นแค่เพียงปรัชญาของสโมสร เซเรโซ โอซาก้า เท่านั้นแต่เรื่องราวต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ที่ มาโกคิชิ ยามาโอกะ ได้ก่อตั้งบริษัท "ยันมาร์" ขึ้นมาในหมู่บ้านเกษตรกรเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง จุดเริ่มต้นไม่ใช่เกิดจากความที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจหรือความมั่งคั่ง แต่เป็นการพยายามที่จะทำให้ พ่อ-แม่ ของเขาทีเป็นเกษตรกรได้มีสิ่งที่มาแบ่งเบาภาระ ให้ได้ใช้ชีวิต และมีความสบายในแบบที่ควรจะเป็น

Photo : Yanmar

สิ่งนี้ทำให้เกิดคำว่า Hanasaka หรือที่แปลว่า "ความปรารถนาที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนรอบตัว" เกิดขึ้น และเขาก็ใช้มันเป็นปรัชญาของ บริษัท ยันมาร์ จนประสบความสำเร็จ และแน่นอนมันถูกใช้กับสโมสรฟุตบอลที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้พนักงานของบริษัท ยันมาร์ ได้ออกกำลังกายอย่างสโมสร "ยันมาร์ ดีเซล" หรือ "เซเรโซ โอซาก้า" ในปัจจุบัน

คุณจะเห็นได้ว่า เซเรโซ โอซาก้า ไม่ได้แค่ให้โอกาสนักเตะญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เมื่อพวกเขาเป็นพันธมิตรกับ บีจี พวกเขาก็ช่วยขับเคลื่อนฟุตบอลไทยด้วยการให้ประสบการณ์ระดับมืออาชีพกับนักเตะดาวรุ่งของ บีจี มากมายหลายคน ซึ่งปลายทางของเรื่องนี้คือเหล่าดาวรุ่งที่ได้โอกาสและได้รับการผลักดันของทั้ง 2 ทีม จะกลายเป็นคนที่ส่งต่อ "ความปรารถนาที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนรอบตัว" สืบต่อกันไป ให้เกิดการเติบโตในภาพร่วมทั้งด้านฟุตบอลและสังคม

Photo : GOAL THAILAND

โอกาสเป็นของคนที่กล้าฝัน กล้าลงมือทำ และกล้าพัฒนาตัวเอง หาก เชาว์วัฒน์ ยังคงเดินหน้าต่อตามคำกล่าวไม่แน่ว่าประตูสำหรับการกลับไปเล่นในเจลีกครั้งที่ 3 ยังคงเปิดอ้ารอให้เขาเข้าไปพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งก็เป็นได้

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ