'เดอะ ดิโอโก้': ซูเปอร์เพลย์เยอร์ + ทีมเพลย์เยอร์ = สมบูรณ์แบบ
ผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่ไทยลีกเคยมีมาอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ ได้ประกาศแขวนสตั๊ดไปเรียบร้อยแล้ว และวันนี้เราจะพาไปรู้จักจุดเริ่มต้นแห่งตำนาน...
นักเตะบราซิลบางคนมาแต่ชื่อ ทว่าใจไม่มาด้วย... แต่ทำไม ดิโอโก้ จึงกลายเป็นสุดยอดในทุกยุทธวิธีการเล่น ไม่ว่าจะให้เขาบู๊คนเดียว หรือเล่นเป็นทีมก็สุดยอดทั้งนั้น
นี่คือเรื่องราวเบื้องหลังของ "ดิโอโก้" 1 เดียวคนนี้
ที่มา...ไม่เท่าที่ไป
นักเตะหลายคนแบกดีกรีความสำเร็จมากมายมาค้าแข้งในไทยลีก แต่กลับทำผลงานไม่เอาไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการปรับตัว และหนึ่งในปัจจัยการปรับตัวคือเรื่องของทัศนคติ เพราะที่ที่พวกเขาจากมาคือฟุตบอลในระดับที่สูงกว่าไทยลีกอย่างไม่ต้องสงสัย และการถอยมาเล่นในเกมลีกที่คุณภาพต่ำลง หากคุณไม่มีความทะเยอทะยานมากพอ คุณก็จะลดระดับคุณภาพตัวเองลงอย่างไม่รู้ตัว
ทว่า ดิโอโก้ ไม่ใช่แบบนั้น หากดูจากที่มาของเขาถือว่าไม่ธรรมดา นักเตะระดับที่เคยถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่, เคยมีค่าตัวกว่า 10 ล้านปอนด์, เคยลงเล่นในเวทีระดับยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มีเพื่อนสนิทระดับ เนย์มาร์ และเมื่อเป็นนักเตะบราซิลด้วยแล้ว นักเตะชาตินี้ขึ้นชื่อด้วยการเป็นคน "ชิลๆ" เล่นบอลไปกับความรู้สึก และขาดแรงผลักดัน หรือบางคนหนักถึงขั้นขาดความรับผิดชอบ
ดิโอโก้ เล่าถึงที่มาของเขาว่า
"ผมได้รับข้อเสนอจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และคุณต้องเข้าใจนะว่า นักฟุตบอลทั่วโลก ต้องการความท้าทายใหม่อยู่เสมอ ผมเห็นว่าบุรีรัมย์ เป็นยักษ์ใหญ่ของที่นี่ และมีโครงสร้างพื้นฐานของความเป็นสโมสรฟุตบอลที่ดีมากๆ ในทุกๆอย่าง…นั่นคือความประทับใจแรกของผมกับที่นี่"
"การที่ผมมาที่นี่ มันจะทำให้ผมสัมผัสรายการใหญ่ที่สุดของ 3 ทวีปทั่วโลกเลยทีเดียว… จริงๆ ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเมืองไทยเลย แต่การได้เห็นแฟนบอลเข้ามาชมเกมมากมายขนาดนี้ คือ สิ่งที่ผมประทับใจ นักฟุตบอลทุกคนมีความสุขเมื่อได้เห็นแฟนบอลเข้ามาเต็มความจุของสนาม และฟุตบอลไทยก็ได้สร้างความประหลาดใจให้ผมเพิ่มขึ้นๆทุกวัน"
เขาตื่นเต้น...และมาพร้อมกับทัศนคติของความเป็นมืออาชีพในแบบที่เป็นตัวอย่างให้กับทุกคนรอบข้างได้ เขาอธิบายวิธีการทำงานของเขาว่า
"ผมแค่ชอบซ้อมให้หนัก และเอาชนะ ผมไม่ชอบแม้กระทั่งความพ่ายแพ้ในการฝึกซ้อม หน้าที่ของผม คือ การยิงประตูเท่านั้น"
สิ่งที่ ดิโอโก้ บอกตรงกับที่หลายคนเล่า มีเรื่องเล่าจากทีมสต๊าฟฟ์บุรีรัมย์ ว่า ดิโอโก้ ยอดเยี่ยมแค่ไหนแม้ในวันที่ไม่ได้อยู่ในสนามแข่งขันจริง
“ดิโอโก้ เป็นคนที่ซีเรียสมากเวลาฝึกซ้อม เขาเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยแสดงอาการเหยาะแหยะ หรือไม่เต็มที่ ทุกๆการฝึกซ้อม จะเห็นชัดเลยว่า เขามีความตั้งใจมากเป็นพิเศษกว่าคนอื่นๆ ไม่ว่าจะร่วมงานกับโค้ชคนไหน เขาเป็นคนที่รับฟัง แล้วทำตามทุกอย่างที่โค้ชบอก ทำให้เขาเข้าใจแท็คติกได้เร็ว และสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง”
“อีกอย่างคงเป็นเพราะ ดิโอโก้ มีความสามารถเฉพาะตัวสูง ไม่ว่าจะจับเขาไปเล่นตรงไหน แท็คติกอะไร เขาก็จะทำให้สิ่งที่ดูยากๆ ของฟุตบอล ให้ดูเป็นเรื่องง่ายไปหมด” จ๊อบบี้ - บริพัทธ์ สูนรอด ล่ามแปลภาษาประจำทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พูดถึงยอดดาวยิงชาวบราซิลเช่นนั้น
นอกจากเก่งแล้ว ตั้งใจซ้อมแล้ว ดิโอโก้ ยังเป็นนักเตะที่เล่นเพื่อทีม ทำให้ทีมทำงานกันง่ายขึ้นเมื่อมีเขาลงสนาม ว่าง่าย ๆ ก็คือเป็นนักเตะที่วินัยในการเล่นสูง ทุ่มเทจริงจัง พยายามลงมาช่วยทีมเล่นเกมรับ ลงมาล้วงบอลตลอด ไม่ยืนกางมุ้งรอยิงอย่างเดียว เหนือสิ่งอื่นใดคือเมื่อเวลาที่ ดิโอโก้ เสียบอล เขามักจะพยายามเอาบอลคืนมาให้ได้ ... นี่คือสิ่งที่เราเห็นได้ไม่บ่อยในนักเตะต่างชาติดีกรีสูง ๆ ในไทยลีก
ดิโอโก้ อาจจะไม่ใช่คนที่ยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยลีก แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าเขามีเวลาเล่นที่นี่ไม่นาน แต่ถ้าจะบอกถึงความสุดยอดของเขาได้ดีขึ้นอีกยิ่งกว่าผลงานส่วนตัว นั่นคือความพิเศษที่หลายคนบอกว่า "ดิโอโก้ ทำให้คนรอบข้างเก่งขึ้น"
ศุภชัย ใจเด็ด, รัตนากร ใหม่คามิ, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา และดาวรุ่ง บุรีรัมย์ หลายคนเรียก ดิโอโก้ ว่า "พี่ชาย" สิ่งที่บ่งบอกถึงความสนิทสนมของพวกเขาได้คือทุกครั้งที่เด็ก ๆ ของบุรีรัมย์ ยิงได้ ดิโอโก้ มักจะเป็นคนแรกที่เข้ามาดีใจด้วยเสมอ เขาทำแม้กระทั่งท่าเช็ดรองเท้าและบรรจงจูบสตั๊ดของ ศุภชัย โดยไม่ถือตัวเลยแม้แต่ด้วยกับดีกรีที่เขามี
ดิโอโก้ เล่าว่าสำหรับเขา "คำว่าทีมต้องมาก่อน" แม้การยิงประตูในไทยลีกจะไม่ใช่เรื่องเหนือบ่าฝ่าแรงของเขา แต่ทุกครั้งที่เพื่อนมีโอกาสดีกว่า หรือในเกมที่สกอร์ขาดลอยเขาก็ไม่ลังเลที่จะ "ถวายพาน" ให้กับน้อง ๆ หรือเพื่อนร่วมทีมให้ได้ยิงประตูบ้าง
ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกถามก่อนซีซั่นเริ่มว่า "ตั้งเป้าว่าซีซั่นนี้จะยิงกี่ประตู" คำตอบของเขากลับเรียบง่ายและทรงพลัง มีเพียงคำกล่าวว่า "มันตอบยากว่ามาแล้วผมจะยิงได้สักกี่ลูก ผมแค่มาแล้วทำให้ได้ดีที่สุด ผมรู้แหละว่าตอนนี้ ผมทำลายสถิติดาวซัลโวไปแล้ว แต่ที่บุรีรัมย์ เวลาเราชนะ เราชนะด้วยกัน "
ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำให้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ ดิโอโก้ กับฟุตบอลไทยลีก กลายเป็นช่วงเวลาที่แฟนๆ ในไทยลีกได้เห็นนักเตะที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเชื่อเหลือเกินว่าหลายคนคงยกมือสุดแขนในการที่จะบอกว่า ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึง ณ ปัจจุบัน "ดิโอโก้ คือ เบอร์ 1 ของไทยลีกตลอดกาล" อย่างแท้จริง