เหตุใด ซน ฮึง-มิน จึงไม่อ่อนโยนกับแฟนจีน แต่เลือกทำท่าจุ๊ปากใส่ ?
ทีมชาติเกาหลีใต้ แสดงให้เห็นถึงคลาสที่แตกต่างจากเพื่อนร่วมทวีป หลังเปิดบ้านถล่มสิงคโปร์ 5-0 ต่อด้วยบุกไปยิงจีน 3-0 แบบเอาท์คลาสชนิดรูปเกมสู้กันไม่ได้ ประเดิมเก็บ 6 คะแนนเต็ม ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก
ดาวเด่นของทีมโสมขาวจากสองเกมแรกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกเสียจาก ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมคนดังจาก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ทำไป 3 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ โดยเฉพาะเกมกับ จีน นั้น เขาโชว์ฟอร์มเป็นพระเอกเลยทีเดียว
นอกจากผลงานอันยอดเยี่ยมแล้ว ซน ฮึง-มิน ยังเป็นประเด็นเรื่องการแสดงท่าดีใจจุ๊ปากใส่แฟนบอลคู่แข่ง หลังจากยิงจุดโทษขึ้นนำในนาทีที่ 11 จน อู่ เล่ย กองหน้าจีน ไม่พอใจและพยายามเข้ามาต่อว่า แต่กัปตันเกาหลีใต้ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนที่ ฮวาง ฮี-ชาน จะเข้ามาแยกอีกฝ่าย
ด้วยความที่ ซน ฮึง-มิน เป็นนักเตะที่มีอัธยาศัยดีและอ่อนน้อมถ่อมตน มันเลยเกิดคำถามในใจของใครหลายคนว่า ทำไมเขาถึงเลือกที่จะทำท่าดีใจที่ออกแนวยั่วยุแฟนบอลจีน ? มันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ? คำตอบก็คือ "มี"
คามจริง ซน ฮึง-มิน ถูกจุดไฟในตัวตั้งแต่ก่อนเกมแล้ว หลัง เจียง เฉิงหลง เซ็นเตอร์แบ็คทีมชาติจีนไปให้สัมภาษณ์สื่อว่า เขารู้วิธีหยุดดาวยิงจากสเปอร์สและมั่นใจว่าจะทำได้ หลังจากศึกษาการเล่นของคู่แข่งมาเป็นอย่างดี
"ผมดูวีดีโอและศึกษาการเล่นของ ซน ฮึง-มิน นับครั้งไม่ถ้วน เราหาวิธีที่จะหยุดยั้ง ซน ฮึง-มิน มาแล้ว ผมบอกรายละเอียดไม่ได้ มาดูกันว่าเราจะหยุดเขาได้ยังไง" เจียง เฉิงหลง กล่าว
นั่นทำให้ ซน ฮึง-มิน มีแรงฮึดที่จะล่าตาข่าย ทีมชาติจีน เป็นพิเศษ ถึงขนาดปลุกเร้าลูกทีมก่อนเกมว่า พวกเขาจะเปิดเกมรุกชนิดไม่ให้อีกฝ่ายได้หายใจหายคอ ก่อนสุดท้ายเขาจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ หลังทำไป 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์
"บอกตามตรง ตอนที่ผมได้ยินว่า พวกเขารู้วิธีหยุดผม พวกเขาไม่สนใจผม ผมรู้สึกไม่ดีที่ได้ยินอะไรแบบนั้น ผมเคารพความคิดเห็นของนักเตะทุกคนนะ แต่การแสดงความเห็นแบบนั้น มันยากที่จะเข้าใจจริง ๆ" ซน ฮึง-มิน ให้สัมภาษณ์หลังจบเกม
เมื่อนำความรู้สึกตรงนี้มาบวกกับพฤติกรรมของ แฟนบอลจีน ที่ส่งเสียงโห่เขา แถมยังเอาเลเซอร์มายิงใส่เพื่อก่อกวนสมาธิอีก ทำให้ ซน ฮึง-มิน รู้สึกว่าตัวเองต้องตอบโต้อะไรกลับไปบ้าง จนเป็นที่มาของการทำท่าดีใจจุ๊ปากใส่แฟนบอลเจ้าถิ่นนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
ปฏิกิริยาสื่อเกาหลี : หลัง ทีมชาติไทย ตั้ง อิชิอิ ก่อนดวลกันในคัดบอลโลก
อ้างอิง
https://sportalkorea.com/news/view.php?gisa_uniq=2023112216201436
https://www.chosun.com/sports/football/2023/11/22/LTSOMI2DF5KA5MSEUMN6CAAE6E/