เพราะเหตุใดนักเตะโอนสัญชาติต้องเปลี่ยนเป็น “ชื่อจีน” เมื่อเล่นให้ขุนพลมังกร?
การโอนสัญชาติ ถือเป็นกลยุทธ์ที่หลายชาติใช้เป็นทางลัดในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมชาติของตน และมันก็ถูกใช้มากว่าหลายสิบปี
เช่นกันสำหรับ ทีมชาติจีน ที่ก่อนหน้านี้มันคือหนึ่งในนโยบายสำคัญ ด้วยเป้าหมายเพื่อผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ทำให้พวกเขาได้นักเตะอย่าง เอลเคสัน, อลัน คาร์วัลโญ, นิโก้ เยเนริส ไปจนถึง ไทอัส บราวนิ่ง มาร่วมทัพ
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต่างออกไปจากชาติอื่น คือนักเตะเหล่านี้ ต้องเปลี่ยนมาใช้ชื่อจีน อย่าง เอลเคสัน ก็กลายเป็น อ้าย เค่อเสิน หรือ ไทอัส บราวนิ่ง ก็เป็น เจียง กั๋วไท่ เป็นต้น
เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
ทำไมต้องใช้ชื่อจีน?
จีนถือเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานหลายพันปี และชาวจีนก็ภาคภูมิใจในสิ่งนี้ ดังนั้นการที่ผู้เล่นต่างชาติจะแปลงสัญชาติ มาเป็นพวกเขา จึงต้องผ่านกระบวนการการทำให้เป็นจีนมากที่สุด และหนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาจีน
เนื่องจากพวกเขาเป็นประเทศที่มีความเป็นชาตินิยมสูง อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมที่ไม่ใช่ชื่อแบบทับศัพท์ ทำให้อะไรก็ตามที่เป็นของต่างชาติ หากเข้ามาในจีน จะต้องถูกเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาจีนทั้งหมด ที่ไม่ใช่แค่นักฟุตบอล แต่ยังรวมไปถึงแบรนด์ หรือสินค้าต่างประเทศ
“แบรนด์ต่างชาติที่เข้ามาในจีน จะมีชื่อภาษาจีนทุกแบรนด์ เพียงแต่ว่าจะเป็นชื่อภาษาจีนแบบทับเสียง คือเสียงจะคล้ายๆ กับแบรนด์เดิม หรือว่าเขาตั้งเป็นภาษาจีนขึ้นมาไม่เกี่ยวกันเลย” จ้าว ชุนเจียว ยูทูปเปอร์ชาวจีนอธิบายผ่านช่องส่วนตัว
“คนจีน 1,400 ล้านกว่าคน คนที่อ่านภาษาอังกฤษได้ยังมีน้อยมาก คือแบรนด์นี้พอเข้ามาในประเทศจีนแล้ว เขาจะตีตลาดคนจีน ทำให้คนจีนอ่านไม่ออก ดูไม่ออก ไม่รู้ว่าคืออะไร เพราะฉะนั้น เขาก็ต้องคิดชื่อภาษาจีน ตามลักษณะเฉพาะ เพื่อให้คนจีนอ่านง่าย เข้าใจง่าย รู้ง่าย”
ทั้งนี้ ชื่อส่วนใหญ่ มักจะเป็นการถอดมาจากชื่อเดิม แล้วใช้เสียงจีนแทนเข้าไป โดยความหมายอาจจะต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หรือบางครั้งอาจจะเป็นการตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
ยกตัวอย่างเช่น เอลเคสัน (Elkeson) กองหน้าชาวบราซิล ที่เปลี่ยนมาใช้ อ้าย เค่อเซิน (Ai Kesen) สามคำในชื่อเขามีความหมายว่า งดงาม, พิชิต และ ป่า เป็นต้น
หรือ อลัน คาร์วัลโญ (Alan) เพื่อนร่วมชาติ เอลเคสัน ที่ลงรับใช้ทีมชาติจีนไปตั้งแต่ปี 2021 ก็ใช้ชื่อจีนว่า อา หลาน (A Lan) ที่แปลว่า เอาใจและ กล้วยไม้เป็นต้น
ขณะที่ อลอยซิโอ อาจจะต่างออกไป เนื่องจากเขาเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ลก กัวะฟู (Luo Guofu) ที่ไม่มีเสียงเดิมอยู่เลย โดยมีความหมายว่า ประเทศร่ำรวย
ไม่ต่างจาก นิโก เยเนริส แม้ว่าเขาจะใช้ ลี ตามแซ่เดิมของแม่ แต่ชื่อของเขาก็แทบไม่มีเค้าเดิม หลังใช้ว่า ลี่ เค่อ (Li Ke) โดยมีความหมายในภาษาจีนว่าทำได้หรือรับรอง
“จีนมีคำจำกัดความว่าอะไรคือจีน อะไรไม่ใช่ ในเชิงขาวกับดำ” คาเมรอน วิลสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลจีนกล่าวกับ CNN
“สิ่งนี้ท้าทายว่าความเป็นจีนคืออย่างไรในที่สาธารณะ”
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนชื่อไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้ถูกรับรองเป็นจีน
ปลูกฝังถึงรากฐาน
แม้ว่าการโอนสัญชาติให้นักฟุตบอลต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจีนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้มงวดกับการแปลงสัญชาติมากที่สุดชาติหนึ่งของโลก
ทำให้นอกจากผู้เล่นคนดังกล่าวจะอาศัยอยู่ในจีนเกินกว่า 5 ปีตามกฎของฟีฟ่าแล้ว พวกเขายังจำเป็นต้องละทิ้งสัญชาติเดิม เนื่องจากจีนไม่มีกฎหมายอนุญาตให้ถือ 2 สัญชาติ
ทว่า สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือนักเตะที่จะแปลงสัญชาติ จำเป็นต้องได้รับการปรับทัศนคติ ปลูกฝังความรักชาติ รวมไปถึงต้องเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถานการณ์ปัจจุบันของจีนในเวทีโลก
“ผู้เล่นโอนสัญชาติควรได้รับการศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน รวมถึงเรียนรู้ประวัติศาสตร์จีน และสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศ” ประกาศของสมาคมฟุตบอลจีน (CFA)
“การโอนสัญชาติมาเป็นพลเมือง มีความหมายว่าผู้เล่นจะต้องเหมือนกับพลเมืองจีนคนอื่น”
ทั้งนี้ ผู้ที่รับหน้าที่นี้คือพรรคคอมมิสต์จีนในระดับท้องถิ่น เช่นกันกับสโมสรที่ต้องคอยติดตามการดำเนินชีวิตและแนวคิดว่าขัดกับการเป็นพลเมืองจีน หรือเป็นภัยความมั่นคงของรัฐหรือไม่
“องค์กรรากหญ้าของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ดูแลสโมสรฟุตบอล จะรับหน้าที่ให้ความรู้แก่นักฟุตบอลในเรื่องประวัติศาสตร์ และทฤษฎีพื้นฐานของพรรค” คำสั่งของรัฐบาลจีนระบุ
“สโมสรฟุตบอลต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษคอยติดตามแนวคิดของนักฟุตบอลคนดังกล่าว และผลงานในการฝึกซ้อมและเกมการแข่งขัน รายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรจะถูกส่งให้สมาคมฟุตบอลฯในทุกเดือน”
นอกจากนี้ ในฐานะผู้เล่นทีมชาติ นักเตะโอนสัญชาติทุกคน ยังต้องจำธงชาติ สัญลักษณ์ประเทศ และร้องเพลงชาติจีนให้ได้ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าพวกเขาคือพลเมืองของจีนอย่างแท้จริง
“ผมได้เรียน (เพลงชาติจีน) ตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรก ดังนั้นมันจึงค่อยเป็นค่อยไป” นิโก เยเนริส หรือ ลี เค่อ กล่าวกับ The Guardian เมื่อปี 2019
“ผมยังเรียนต่อไป และหวังว่าในอีกไม่กี่เดือน ผมจะสามารถให้สัมภาษณ์เป็นภาษาจีนได้”
สิ่งเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่า การเป็นผู้เล่นโอนสัญชาติในจีนไม่ใช่เรื่องง่าย และพวกเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนชื่อเพียงอย่างเดียว แต่ต้องทั้งวิถีชีวิตและแนวคิด เพื่อให้กลมกลืนและเป็นที่ยอมรับสำหรับคนในประเทศ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความชาตินิยมในระดับสูง
แหล่งอ้างอิง
https://edition.cnn.com/2019/07/29/china/foreign-footballers-becoming-chinese-intl-hnk/index.html
https://theasiadialogue.com/2019/04/09/chinas-awkward-embrace-of-naturalised-football-players/
https://www.sixthtone.com/news/1009379
https://www.theguardian.com/football/2019/jul/01/china-football-nico-yennaris-li-ke-marcello-lippi
https://www.economist.com/china/2019/10/17/chinas-football-fans-ask-what-it-takes-to-become-chinese