เขาคุยอะไรกัน ? : เมื่อ มัลดินี่ ประจันหน้าอีกครั้งกับอดีตแข้งเกาหลีใต้ชุดบอลโลก 2022

เรื่องราวแค้นเคืองระหว่าง อิตาลี กับเกาหลีใต้ ในฟุตบอลโลกปี 2002 ยังคงถูกพูดถึงอยู่เสมอในหมู่แฟนบอล ... และสำหรับนักเตะที่อยู่ในทีมอัซซูรี่ชุดนั้นอย่าง เปาโล มัลดินี่ กัปตันทีมล่ะจะว่าอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 21 ปี ?

ฉากดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในรายการของช่อง EA Online ของเกาหลีใต้ โดยรายการดังกล่าวได้เชิญเอา อี ชอน ซู ปีกซ้ายตัวทีมชาติเกาหลีใต้ชุดคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2002 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพมาเล่าแรงบันดาลใจต่าง ๆ ให้่เด็ก ๆ ได้ฟัง และตอบคำถามหลาย ๆ คำถามซึ่งเป็นไปในทิศทางของความสนุกสนาน และมอบกำลังใจ ... จนกระทั่งแขกรับเชิญอย่าง เปาโล มัลดินี่ เดินเข้ามาสีหน้าของ อี ชอน ซู ก็เปลี่ยนไป

ทั้งสองคนประจันหน้ากันสักพักก่อนที่ มัลดินี่ จะเริ่มยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะจับมือกันและเริ่มให้สัมภาษณ์ถึงวันเก่า ๆ ในอดีต โดยเฉพาะในเกมฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ เกาหลีใต้ เอาชนะ อิตาลี ไปในช่วงต่อเวลาพิเศษ

โดยในเกมนั้น อี ชอน ซู เคยมีเรื่องกับ มัลดินี่ เพราะเป็นคนที่เตะใส่หัวของ มัลดินี่ จนเขาเดือดดาล และที่สำคัญ อิ ชอน ซู ก็ไม่ได้โดนใบเหลืองในจังหวะดังกล่าวด้วย

นี่คือบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งที่ถอดมาโดย www.spotvnews.com โดยเนื้อหาที่ทั้งสองคนคุยกันมีดังนี้

มัลดินี่ : "ผมพูดจริง ๆ ผมจำไม่ได้(ว่าโดนอีชอนซู เตะหัว) คุณก็รู้เพราะมีเหตุการณ์อะไรต่อมิอะไรมากมายเกิดขึ้นในเกมนั้น(หัวเราะ)"

"เรา(ทีมชาติอิตาลี) จบเกมนั้นด้วยความเจ็บปวด แต่ที่สุดแล้วผมต้องบอกว่ามันเป็นเกียรติที่ได้แข่งขันกับ เกาหลีใต้ ในวันนั้น เราเอาความทรงจำที่เจ็บช้ำเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดัน และสุดท้ายเรากลายเป็นแชมป์โลกในอีก 4 ปีต่อมา(ฟุตบอลโลกปี 2006)

อี ชอน ซู : "ผมไม่รู้มาก่อนว่า มัลดินี่ จะมาอยู่ตรงนี้ ผมเกร็งและประหม่าเมื่อเห็นเขา แต่ มัลดินี่ ต้อนรับผมด้วยรอยยิ้มและปฎิบัติต่อผมดีมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะผมเกร็งมาก ๆ วางมือวางไม้ไม่ถูกเลยคุณดูสิ จับมือเขาเมื่อกี๊เล่นเอาซะเหงื่อผมแตกจนมือเปียกโชกเลย (หัวเราะ)"

"ผมมีจำเรื่องราวในปี 2002 เกมนั้นได้เป็นอย่างดี ผมมีเกมหลายเกม มีนักเตะหลายคนเข้ามาในความทรงจำ แต่แปลกดีที่เกมนั้นยังตรึงใจเสมอ ... ส่วนในเกมนั้นต้องบอกว่าเราไม่ได้เจออิตาลีบ่อย ๆ มันคือเกมสำคัญ ดังนั้นผมต้องทำทุกอย่างในสถานการณ์ที่บีบคั้นแบบนั้น เราต้องสู้ทุกอย่างด้วยทุกสิ่งที่มี"

"ถ้ามันมี VAR มันจะเป็นการฟาวล์และผมจะต้องเดือดร้อนแน่นอน แต่ตอนนั้นมันยังไม่มี มันคือโชคดีของผม และผมยืนยันว่าถึงตอนนี้ผมเสียใจและอยากจะขอโทษกับจังหวะนั้นจริง ๆ"