เกิดอะไรขึ้นกับ ชอนบุค ? เมื่อมหาอำนาจลูกหนังเกาหลีใต้ พบกับจุดตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี

เกิดอะไรขึ้นกับ ชอนบุค ? เมื่อมหาอำนาจลูกหนังเกาหลีใต้ พบกับจุดตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี
PHOTO : K League
วิสูตร ดำหริ

ความพ่ายแพ้ต่อ โปฮัง สตีลเลอร์ส 2-4 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นหมายความว่า ชอนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ต้องจบฤดูกาลด้วยการไม่มีถ้วยแชมป์ในประเทศติดมือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

นับตั้งแต่ปี 2014 ไม่เคยมีปีไหนที่ ชอนบุค คว้าน้ำเหลวมาก่อน อย่างแย่ ๆ พวกเขาต้องมีแชมป์ติดมือสัก 1 รายการ ไม่ว่าจะเป็น แชมป์เคลีก หรือ เอฟเอ คัพ เรียกว่าเป็นทีมที่การันตีความสำเร็จในทุกปีที่ลงเล่น

อย่างไรก็ดี มันเกิดขึ้นอะไรขึ้นกับ ชอนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ในฤดูกาลนี้ ทำไมสโมสรที่ว่ากันว่าเป็นมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของลีกเกาหลีใต้ กลับต้องพบกับความล้มเหลวที่สุดในรอบทศวรรษแบบนี้

ล่าสุด Sportal Korea สื่อเกาหลีใต้ ได้วิเคราะห์สาเหตุความตกต่ำของ ชอนบุค ซึ่งจุดบกพร่องใหญ่ที่สุด คงหนีไม่พ้นการบริหารงานที่ผิดพลาดของทีมผู้ชุดใหม่ของสโมสร ที่มัวแต่โฟกัสกับการสร้างความมั่นคงในอนาคต จนมองข้ามสถานการณ์ของทีมในปัจจุบัน

PHOTO : Jeonbuk Hyundai Motor

จริงอยู่ว่าการวางรากฐานเพื่ออนาคตเป็นเรื่องที่จำเป็น แต่ผู้บริหารของ ชอนบุค เลือกใช้วิธีที่ส่งผลกระทบต่อทีมโดยตรง ด้วยการโละนักเตะอายุเยอะที่มีค่าจ้างสูงออกไป เพื่อลดขนาดขุมกำลังของทีมให้เล็กลง และสร้างทีมใหม่ที่เน้นนักเตะอายุน้อย ๆ

การโละนักเตะที่มีคุณสมบัติข้างต้นและไม่ค่อยมีบทบาทกับทีมไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งที่ผิดคือมีนักเตะวัยเก๋าที่ยังทำผลงานได้ดีอยู่ถูกโละออกไปด้วย ที่สำคัญนักเตะเหล่านี้ยังมีดีเอ็นเอแห่งผู้ชนะของ ชอนบุค ฝังอยู่ในร่างกาย จากการร่วมคว้าความสำเร็จกับสโมสร

เมื่อสโมสรตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ชอนบุค ต้องการนักเตะที่มีดีเอ็นเอแห่งผู้ชนะเพื่อพลิกสถานการณ์กลับมา ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเตะชุดนี้ยังขาดไป มิหนำซ้ำพวกเขายังเสียผู้เล่นตัวหลักอย่าง ซง มิน-กยู และ อี ดง-จุน ไปเพราะอาการบาดเจ็บ ส่วนดาวยิงตัวหลักอย่าง โช กยู-ซอง ก็ย้ายไปเล่นในต่างแดน ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็สะท้อนผ่านผลการแข่งขัน

ทีมผู้บริหารของ ชอนบุค ยังทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งที่พวกเขาเป็นทีมที่ลงเม็ดเงินมากที่สุดในเคลีกในฤดูกาลนี้ แต่กลับไม่สามารถดึงผู้เล่นต่างชาติที่สร้างความแตกต่างเข้ามาช่วยทีมได้

นักเตะอย่าง โตมัส เปรตาเซ็ค, ราฟาเอล ซิลวา และ อันเดร หลุยส์ ต่างทำผลงานได้ต่ำกว่าความคาดหวัง เมื่อเทียบกับค่าเหนื่อยก้อนโตที่พวกเขาเหล่านี้ได้รับ ซึ่งแตกต่างจากตอนที่มี โมดู บาร์โรว์ และ สตานิสลาฟ อิจูตเชนโก้ อยู่ในทีมโดยสิ้นเชิง

PHOTO : K League

นอกจากนี้ บอร์ดบริหารของ ชอนบุค ยังดำเนินการเปลี่ยนแปลงกุนซือชักช้า ทั้งที่ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล กว่าพวกเขาจะปลด คิม ซัง-ซิค ออกจากตำแหน่ง ต้องรอไปถึงโปรแกรมนัดที่ 10 ซึ่งทีมร่วงลงไปอยู่โซนแดงของตารางแล้ว จากผลงานชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 6

ความจริงคือแฟนบอลของ ชอนบุค พากันประท้วงให้ปลด คิม ซัง-ซิค ตั้งแต่ผ่านไป 5 เกมแรกของฤดูกาล ทั้งชูป้ายไล่ในสนามจนถึงขั้นขวางรถบัสของทีม หลังทีมแพ้ไปถึง 3 เกม ซึ่งผิดวิสัยของทีมแชมเปี้ยนอย่าง ชอนบุค

ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือเหตุผลที่ ชอนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ประสบความล้มเหลวและพบกับจุดตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีของสโมสร ซึ่งถ้าพวกเขาไม่รีบแก้เสียตั้งแต่ตอนนี้ โอกาสที่จะกลับมาทวงความสำเร็จในฟุตบอลลีกเกาหลีใต้ในปีหน้าก็คงเป็นไปได้ยาก

เหมือนกับที่บทวิเคราะห์ในบทความของ Sportal Korea ระบุว่า "แผลที่มีหนองจะไม่สามารถรักษาได้ ถ้าไม่ตัดมันทิ้งไป ช่วงเวลาแห่งชัยชนะของ ชอนบุค เองก็เช่นกัน มันจะไม่มีวันหวนคืนกลับมา ถ้าไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง"

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทีมเคลีก เปลี่ยนตัวผิด มี 12 คนในสนาม ส่อถูกปรับแพ้

อดีตราชาเคลีกในยุคขาลง : ‘ชอนบุก’ น่ากลัวแค่ไหนสำหรับ ทรู แบงค็อก ?

อ้างอิง

https://sportalkorea.com/news/view.php?gisa_uniq=2023110609502036

แชร์บทความนี้
ฟุตบอล, อนิเมะ, กาแฟ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ