‘เคย์สุเกะ โกโต’ กองหน้าวัย 18 ปี จาก 'เจลีก สอง' ที่ใช้เวลาปีเดียวปูทางสู่ลีกเบลเยี่ยม

‘เคย์สุเกะ โกโต’ กองหน้าวัย 18 ปี จาก 'เจลีก สอง' ที่ใช้เวลาปีเดียวปูทางสู่ลีกเบลเยี่ยม
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

จูบิโล่ อิวาตะ สโมสรจาก เจลีก สอง ที่ได้เลื่อนชั้นอัตโนมัติจากการจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ในฤดูกาล 2023 แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องการลงทะเบียนผู้เล่นใหม่ที่ถูกลงโทษแบน เนื่องจากปัญหาเรื่องสัญญาของนักเตะ แต่พวกเขาก็มีกองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปี ก้าวขึ้่นมาเป็นความหวังใหม่ของทีมอย่าง ‘เคย์สุเกะ โกโต’

โกโต เป็นผู้เล่นเยาวชนของทีมในตำแหน่งศูนย์หน้า แล้วจากสถานการณ์ของทีมที่ไม่มีทางเลือกจากการลงทะเบียนผู้เล่นใหม่ไม่ได้ในฤดูกาลนี้ ส่งผลให้เขาถูกดันขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับทีมชุดใหญ่ทันที แล้วปรากฎว่าผลงานของเจ้าหนูรายนี้กลับทำได้เกินเป้า

PHOTO : Prince Rupert's Tower

ขณะนี้สื่อเจ้าใหญ่ในต่างประเทศยืนยันแล้วว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการย้ายไปเล่นให้กับสโมสร อันเดอร์เลชท์ ยู-21 หรือที่รู้จักกันในชื่อทีม “RSCA FUTURES” แข่งขันอยู่ในลีกรองประเทศเบลเยี่ยม 

โกโต นั้นมีจุดเด่นตรงไหนถึงไปเตะตาทีมในยุโรป? ผลงานของเขาในฤดูกาลนี้เป็นเช่นไร? มูลค่าการย้ายทีมของเขานั้นคิดเป็นเงินเท่าไหร่? มีผู้เล่นสัญชาติญี่ปุ่นรายอื่นๆ ย้ายไปฟักตัวที่ลีกดังกล่าวอีกหรือไม่? เทียบกับสถานการณ์ของ ‘’แบงค์-ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา” แล้วแตกต่างกันอย่างไร? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ดีลสายฟ้าแลบ

โกโต ดาวยิงวัยแค่ 18 ปี เจ้าของส่วนสูง 191 เซนติเมตร ลงสนามให้กับ จูบิโล่ อิวาตะ ในฤดูกาลนี้ไปทั้งหมด 33 นัด ทำไป 33 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ โดยส่วนใหญ่เขาจะถูกใช้งานเป็นตัวสำรอง ลงสนามรวมในลีกไปแค่ 183 นาทีเท่านั้น

เมื่อนำจำนวนประตูของ โกโต มาหารเฉลี่ยกับจำนวนนาทีที่ลงสนาม หมายความว่า เขาจะใช้เวลาเพียงแค่ 26.142 นาที ต่อการส่งบอลเข้าไปกองในก้นตาข่ายคู่แข่ง แล้วจากรูปร่างที่ได้เปรียบเป็นทุนเดิม ย่อมทำให้โอกาสก้าวไปเล่นในลีกยุโรปของเขาไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน

หลังจากจบภารกิจในการพา จูบิโล่ จบในตำแหน่งรองแชมป์ เจ ทู สื่อฟุตบอลก็เริ่มมีการตีข่าวว่า โกโต เตรียมย้ายไปเล่นในลีกยุโรป แต่เจ้าตัวกลับเดินทางกลับมายังบ้านเกิดประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าข่าวที่ตีกันออกมาก่อนหน้านี้เป็นจริงหรือไม่?

ท้ายที่สุด Niwews Blad สื่อชื่อดังในประเทศเบลเยี่ยม ก็ออกมาเฉลยเรื่องนี้ไว้ว่า

“โกโต เดินทางไปฝึกซ้อมกับ RSCA Futures ที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่ประกาศการย้ายทีมอย่างเป็นทางการเท่านั้น”

PHOTO : GOAL

“ตอนแรกเริ่ม โกโต จะต้องเล่นให้กับ RSCA Futures ซึ่งเป็นทีมชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีของสโมสร อันเดอร์เลชท์ ในลีกรองไปก่อน หากผลงานดีก็จะถูกพิจารณาดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ต่อไป” 

ปัจจุบันสัญญาของ โกโต กับ จูบิโล่ ยังคงเหลือระยะเวลาถึงปี 2027 หมายความว่า ดีลนี้ทาง อันเดอร์เลชท์ ทีมแม่ หรือ RSCA Futures จำเป็นต้องจ่ายค่าตัวในการย้ายทีมให้กับต้นสังกัด ซึ่งถ้าหากยึดข้อมูลจากเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Transfermkt จะตกอยู่ที่ประมาณ 250,000 ยูโร หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 9,550,000 บาท

การส่งออกนักเตะเมื่อเทียบกับไทย

นอกจาก โกโต ดาวรุ่งจากญี่ปุ่นที่กำลังจะย้ายไปเล่นในลีกเบลเยี่ยมอีกหนึ่งราย เจ ลีก มีการผลักดันนักเตะออกไปเล่นยังประเทศดังกล่าวอีกหลายดีล ยกตัวอย่างเช่น โคเซย์ ทานิ ผู้รักษาประตูวัย 23 ปี กับสโมสรเอฟซีวี เดนเดอร์ และ ชิอน ฮอมมะ กองกลางวัย 23 ปี ที่เล่นให้กับ คลับ เอ็นเอ็กซ์ที ทีมสำรองของสโมสร คลับ บรูกก์

ยิ่งไปกว่านั้น ยูเมกิ โยชินากะ ตัวริมเส้นวัย 17 ปี ดีกรีทีมชาติรุ่นเยาวชนจากโรงเรียนมัธยม คามิมูระ กาคุเอน ก็เตรียมย้ายซบทีมสำรองของ เกงค์ ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าอย่างเป็นทางการ ก้าวกระโดดข้ามการเล่นลีกอาชีพในบ้านเกิดไปเลย

หากมองย้อนกลับไปถึงบทสัมภาษณ์ของ แบงค์-ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ตัวรุกวัย 21 ปีทีมชาติไทย จากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งจะย้ายไปอยู่กับ โอเอช ลูเวิน ด้วยสัญญายืมตัวเป็นระยะเวลา 6 เดือน คงไม่แปลกใจที่เจ้าตัวจะเสียดายเวลาที่ออกนอกประเทศช้าเกินไป ตามที่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Gu Talk ไว้ว่า

“ตอนแรกที่ผมไปซ้อมกับ เลสเตอร์ ช่วงอายุประมาณ 19-20 ปีประมาณนั้น แล้วรู้สึกมีคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่า ทำไมเราถึงมายุโรปช้าจัง? เพราะว่าตอนนั้นมีอายุ 17-18 ปีขึ้นมา ผ่านการไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่มาแล้วด้วย”
PHOTO : GOAL
“ผมรู้สึกว่าผมมาตอนอายุ 20 ยังช้าไปเลย ถ้าสมมติมีโอกาสได้ออกมาเล่นต่างประเทศก่อนหน้านี้ ก็จะเลือกมายุโรปก่อนเลย อย่างน้อยสมมติว่าเราไม่ประสบความสำเร็จ เรากลับไปก็ยังอยู่ในช่วงอายุที่ไม่แก่เกินไปในการจะไปเล่น เจ ลีก”

ดังนั้นเมื่อเทียบภาพเรื่องแนวทางการบริหารของ ไทย กับ ญี่ปุ่น คงมองเห็นถึงข้อแตกต่างอย่างชัดเจนได้ว่า ชาติชั้นนำเขามองล่วงหน้าไว้ไกลขนาดไหน? แผนการส่งออกนักเตะของพวกเขามีต่อเนื่องไม่เคยขาด แล้วสุดท้ายนักเตะเหล่านั้นก็จะกลายเป็นกำลังหลักให้กับทีมชาติในอนาคต

ส่วนบ้านเราก็ยังคงวนเวียนอยู่ในลูปแบบเดิมๆ ต้นสังกัดต้องการเก็บตัวเก่งเอาไว้ใช้งานล่าแชมป์ไปก่อนตามวิสัยทัศน์ผู้บริหาร กว่าจะส่งออกไปได้แต่ละคนแฟนบอลต้องลุ้นต้องเชียร์กันแบบใจหายใจคว่ำ ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าเรื่องนี้ควรจะเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางที่ดีขึ้นได้แล้วในอนาคต

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :  https://www.youtube.com/watch?v=tPjOek2Mf1A

https://web.ultra-soccer.jp/news/view?news_no=454207

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘เดวิด คิสต์’ ผู้สานต่อโปรเจ็คท์ U20 บลูล็อคสไตล์จิงโจ้

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ