เห็นอะไรบ้างในเกม ‘แบงค็อก’ รองแชมป์เก่า เปิดหัวฤดูกาลด้วยสามแต้มแบบหืดจับ?

ศึก ไทยลีก 2024/25 ระเบิดความมันกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเกมเปิดหัวเป็นรองแชมป์เก่า ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดรังเหย้ารับการมาเยือนของ พีที ประจวบ เอฟซี ที่เป็นการดวลกันระหว่างบอลเกมรุกของเจ้าถิ่นที่คุมทีมโดย โค้ชแบน-ธชตวัน ศรีปาน และบอลเกมรับจอมฉวยโอกาสอย่าง โค้ชเตี้ย-สะสม พบประเสริฐ

แฟนบอลแข้งเทพอาจเป็นกังวลเล็กน้อย เมื่อได้เห็นการเสริมทัพของทีมที่ไม่ดุดันเท่าไหร่นัก คว้าแนวรุกหลักๆ เข้ามาเติมมิติเกมบุกเพียงไม่กี่คน ส่วนผู้เล่นที่เหลือตัวหลักยังคงเน้นไปที่หน้าเดิมๆ เพราะบอลของโค้ชแบน ยังคงต้องการความเข้าใจและการประสานงานของผู้เล่นเป็นจุดขาย

ส่วนทางทีมเยือน ต่อพิฆาต แท็คติกของ โค้ชเตี้ย ยังคงเน้นเกมรับ รอเล่นงานคู่แข่งจากจังหวะสวนกลับ รวมไปถึงการเล่นลูกฉาบฉวยจากลูกเซ็ตพีซต่างๆ เหมือนเดิม เรียกได้ว่าไม่ยอมพ่ายง่ายๆ ถึงไม่ได้สามแต้มก็ขอหนึ่งแต้มติดมือ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขารอดตกชั้นเมื่อฤดูกาลก่อน

เมื่อสองทีมที่มีสไตล์บอลแตกต่างกันแบบสุดขั้วมาเจอกัน รูปเกมจะออกมาเป็นแบบไหน? เห็นอะไรบ้างในเกมนี้ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

เกมรับยังพอไว

สิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับขุนพลแข้งเทพ คือ แนวรับที่ยังคงเล่นได้อย่างแข็งแกร่งเหมือนเดิม การประสานงานของแผงแบ็คโฟร์ นิติพงษ์ เสลานนท์ (แบ็คขวา), เอเวอร์ตัน (เซนเตอร์แบ็ค), สุพรรณ ทองสงค์ (เซนเตอร์แบ็ค) และ พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา (แบ็คซ้าย) ต่างมองตาก็รู้ใจทั้งเข้าทั้งซ้อนกันได้อย่างลงตัว จนเล่นเอาแนวรุกทีมเยือนทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันในครึ่งแรก

อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าบ้านได้ประตูออกนำจากลูกยิงของ พีรพัฒน์ ตั้งแต่ช่วงท้ายครึ่งแรก 1-0 การกลับลงมาในช่วงครึ่งหลังกลับผ่อนเกมลง ยังเร่งเครื่องไม่ถึงจุดเหมือนในครึ่งแรก ประกอบกับ โค้ชเตี้ย กุนซือมากแท็คติกของ ต่อพิฆาต ไปแก้เกมมาอย่างเฉียบคม จึงกลายเป็นที่มาของประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะเผลอของแนวรับ บียู

แล้วก็กลายเป็นอดีตขวัญใจแฟน แบงค็อก อย่าง วานเดอร์ หลุยส์ ที่มาซ้ำง่ายๆ เข้าไปให้ทีมเยือนตามตีเสมอได้ในช่วงเวลาสำคัญ แต่เรื่องที่ยังคงพอทำให้แฟนบอลแข้งเทพยังพอเหลือความรักให้กับดาวยิงรายนี้อยู่บ้าง คือ ‘การไม่แสดงอาการดีใจ’ หลังยิงประตูทีมเก่าได้

ก่อนหน้าที่ ไทย ลีก จะเริ่มขึ้น โค้ชแบน เคยกล่าวถึงช่วงเวลาปรีซีซั่นแค่สามสัปดาห์ เอาไว้ก่อนหน้านี้เป็นการสะท้อนว่า

“ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ก็ไม่มากไม่น้อยเกินไป แต่ว่าถามว่านักฟุตบอลก็อาจจะได้พักน้อยไปหน่อยสำหรับตัวพี่นะ ตัวพี่เองสำหรับสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ก็แทบยังไม่ได้พักเท่าไหร่ ยังต้องวางแผนทำงานต่อไปเรื่อยๆ เพื่อนำมาใช้ในฤดูกาลต่อไป”

โค้ชแบน มองว่าลูกทีมของเขานั้นต้องเสียสละพักน้อยกว่าปกติเพื่อเตรียมทีมให้พร้อมมากที่สุด แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดในเกมนี้ คือ การที่ทีมยังคงต้องยึดตัวจริงหน้าเดิมเป็นแกนหลักไว้ก่อน ยังไม่มีการส่งตัวใหม่ลงไปใน 11 ตัวจริงชุดแรก เนื่องจากบอลของ บียู ยุคนี้ยังคงต้องอาศัยความเข้าใจเป็นหลัก ขนาดใช้หลังชุดเดิมยังโดนทีมเยือนบุกมายิงได้ 1 ประตูจนเกือบแย่ไปเหมือนกัน ดีที่ทาง เอเวอร์ตัน กลายเป็นฮีโร่สกัดบอลออกจากเส้นประตูได้ในนาทีสุดท้าย

เกมรุกยังไม่ลงตัว

แนวรุกของ แบงค็อก ที่เปิดด้วยสามประสาน รุ่งรัฐ (หน้าขวา), มูห์เซน (หน้าเป้า) และ มาห์มูด (หน้าซ้าย) แต่ละคนล้วนมีทีเด็ดที่ต่างกันออกไป รุ่งรัฐ นั้นมีทีเด็ดทั้งเรื่องของการออกบอลและพยายามตัดเข้ามาด้านในเพื่อหาจังหวะยิงด้วยซ้าย มูห์เซน รอพักเพื่อหาจังหวะยิง และ มาห์มูด จะพยายามสอดเข้าสู่พื้นที่อันตรายเพื่อหาจังหวะจบสกอร์

การมีสามประสานกองกลางอย่าง ปกเกล้า อนันต์, วีระเทพ ป้อมพันธุ์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ทุกคนล้วนมีทักษะในการเล่นเกมรุกและเกมรับได้อย่างสมดุล ยิ่งไปกว่านั้นแต่ละคนล้วนออกบอลให้ปีกและแบ็คโอเวอร์แลปจากด้านข้างได้อย่างน่ากลัว

แต่ความเฉียบคมในการจบสกอร์ถือว่ายังเป็นปัญหาชัดๆ ที่จนถึงตอนนี้ แบงค็อก ยังไม่มีแนวยิงแนวโป้งปิดบัญชีที่ไว้ใจได้ ทำให้เกมบุกของพวกเขาถึงทำได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา โชคยังดีที่วันนี้ พีรพัฒน์ โชว์ฟอร์มพระเอกยิง 1 และมาจ่ายอีก 1 ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ด้วยการครอสแม่นๆ ให้ทาง นิว-ฐิติพันธ์ โหม่งเข้าไปเป็นประตูชัยในนาทีที่ 80

การกลับมาของ ฐิติพันธ์ คือ หนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้แผงกลาง แบงค็อก ครองเกมได้อย่างเหนือกว่าชัดเจน ด้วยการมีสถิติครองบอลสูงถึง 62.5% แถมยังคงช่วยเกมรับด้วยการวิ่งไล่แบบไม่มีหยุด เกมรุกก็ยังคงมีเซ้นส์ในการเติมขึ้นไปหาจังหวะยิงประตูได้ดีเช่นเดิม

อย่างไรก็ตามหากลูกทีมของ โค้ชแบน ยังคงเล่นด้วยแท็คติกที่ใช้พละกำลังสูงไปเรื่อยๆ ผลลัพธ์ก็สามารถออกได้ทั้งสองหน้าไม่ว่าจะเป็น ‘บวก’ - ร่างกายอยู่ตัวฟิตสมบูรณ์ไม่มีอาการบาดเจ็บ หรือ ‘ลบ’-ตัวหลักบาดเจ็บจนทีมเสียทรงขาดความต่อเนื่อง

สิ่งเหล่านั้นเป็นประสบการณ์จากฤดูกาลที่แล้วที่ทาง โค้ชแบน รู้ดีว่าต้องนำมาปรับแก้หากหวังจะแย่งแชมป์ ไทยลีก 2024/25 มาครอง ยิ่งไปกว่านั้นการปรับตัวของนักเตะใหม่อย่าง ริไจโร ซิฟโควิช ที่โปรไฟล์มาดูดี แต่ผลงานในสนามเกมนี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง อาจทำให้พวกเขาต้องหาแนวรุกที่ฝากผีฝากไข้ได้จริงๆ เข้ามาเพิ่มเติมในภายหลัง

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การชมเกมถ่ายทอดสด

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด