เหตุใด ฟุตบอลเอเชียนคัพ จึงไม่มีการชิงอันดับ 3 ?

เหตุใด ฟุตบอลเอเชียนคัพ จึงไม่มีการชิงอันดับ 3 ?
วิสูตร ดำหริ

ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 ดำเนินมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว ซึ่งปีนี้เป็นการดวลกันระหว่างสองทีมจากตะวันออกกลางอย่าง เจ้าภาพกาตาร์ แชมป์เก่ารายการนี้ กบ จอร์แดน ม้ามืดประจำทัวร์นาเมนต์ที่หักปากกาเซียนเข้ามา

นี่ถือเป็นคู่ชิงดำที่พลิกความคาดหมายมาก ๆ เพราะก่อนหน้านี้หลายคนต่างคาดว่า ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ หรือ อิหร่าน น่าจะได้ชิงความเต้ยของลูกหนังเอเชีย แต่ไป ๆ มา ๆ ทั้งสามทีมเต็งกลับกระเด็นตกรอบไปแบบเรียบวุธ

โดยเฉพาะ เกาหลีใต้ กับ อิหร่าน ที่พลาดท่าแพ้ในรอบรองชนะเลิศ และต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านทันที โดยไม่ได้แม้แต่ลงเล่นในรอบชิงอันดับ 3 เป็นรางวัลปลอบใจ ซึ่งต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลก

ล่าสุด The Hankyoreh หนังสือพิมพ์เกาหลีใต้ ได้ออกมาเล่นประเด็นนี้ โดยระบุว่า สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) ได้ตัดเกมชิงอันดับ 3 ออกไปจากเอเชียนคัพเมื่อปี 2019 หลังแมทช์ดังกล่าวถูกบรรจุในโปรแกรมมาตั้งแต่ปี 1972

เหตุผลข้อแรกก็เพราะฟุตบอลเอเชียนคัพถูกจัดขึ้นกลางฤดูกาลของลีกยุโรป นักเตะจากสโมสรในลีกอังกฤษ, เยอรมัน, สเปน, อิตาลี และฝรั่งเศส ต้องโบกมือลาต้นสังกัดเพื่อมารับใช้ชาติ ดังนั้นทันทีที่เสร็จสิ้นโปรแกรมแข่งขัน พวกเขาจึงต้องรีบบินกลับไปช่วยสโมสรตามเดิม อย่างในรายของ ซน ฮึง-มิน รีบบินตรงดิ่งกลับลอนดอน เพื่อช่วย ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ลงเล่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ส่วนเหตุผลข้อสอง The Hankyoreh วิเคราะห์ว่า มันเป็นเพราะเงินรางวัลจากการคว้าอันดับ 3 เอเชียนคัพ มันไม่ได้มากมายอะไร เมื่อเทียบค่าจ้างของนักเตะที่รับอยู่กับสโมสร หรือค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้หากนักเตะได้รับบาดเจ็บ

เกาหลีใต้ และ อิหร่าน ที่แพ้ในรอบรองชนะเลิศเอเชียนคัพ ได้รับเงินรางวัลราว 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (35 ล้านบาท) ในขณะที่ โครเอเชีย ที่คว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022 ได้รับไป 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (965 ล้านบาท) ส่วน โมร็อคโค ทีมอันดับ 4 ได้รับไป 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (893 ล้านบาท)

ปัจจัยเหล่านี้คือสาเหตุที่ AFC ตัดสินใจยกเลิกแมทช์ชิงอันดับ 3 จากฟุตบอลเอเชียนคัพ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ บางคนมองว่าเกมนี้ไม่ได้มีความหมายด้วยซ้ำ หากมองในเรื่องของแรงจูงใจ มันเทียบกับเกมในรอบอื่น ๆ ไม่ติดเลย

แชร์บทความนี้
ฟุตบอล, อนิเมะ, กาแฟ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ