‘เคนนี่ ดูกัลล์’ กลางรับดีกรียุโรป โควต้านักเตะไทยสุดคุ้มของ ‘บุรีรัมย์’
ก่อนหน้านี้มีข่าวลืออย่างหนาหูว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมโละโควต้านักเตะต่างชาติบางรายออกไป เพื่อเปิดทางให้กับผู้เล่นต่างชาติรายใหม่ ที่พวกเขามองว่า น่าจะมีศักยภาพพาทีมบินได้สูงกว่าที่เป็นอยู่ หลังจากในเลกแรกผลงานของทีมทั้งในถ้วยชิงแชมป์เอเชีย และ ไทย ลีก ยังไม่เป็นไปตามเป้า
ซึ่งหลายสื่อเริ่มเล่นทิศทางข่าวไปในทางเดียวกันว่าตัวเต็ง คือ ‘เคนนี่ ดูกัลล์’ กองกลางอดีตทีมชาติออสเตรเลียวัย 30 ปี
และสุดท้ายก็เป็นจริงจนได้ แต่ประเด็นที่น่าแปลก คือ ดูกัลล์ กลับไม่ได้มาในโควต้านักเตะต่างชาติ แถมยังมีลุ้นในการเล่นให้กับ ‘ทีมชาติไทย’ ในอนาคตอีกด้วย เบื้องลึกเบื้องหลังของประเด็นที่น่าสนใจนี้มีที่มาอย่างไร? ชีวิตการค้าแข้งที่ผ่านมาของเขามีเรื่องราวอื่นๆ ที่พอจะนำมาเล่าสู่กันฟังเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยได้อีกหรือไม่? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
มือปืนรับจ้างพาเลื่อนชั้น
ดูกัลล์ มีพ่อเป็นชาวสก็อตแลนด์ ส่วนคุณแม่เป็นชาวไทย หากสังเกตจากหน้าตาคงพอเจะเห็นเค้าโครงความคล้ายคลึงกับนักเตะลูกครึ่งชาวไทยคนอื่นๆ อยู่บ้าง แต่ยิ่งไปกว่านั้นตัวของเขายังเกิดและเติบโตที่ประเทศออสเตรเลีย ส่งผลให้เขาสามารถเลือกเล่นให้กับทีมชาติได้ถึงสามชาติ คือ ช้างศึก, แดนขี้เมา หรือ ซอคเกอร์รูส์ นั่นจึงเป็นที่มาว่า ทำไม ดูกัลล์ จึงลงทะเบียนในฐานะ ‘นักเตะไทย’ ได้เพราะสายเลือดจากฝั่งคุณแม่
ดูกัลล์ เป็นนักเตะเยาวชนจากสถาบัน ควีนแลนด์ส (Queensland Academy of Sport) หรือ QAS ก่อนจะย้ายไปอยู่ในอคาเดมี่ของ บริสเบน รอร์ ทีมดังในศึก เอ ลีก หลังจากเขาก็ก้าวสู่เส้นทางนักเตะอาชีพเต็มตัว ด้วยการลงเล่นให้กับสโมสร บิรสเบน ซิตี้ ด้วยวัยเพียง 20 ปี
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ ดูกัลล์ คือ เซ้นส์ฟุตบอลในการเล่นเกมรับ รวมไปถึงความสาระพัดประโยชน์ในตำแหน่งการเล่น เนื่องจากสามารถลงเล่นได้ทั้ง กองกลางตัวรับ, แบ็คซ้าย หรือแม้แต่ตัวริมเส้นทั้งสองฝั่ง เรียกได้ว่าทีมไหนก็ตามที่มีเขาเป็นสมาชิกอยู่ภายในทีม แทบจะหมดห่วงเรื่องหาตำแหน่งให้ลงเล่นไปได้เลย
หลังจากย้ายออกจาก บริสเบน ซิตี้ ดาวเตะสายเลือดไทยรายนี้ก็เลือกที่จะย้ายไปผจญภัยในลีกรองประเทศฮอลแลนด์กับสโมสร เทลสตาร์ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ สปาร์ตา ร็อตเตอร์ดัม อดีตแชมป์บอลลีกและบอลถ้วยของแดนกังหันลม ที่ผลงานกำลังอยู่ช่วงขาลงตกชั้นมาเล่นในลีกรองเป็นเวลานานถึง 6 ฤดูกาล
พอทาง ดูกัลล์ ย้ายมาเล่นกับ สปาร์ตา เป็นฤดูกาลแรกในซีซั่น 2015-2016 ก็มีส่วนสำคัญในการพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด ด้วยการลงสนามไปถึง 32 นัด แถมยังลงเล่นครบ 90 นาทีไปถึง 26 นัด จบฤดูกาลในฐานะแชมป์ เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ
หลังจากโลดแล่นอยู่บนเวทีลีกสูงสุดประเทศฮอลแลนด์เป็นเวลาสองฤดูกาล ดูกัลล์ ก็เลือกจะย้ายไปหาความท้าทายใหม่ๆ กับ ‘เจ้าตูบ’ บาร์นสลี่ย์ ทีมในศึก ลีก วัน ประเทศอังกฤษ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เขาสามารถพาต้นสังกัดเลื่อนชั้นสู่ศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ได้สำเร็จในฤดูกาล 2018/19 ในฐานะรองแชมป์
อย่างไรก็ตามเมื่อขึ้นไปอยู่ในลีกรองกับ เจ้าตูบ โอกาสในการลงสนามของ ดูกัลล์ กลับน้อยลงกว่าเดิม ส่งผลเป็นการเปิดทางให้เขาย้ายไปอยู่กับ แบล็คพูล ในปี 2020 ซึ่งในซีซั่นปกติพวกเขาจบในอันดับที่ 3 ต้องไปเล่นรอบ เพลย์ ออฟ ต่อแล้วก็ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
ซึ่งก็เหมือนเทพนิยายเขียนบทไว้ให้กับ ดูกัลล์ เป็นฮีโร่ เมื่อเขาเป็นคนเหมายิงคนเดียวสองประตู พาทีมเอาชนะ ลินคอล์น ซิตี้ ไปได้ 2-1 พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เป็นทีมที่สองในอาชีพการค้าแข้ง
ส่วนสถานการณ์กับต้นสังกัดทีมล่าสุดอย่าง แบล็คพูล ช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มมีข่าวลือหน้าหูว่า ดูกัลล์ จะย้ายออกจากทีม พร้อมมีข่าวเชื่อมโยงกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนาหูขึ้นเรื่อยๆ มีช่วงที่เขาหายตัวไปอย่างลึกลับจากสโมสรแบบไม่มีใครรู้ข้อมูลใดๆ
ซึ่งก็ยังไม่มีใครรู้ข้อมูลตรงจุดนี้ว่าแท้จริงแล้ว ดูกัลล์ หายตัวไปจากสโมสร แบล็คพูล เพราะสาเหตุไหนกันแน่ เนื่องจากการให้สัมภาษณ์ของผู้จัดการทีมอย่าง นีล คริทช์ลี่ย์ ในแต่ละสื่อค่อนข้างกำกวม
โดยทางสื่ออย่าง แบล็คพูลกาเซ็ตต์ รายงานบทสัมภาษณ์แรกของ คริทช์ลี่ย์ เอาไว้ว่า
“ดูกัลล์ หายไปจากทีมเพราะผมต้องการหมุนเวียนผู้เล่นเหมือนกับที่ผ่านๆ มา เรามีจำนวนเกมที่เล่นต่อๆ กันหลายเกม แล้วมีผู้เล่นหลายคนที่บาดเจ็บอยู่ ซึ่งเขาอาจจะกลับมาในเกมต่อๆ ไป”
อย่างไรก็ตามคอมเมนท์จากแฟนบอลในทวิตเตอร์ ก็เริ่มมองว่า ต้องมีการย้ายทีมของดูกัลล์เกิดขึ้นแน่ๆ แต่ทาง คริทช์ลี่ย์ ก็ออกมาปฏิเสธเสมอว่าเป็นแค่ข่าวลือ
ผ่านมาในอีก 2-3 วัน ปัญหาที่ ดูกัลล์ หายตัวไปก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนออกมา ซึ่งคราวนี้ท่าที่ของ คริทช์ลี่ย์ ดูจะเปลี่ยนทีท่าไปจากเดิมตามที่ให่สัมภาษณ์ว่า
“เขามาร่วมฝึกซ้อมกับทีมเป็นเวลา 1-2 วันก่อน แล้วอยู่ในช่วงพิจารณาว่าจะได้ลงเล่นหรือไม่? เนื่องจากเขากำลังเจอกับปัญหาส่วนตัว แล้วเขาต้องใช้เวลาในการแก้ไขมันให้เสร็จสิ้น หวังว่าทั้งเขาและเราจะแก้ไขมันได้สำเร็จอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นแหละคือสถานการณ์ที่เขาเผชิญอยู่ในตอนนี้”
สุดท้ายแล้วก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนออกมาจากทั้งตัวนักเตะหรือสโมสรว่า ช่วงเวลาที่ดูกัลล์หายตัวไปนั้น มาจากสาเหตุใดกันแน่ ซึ่งทุกอย่างจบลงแค่คำว่า ‘รอ’ เพื่อจะหาข้อสรุปว่า เรื่องราวทั้งหมดจบลงแบบไหนเท่านั้น ซึ่งถ้าเขาโผล่มาเปิดตัวกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เร็วๆ นี้ อาจทำให้เส้นเรื่องทั้งหมดเชื่อมโยงกันจนเป็นคำตอบที่แท้จริงก็้เป็นได้
โอกาสเป็นขุนพล ‘ทัพช้างศึก’
ดูกัลล์ เคยผ่านการเล่นทีมชาติออสเตรเลีย U-23 ไปแล้ว 6 นัด ก่อนจะถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติชุดใหญ่ในยุคของ เกรแฮม อาร์โนลด์ ลงเล่นให้กับทัพ ซอคเกอร์รูส์ ไปทั้งหมด 5 นัด อย่างไรก็ตามเขายังมีโอกาสลุ้นในการเล่นให้กับ ‘ทีมชาติไทย’ ได้อยู่ เนื่องมาจากการเปลี่ยนกฎของ ฟีฟ่า ที่มีการแก้เรื่องการย้ายสัญชาติให้กับนักเตะ เพื่อความเสมอภาคในด้านต่างๆ อันมีเหตุผลต่างๆ ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอนาคตของตัวนักเตะ และ ประเทศที่แยกตัวออกมาภายหลัง จากความคิดของ จานนี่ อินฟานติโน่
โดยในหัวข้อที่ 9 ได้ระบุเอาไว้ว่า หากนักเตะจะย้ายสัญชาติ ต้องเข้ากับเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1.นักเตะต้องถือสัญชาติของชาติใหม่อยู่ในขณะที่ลงเล่นเกมแรกให้กับชาติใหม่เรียบร้อยแล้ว
2.ต้องไม่เล่นเกมทีมชาติชุดใหญ่อย่างเป็นทางการเกิน 3 นัด ก่อนอายุ 21 ปี
3.ต้องไม่เคยเล่นในรายการใหญ่ระดับทวีปรอบสุดท้าย อาทิ เช่น ฟุตบอลโลก, ฟุตบอลยูโร หรือ ฟุตบอลโกปา อเมริกา และอื่นๆ ในระดับเดียวกัน
4.ผู้เล่นรายนั้นๆ ที่ต้องการย้ายสัญชาติ ต้องเล่นเกมให้กับชาติก่อนหน้านัดสุดท้ายผ่านไปแล้ว 3 ปี
ดูกัลล์ มีชื่อติด ทีมชาติออสเตรเลีย ชุดใหญ่ ครั้งสุดท้ายในเกม ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ด้วยการนั่งเป็นตัวสำรองข้างสนามไม่ได้ลงเล่น ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2022 แต่หากนับเป็นเกมที่ลงสนามจริง คือ เกมอุ่นเครื่องกับ จอร์แดน ในวันที่ 6 มกราคม 2022 ซึ่งตัวของ ดูกัลล์ ก็เคยแย้มเกี่ยวกับเลือกเล่นทีมชาติเอาไว้ในช่วงแรกว่า
“ผมเป็นคนบริสเบน แต่ก็เคยไปอาศัยอยู่ในสก็อตแลนด์ตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงที่ประเทศไทยด้วย”
“ผมยังไม่เคยถูกเรียกไปติดทีมชาติสก็อตแลนด์ แต่ถ้าเป็นไปได้ มันก็เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับพ่อผมนะ แต่ผมก็ชอบออสเตรเลียเหมือนกัน นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผม”
หากทีมชาติไทยรอเขาได้ถึงช่วงเดือน มกราคม 2025 แล้วต้องการกำลังสำคัญเข้าไปเสริมทีมในตำแหน่งแดนกลาง โอกาสที่เขาจะหันมาเลือกเล่นให้กับ ไทย แล้วได้กลับไปเล่นบนเวทีระดับชาติอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว แล้วไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
https://www.transfermarkt.com/kenny-dougall/nationalmannschaft/spieler/334804/verein_id/3433
https://football-tribe.com
https://www.goal.com/th/ข่าว/ดกลลด-แขงเชอสายไทย-ซดเบลพาแบลคพลขนแชมเปยนชพ/1mboguhuaqzuc1ng4zfkgo1s4v
ข่าวและบทความล่าสุด
RELATED BY AUTHOR
‘บีจี-ท่าเรือ’ การเจอกันของสองสโมสรจอมทุ่ม ที่มีเป้าหมายปลายทางไม่ต่างกัน
MOST POPULAR
ราชวินิตมัธยมลงดาบแข้งโหด ห้ามลงเตะทุกรายการ-ตัดทุนการศึกษา
"ลูกเจี๊ยบสายฟ้า" ร่วมกับ "อีโก้" วางขายสินค้าคอลเลกชั่นใหม่
นายกฯเศรษฐา โพสต์ถึงจิรวัฒน์ เชียร์โต๊ะเล็กไทยชิวแชมป์เอเชีย
เมืองทองเตรียมฟ้องเปา กังขาทีมเสียจุดโทษ-ปรเมศย์โดนศอก
บิ๊กหยิมเผยคัสตอมพร้อมบู๊ T3 เตรียมใช้แข้งเด็กสู้ซีซั่นใหม่
