เหตุใด เจลีก จึงปรับเวลาเปิด/ปิดฤดูกาล มาเป็นเดือนสิงหาคม-พฤษภาคม ?
นับตั้งแต่ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 1993 ฟุตบอลเจลีกก็ยึดรูปแบบเปิดฤดูกาลในฤดูใบไม้ผลิ (กุมภาพันธ์-มีนาคม) และปิดฤดูกาลในฤดูใบไม้ร่วง (พฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม) มาโดยตลอด
อย่างไรก็ดี สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA) มองว่า โปรแกรมที่เป็นอยู่ไม่เอื้อต่อเกมฟุตบอลในปัจจุบันแล้ว จึงผลักดันแผนปรับเวลาเปิด-ปิดฤดูกาลใหม่ มาเปิดในฤดูใบไม้ร่วง (เดือนสิงหาคม) และปิดในฤดูใบไม้ผลิ (เดือนพฤษภาคม) แทน
JFA ได้ปรึกษาหารือกับ 60 สโมสรในลีกอาชีพ (เจลีก, เจทู, เจทรี) มาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยตอนแรกหลายทีมยังคัดค้านแนวคิดดังกล่าว โดยเฉพาะบรรดาทีมที่ตั้งอยู่ในเมืองเขตหนาว เพราะตารางใหม่นี้ต้องลงแข่งในฤดูหนาวด้วย สภาพอากาศที่โหดร้ายจึงเป็นอุปสรรคสำคัญ
อย่างไรก็ดี ล่าสุดในการประชุมบอร์ดบริหารของเจลีก ได้มีการลงมติอย่างเป็นทางการแล้วว่า ตั้งแต่ฤดูกาล 2026/27 เป็นต้นไป ฟุตบอลลีกญี่ปุ่นจะเปลี่ยนมาใช้ปฏิทินแข่งระหว่างเดือนสิงหาคม-พฤษภาคมแทน
เหตุผลที่ JFA ตัดสินใจปรับเวลาเปิด-ปิดฤดูกาลใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับตารางแข่งลีกยุโรป, เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และศึกชิงแชมป์สโมสรโลก นักเตะจากยุโรปจะได้เดินทางกลับมารับใช้ทีมชาติได้สะดวกขึ้น และพวกเขาก็วางคิวอุ่นเครื่องทีมชาติได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ JFA ได้ทำการศึกษาตารางแข่งแบบเดิมและพบว่า มาตรฐานการเล่นของแต่ละสโมสรตกลงไปในช่วงหน้าร้อน ดังนั้นจึงพยายามลดเกมช่วงหน้าร้อนลงให้มากที่สุด เพื่อคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพของการแข่งขันในสนาม
เหตุผลข้อสุดท้ายคือ JFA ต้องการเพิ่มปริมาณการปล่อยนักเตะไปเล่นในยุโรปในตลาดซัมเมอร์ ในเมื่อปรับเวลามาปิดฤดูกาลพร้อมกันแล้ว สโมสรจากยุโรปก็สามารถเจรจาดึงนักเตะจากเจลีกไปร่วมทีมได้ง่ายขึ้น ขณะที่สโมสรในเจลีกก็จะทำเงินจากการขายนักเตะได้มากขึ้นเช่นกัน
อ้างอิง
https://www.sponichi.co.jp/soccer/news/2023/10/19/kiji/20231019s00002179098000c.html