วิบากกรรม ‘อี คัง-อิน’ : กระแสสังคมเกาหลีต้านหนัก จี้ทีมชาติแบนตลอดชีพ
ความขัดแย้งระหว่าง ซน ฮึง-มิน กับ อี คัง-อิน จากชนวนเหตุดราม่าปิงปองในแคมป์ทีมชาติเกาหลีใต้ ระหว่างทำศึกเอเชียนคัพ 2023 กลายเป็นประเด็นร้อนที่กลบทุกกระแสข่าวในเวลานี้
แรงสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์ดังกล่าว พลอยทำให้ เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ถูกปลดจากตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติ ทั้งที่พวกเขามีโปรแกรมลงเล่นฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก กับ ทีมชาติไทย รออยู่ในเดือนหน้า
ฝั่ง อี คัง-อิน รีบออกขอโทษที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อรุ่นพี่ ส่วนประเด็นเหวี่ยงหมัดใส่ ซน ฮึง-มิน จนได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือนั้น ทนายความของ อี คัง-อิน ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่เป็นความจริง ขณะที่ฝั่งของ ซน ฮึง-มิน ยังปิดปากเงียบจนถึงตอนนี้
ปฏิกิริยาของคนเกาหลีที่มีต่อเรื่องนี้ ส่วนใหญ่เทไปทาง ซน ฮึง-มิน ด้วยความที่เขาเปรียบเสมือนสมบัติของชาติ ผู้ออกไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเป็นเวลานับ 10 ปี ที่สำคัญเขายังปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีมาตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกสนาม
อี คัง-อิน ในฐานะคู่กรณีของนักเตะผู้เป็นที่รักของคนทั้งประเทศ จึงตกเป็นเป้าโจมตีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นจากคำแถลงการณ์ของเขา พออนุมานได้ว่ามีการปีนเกลียวใส่ ซน ฮึง-มิน เกิดขึ้นจริง
มันเลยกลายเรื่องใหญ่มาก ๆ ในเกาหลีใต้ เพราะสังคมของพวกเขาให้ความสำคัญกับระบบอาวุโสมาก ๆ รุ่นน้องต้องให้ความเคารพต่อรุ่นพี่เสมอ การกระทำของ อี คัง-อิน ในครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่คนเกาหลียอมรับไม่ได้
แม้แต่ อี ชอน-ซู อดีตแข้งทีมชาติเกาหลีใต้ชุดคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2002 ยังแสดงความผิดหวังในตัวของ อี คัง-อิน โดยกล่าวว่า "บอกตามตรง ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริง ๆ เกาหลีใต้คือประเทศที่มีธรรมเนียมปฏิบัติ เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์แบบรุ่นพี่รุ่นน้อง "
นี่คือเหตุผลที่ อี คัง-อิน โดนคอมเมนต์รุมถล่มอย่างหนักในโซเชียลมีเดีย ถึงขนาด KT บริษัทเทเลคอมชั้นนำของเกาหลีใต้ที่จ้าง อี คัง-อิน เป็นพรีเซ็นเตอร์มานาน 6 ปี ต้องรีบเอาโฆษาตัวใหม่ของเขาลงก่อนกำหนด เพราะทนกระแสในแง่ลบที่มีต่อตัวนักเตะไม่ไหว
มันยังไม่จบเพียงแค่นั้น สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ (KFA) ยอมรับว่า มีคำร้องหลายเล่มถูกส่งเข้ามาเพื่อเรียกร้องให้แบน อี คัง-อิน จากทีมชาติตลอดชีวิต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเกรี้ยวกราดของสังคมได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า KFA คงไม่บ้าจี้ไปแบน อี คัง-อิน ตลอดชีพ เพราะเขาถือเป็นดาวดวงใหม่ของวงการฟุตบอลเกาหลีใต้ ที่ถูกคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นรับช่วงต่อจาก ซน ฮึง-มิน และจะเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติในระยะยาว
แต่เบื้องต้นอาจมีการลงโทษทางวินัยต่อนักเตะ เช่น ไม่เรียกติดทีมชาติในเกมคัดบอลโลกกับ ทีมชาติไทย ในเดือนมีนาคมนี้ ไม่ใช่แค่ในรายของ อี คัง-อิน เท่านั้น แต่ยังรวมถึง ซน ฮึง-มิน ด้วย
"มาตรการลงโทษทางวินัย เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้เล่นในประเทศ มาตรการที่เราทำได้คือไม่เรียกพวกเขาติดทีมชาติในครั้งต่อไป มันเป็นเรื่องที่เราจะพูดคุยกับเฮดโค้ชคนใหม่" ชอง มง-กยู ประธาน KFA กล่าว
ขณะที่โค้ชคนใหม่ของเกาหลีใต้นั้น KFA ประกาศแล้วว่าจะใช้งานโค้ชในประเทศ ซึ่งแคนดิเดตคงหนีไม่พ้น ฮง มยอง-โบ, ชเว ยง-ซู, ฮวาง ซู-ฮง และ คิม กี-ดง ซึ่งจะได้ทราบความชัดเจนภายในเดือนนี้
ข่าวและบทความล่าสุด