เมื่อทัวร์ญี่ปุ่นลง 'ปังยะซัง' : เอกนิษฐ์ กับเกมนัดชิง ลูวาน คัพ สุดโกลาหล
เอกนิษฐ์ ปัญญา มีโอกาสที่เป็นนักเตะไทยคนแรกที่พาต้นสังกัดคว้าเเชมป์ ลูวาน คัพ หรือศึกฟุตบอลถ้วยของญี่ปุ่น หลัง อูราวะ เร้ดส์ ได้เข้าชิงในรายการนี้กับ อวิสป้า ฟุกุโอกะ
ว่ากันตามเนื้อผ้าและเกรดฟุตบอลแล้ว สื่อทุกสำนักของญี่ปุ่นต่างฟันธงลงสกอร์ตรงกันว่าเกมนี้จะจบลงด้วยชัยชนะของ อูราวะ ที่เป็นยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ทว่าสุดท้ายเมื่อลงสนามหน้าเสื่อที่ว่าแข็ง ๆ ก็แตกกระจายได้เหมือนกันเพราะ อวิสป้า ฟุกุโอกะ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพวกเขาตามตำรานัดชิงฟุตบอลถ้วยที่เหล่าทีมเล็กจะสู้ตายถวายหัว
สุดท้ายก็กลายเป็นชัยชนะของ ฟุกุโอกะ 2-1 แบบสมราคากับฟอร์มที่แสดงให้เห็นตลอด 90 นาที ส่วน เอกนิษฐ์ ก็กลายเป็นเป็นนักเตะไทยคนที่ 2 ที่ได้รองแชมป์ในรายการนี้ โดยก่อนหน้า มีเพียง ชนาธิป สรงกระสินธ์ เท่านั้นที่มาถึงรอบชิงชนะเลิศ ในปี 2019 แต่หนนั้น คอนซาโดเล่ ซัปโปโร แพ้ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในการดวลลูกจุดโทษไปอย่างน่าเสียดาย
เรื่องของเกมเป็นอย่างไรบ้าง
เกมนี้ อุราวะ เริ่มเกมด้วยระบบการเล่น 4-2-3-1 โดยในแนวรุกถือเป็นขาประจำของทีมส่วนใหญ่ นำโดย โยชิโอ โคอิซึมิ และ คิโตะ ยาสุอิ เป็นปีกสองข้าง โจเซ่ กานเต้ เป็นกองหน้า และนักเตะที่ตรงกับตำแหน่งของเอกนิษฐ์ ในตำแหน่งกองกลางตัวรุกที่ยืนหลังกองหน้า (วัดจากการโดนเปลี่ยนลงมาเล่นให้กับทีมของ บุ๊ค ในช่วงหลัง ๆ) คือ จุมเป ฮายาคาวะ ซี่งเด็กคนนี้ถือเป็นเด็กมหัศจรรย์คนล่าสุดของวงการฟุตบอลญี่ปุ่นเลยทีเดียว
โดน จุนเป อายุแค่ 17 ปี เท่านั้นแต่ผ่านประสบการณ์ ลงสนามในรอบชิงชนะเลิศและได้แชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022, เป็นผู้เล่นยิงประตูอายุน้อยที่สุดตลอดกาลของ อุราวะ เรดส์, และเจ้าของรางวัล New Hero Award ของ เจลีก วายบีซี เลอแวง คัพ 2023 ซึ่งดูจากรูปการณ์แล้ว ถ้า จุนเป ไม่ย้ายไปเล่นในยุโรปเสียก่อน ก็คงยากที่ เอกนิษฐ์ จะเบียดเด็กอายุ 17 ปีคนนี้ได้
อย่างไรก็ตามว่ากันที่ส่วยของเกมล้วนผลงานของ อูราวะ ไม่ดีเลยแม้แต่คนเดียว ช่วงครึ่งแรกถ้าไม่นับเรื่องการครองบอลที่มากถึง 70% แทบไม่มีอะไรให้ต้องคุย เพราะบอลสุดท้ายจังหวะสุดท้ายไปไม่ถึงจังหวะการจบสกอร์ โดยมีการยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น กลายเป็นว่า ยิ่ง อูราวะ พยายามขึ้นมาขึง แต่พาบอลไปเล่นในพื้นที่สุดท้ายไม่ได้เมื่อไร ฟุกุโอกะ ก็เอาบอลเร็วสวนกลับมาได้ลุ้นมากขึ้นเท่านั้น โดยในครึ่งแรก ฟุกุโอกะ มีโอกาสยิงถึง 6 ครั้งเข้ากรอบ 5 ลูก เรียกว่าบุกได้น้ำได้เนื้อกว่าเยอะ
ครึ่งหลัง อูราวะ แทนที่จะดีขึ้นกลับแย่ลงไปอีก เพราะคราวนี้ทั้งอัตราการครองบอล และอัตราการพาบอลเข้าไปในลุ้นในกรอบเขตโทษไม่ดีขึ้นเลย พวกเขามีโอกาสยิงเข้ากรอบเพิ่มขึ้นอีกเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้นตลอด 45 นาทีหลัง โดย อูราวะ ยิงไปทั้งหมด 9 ครั้งในเกมนี้ โดย 5 จาก 9 ครั้งเกิดขึ้นในช่วง 13 นาทีสุดท้าย ( 5 นาทีสุดท้ายเวลาปกติ+8 นาทีช่วงทดเวลา)
แน่นอนว่าทุกคนในทีมล้วนได้รับคอมเมนต์ในเชิงลบจากแฟนบอล อูราวะ หลังจากเกมจบลงแต่ถ้าพูดถึง เอกนิษฐ์ คนเดียวล่ะ ?
ว่ากันด้วยเรื่องของ เอกนิษฐ์ ล้วน ๆ
เอกนิษฐ์ ลงมาในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมแทนที่ของ เคน อิวาโอะ ซึ่งตอนที่ลงมานั้นตัวรุกของ อูราวะ เต็มไปหมด ในแดนสุดท้ายนั้นมีอย่างน้อย 4-5 คนที่เล่นตรงนั้นทำให้ เอกนิษฐ์ ต้องถอยต่ำลงมายืนตรงกลางสนาม แทบจะเป็นตัวโฮลด์บอลด้วยซ้ำ
ถึงตรงนี้แทบไม่ต้องนึกภาพเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น จริงอยู่ที่เมื่อเป็นนักเตะเมื่อโค้ชสั่งคุณลงตรงไหน คุณต้องเล่นให้เต็มที่โชว์ผลงานให้ดี แต่ตรงนี้มันต่างกันสุดขั้วกับธรรมชาติของเอกนิษฐ์ ที่เป็นบอลที่เก่งในพื้นที่สุดท้ายหรือพื้นที่แดน 3 เพราะคล่องแคล่ว เลี้ยงบอลดี และจบสกอร์ได้คม สอดเข้าไปเป็นตัวเสริมได้เก่งกาจ
ตำแหน่งที่บุ๊คถนัด กับตำแหน่งที่เขาได้เล่นในเกมนี้ใช้ทักษะคนละอย่างกันเลย เพราะการเป็นกองกลางต้องหูตารอบด้าน วิสัยทัศน์ในการจ่ายบอลล้ำหน้า และเสียบอลยาก แข็งแกร่งเข้าปะทะได้ ... ซึ่งนั่นตรงข้ามกับจุดเด่นของ เอกนิษฐ์ ทั้งหมด
กับตำแหน่งที่เอกนิษฐ์ ได้ลงในตำแหน่งตัว โฮลด์บอล ทำทุกอย่างผิดฝาผิดตัวไปหมด เพราะนอกจากเขาจะต้องคอยแจกจ่ายบอลให้แนวรุกคนอื่นเเล้ว เขายังต้องช่วยไล่ตัดเกมแดนกลางเหมือนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับไปด้วย นั่นจึงทำให้ฟอร์มของเอกนิษฐ์ แย่มากหากพูดกันตรง ๆ แบบไม่เอาใจกัน
เรื่องนี้ยืนยันได้จากคอมเม้นต์หลังเกมของแฟนบอลญี่ปุ่นในทวิตเตอร์ที่โพสต์หลังเกมนี้จบว่า เอกนิษฐ์ ศักยภาพไม่พอจะเล่นในเกมระดับนี้ ยกตัวอย่างคอมเมนต์ดังนี้ (สามารถเอาชื่อของเอกนิษฐ์ ภาษาญี่ปุ่น ( パンヤ ) เสิร์ชหาใน X หรือ Twitter เพื่อดูคอมเมนต์เพิ่มเติม)
"เราแพ้ 1-2 และมีครึ่งแรกที่แย่สุด ๆ ส่วน ปังยะซัง (ชื่อแฟนบอลญี่ปุ่นเรียกเอกนิษฐ์) เขายังไม่ได้อยู่ในเลเวลของเกมระดับนี้ ผมไม่เข้าใจทำไมเขาเอาแต่จ่ายบอลขวางสนามไปมาแทนที่จะจ่ายเพื่อเล่นเกมรุก"
"อย่าเอา เอกนิษฐ์ลงเล่นในสถานการณ์สำคัญ ๆ ชี้เป็นชี้ตายแบบนี้อีกเลย"
"ไม่แปลกใจเลยที่เขาได้เป็นตัวสำรอง การผ่านบอลของเขาผิดพลาดง่าย ๆมากมาย เขาเสียบอลในจังหวะที่เราไม่ควรจะเสีย"
"จากนี้ผมเชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจและไม่เถียงแล้วนะว่า เอกนิษฐ์ เหมาะกับการนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองที่สุดแล้ว"
นี่คือตัวอย่างคอมเม้นต์ ที่ดูแรงแต่จริง แน่นอนคนญี่ปุ่นอาจจะไม่ได้รู้จัก เอกนิษฐ์ มากนัก เขาอาจจะไม่รู้ว่า บุ๊ค เป็นนักเตะสไตล์ไหนถนัดตรงไหน ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็น เอกนิษฐ์ ลงเล่นเป็นตัวโฮลด์บอลและผลงานแย่ทัวร์ก็เลยลงหนักประมาณนี้
แน่นอนว่าเราจะโทษว่าเป็นการเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดทั้งหมด 100% ไม่ได้ ส่วนสำคัญหลังจากนี้คือ เอกนิษฐ์ มีเวลาอีกไม่นานนักเพราะเจลีกจะปิดลีกกันในเดือนธันวาคมแล้ว เขาจะต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาตัวเองให้ได้ไม่ว่าจะในแง่ จิตใจ, ร่างกาย หรือทักษะ ที่สุดแล้วถ้าเขาได้ไปต่อกับ อูราวะ ซีซั่นหน้าก็ถือว่าปีนี้เป็นบทเรียนที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนี่คือยาขมที่นักฟุตบอลอาชีพหนีไม่พ้น ยิ่งในเกมระดับนี้แล้ว มันจะช่วยพัฒนาเอกนิษฐ์ ได้ในแง่ใดแง่หนึ่งอย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
สอบผ่านฉลุย : โค้ชอูราวะ ประเมินผลงาน เอกนิษฐ์ ในเกมเจลีกนัดล่าสุด
‘เจ้าร้านขนมปัง’ เปิดที่มาฉายาใหม่เอกนิษฐ์ที่แฟนบอล อุราวะ เรดส์ ตั้งให้