“เงินไม่ออก-สัญญาไม่มี-บัญชีไม่จ่าย” เคลียร์ประเด็นปัญหา ‘ทีมชาติไทย ยู-23’
หลังจากที่ ทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ได้มีการจัดแคมป์เก็บตัวระหว่างช่วง ฟีฟ่า เดย์ รอบนี้ จนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน แต่ได้มีการปล่อยตัวนักเตะบางรายที่สังกัดสโมสรต่างจังหวัดที่อยู่ไกล และใช้เวลาเดินทางนานกลับไปก่อนบางส่วน
ซึ่งตัวของ ‘โค้ชหระ-อิสสระ ศรีทะโร’ ที่เงินเดือนช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมายังไม่ออก แต่ยังทำงานตามปกติอย่างเต็มที่ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแคมป์เก็บตัวในรอบนี้ว่า
“การเก็บตัวครั้งนี้เป็นเรื่องดีมากหลังไม่ได้เจอกันนานกว่าสองเดือน จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากนักเตะ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยมา นั่นคือเป้าหมายของการมีแคมป์นี้ เพื่อยกระดับทีมและหาตัวแทนเผื่อมีผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ ให้คนที่อยู่มาก่อนทบทวนแท็คติกให้กับผู้เล่นใหม่ เกิดการย้ำคิดย้ำทำจนเกิดการเล่นที่ช่ำชองยิ่งขึ้น”
“นักเตะใหม่หลายคนทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ แต่ยังคาดหวังหลายสิ่งหลายอย่างจากพวกเขา ส่วนนักเตะที่เป็นตัวหลักอยู่แล้ว ก็ต้องการให้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่านี้เพื่อสามารถช่วยทีมได้โดยองค์รวม คนที่ไม่ได้มาในรอบนี้ ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีชื่ออีก ยังคงติดตามฟอร์มและมีข้อมูลอยู่แล้ว คาดหวังให้น้องๆ ทุกคนทำผลงานให้ดีกับต้นสังกัดต่อไป เพื่อทีมงานจะได้เลือกคนที่ดีที่สุดมาแข่งขันในรายการสำคัญต่อไป”
ด้านประเด็นของสัญญา โค้ชหระ ที่หมดไปตั้งแต่เดือนกันยายน และไม่มีเงินเดือนช่วงเดือนตุลาคมเข้ามา แต่ยังคงทำงานตามปกติ ความจริงแล้วการพูดคุยกับทีมบริหารของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยไปแล้วตั้งแต่ก่อนรับงาน หากสามารถพาทีมผ่านเข้าศึก ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ได้สำเร็จ สัญญาจะต่อแบบอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตามทางสมาคมไม่ได้มีการยื่นสัญญาฉบับใหม่เข้ามาให้เซ็น ทางฝ่ายบัญชีไม่มีเอกสารยืนยันในการจ่ายเงินเดือน ดังนั้นจึงไม่สามารถทำการเบิกจ่ายได้ตามขั้นตอน ซึ่งตอนแรกทีมสตาฟฟ์ทุกคนมองว่าไม่มีแคมป์เก็บตัวเลยอาจไม่มีเงินเดือน จนเรื่องมาถึงสื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวเรื่องที่คลุมเครือนี้ออกไป
หลังจากนั้นทางสมาคมก็ได้มีการตอบสนองด้วยการแจ้งกับ โค้ชหระ ว่าจะมีการเรียกเข้าไปเซ็นสัญญาฉบับใหม่ พร้อมกับทำการจ่ายเงินเดือนของเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนให้ เมื่อขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงต่อจากนี้ คือ เรื่องของงบประมาณการทำทีมที่ทางสมาคมแจ้งว่า ‘ไม่มี’ ทำให้ร้อนไปถึงผู้จัดการทีมอย่าง บิ๊กหยิม-ยุทธนา หยิมการุณ ต้องวิ่งหาเงินสนับสนุนด้วยตัวเองเหมือนเคยๆ ซึ่งดูแล้วเหมือนเป็นการบริหารงานที่ไม่สอดคล้องไปกับเป้าหมายใหญ่อย่าง การคว้าตั๋ว โอลิมปิก เกมส์ จากผลงานในรายการชิงแชมป์เอเชียเอาเสียเลย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=L3FHIS5Wfsc&t=2
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ